เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องของคุณอึ้งย้งครับ เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2555 คุณอึ้งย้งเล่าว่า.. ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมค่ะ ปกติทุกๆ ปิดเทอมย้งจะไปอยู่กับแม่ แม่ย้งเป็นเซลล์ขายที่-ขายคอนโดอยู่ที่พัทยากลาง วันนั้นแม่ย้งไปทำงานที่บริษัทตามปกติ ย้งก็นอนเล่นอยู่ที่บ้านกับญาติชื่อว่า พี่ยู ค่ะ.. ตอนบ่ายๆ แม่ก็โทรมาหาย้ง บอกว่าลูกค้าของแม่ต้องการจะหาที่ เพื่อทำเป็นโรงแรมเล็กๆ แม่เลยวานให้ย้ง กับพี่ยูออกไปหาที่ที่ติดป้ายประกาศขายค่ะ
ย้งกับพี่ยูเลยขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตระเวนหาที่ให้แม่ จนไปเจออยู่ที่นึงค่ะ อยู่พัทยากลาง เป็นอพาร์ทเม้นท์เก่าๆ 2 ชั้นติดป้ายว่าขาย เลยจอดรถ และขอลุงยามที่เฝ้าขึ้นไปดูค่ะ เพราะแม่ย้งให้สำรวจคร่าวๆ พร้อมถ่ายรูปว่าสภาพดีหรือเปล่า.. พอขึ้นไปชั้น 2 ย้งรู้สึกเหม็นอับๆ อึดอัด บอกไม่ถูก พี่ยูก็บอกให้แยกกันไปสำรวจดูคนละห้องจะได้ไว ตอนแรกย้งไม่ยอม เพราะกลัวค่ะ แต่สุดท้ายก็ยอมไปเพราะโดนพี่ยูดุ.. ย้งแยกไปอีกทาง โดยเดินไปห้องสุดท้ายก่อน ก็เปิดเข้าไปดู ปรากฎว่าเป็นห้องเปล่าไม่มีอะไร.. ย้งเลยปิด และสำรวจห้องอื่นๆ ต่อ พอดูเสร็จกำลังจะหันหลังเดินกลับไปหาพี่ยู ย้งก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีเงาคนเดินสวนไป! วูบขนาดที่ว่าผมปลิวเลยค่ะ ย้งชะงักไปพักนึง ก่อนจะหันกลับไป แต่ก็ไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นนี่คือรู้สึกหนาวๆ เย็นๆ ขึ้นมาแถมขนแขนยังลุกเองอีกด้วยค่ะ
ย้งรีบกลับไปหาพี่ยูทันที เห็นพี่ยูกำลังพยายามเปิดประตูห้องห้องหนึ่งอยู่ ย้งเลยถามว่า ‘มีอะไรรึเปล่า?’ พี่ยูตอบว่า ‘ห้องนี้มันเปิดไม่ได้ สงสัยลุงยามล็อคไว้ ลงกันเถอะ’ ย้งที่อยากรีบลงอยู่แล้วเลยตอบตกลงทันที.. พอกำลังจะเดินลงบันไดกัน ก็ต้องหยุด เพราะมีเสียงดัง ‘แอดด..’ เป็นเสียงประตูเปิดช้าๆ ค่ะ ย้งกับพี่ยูหันหลังกลับไปดู มันคือประตูที่พี่ยูเปิดไม่ได้เมื่อกี้ แต่ตอนนี้มันเปิดอ้ากว้างเลยค่ะ.. ย้งยืนนิ่งเพราะตกใจ ว่าประตูมันจะเปิดเองได้ไง? พี่ยูเลยลากย้งไปดูห้องนั้นค่ะ พอถึงหน้าห้อง พี่ยูก็เข้าไปในห้องแบบระแวงๆ ค่ะ แต่ย้งได้แต่ยืนสั่นอยู่หน้าห้อง เพราะเห็นว่าในห้องมีศาลไม้เตี้ยๆ ตั้งอยู่กลางห้องเลยค่ะ
พี่ยูเดินเข้าไปดู ก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้าศาล ตอนนี้ย้งรู้สึกอึดอัดสุดๆ เลยพยายามเรียกให้พี่ยูออกมา และพี่ยูก็หันมาทางย้งพร้อมกับทำตาโต แต่สายตาพี่ยูไม่ได้มองย้งค่ะ แต่กลับมองไปที่ข้างหลังย้ง! ย้งไม่กล้าหันไปมองตาม เลยค่ะ.. พี่ยูรีบเดินมาจับแขนย้ง และกระชากพาวิ่งลงบันได เหมือนวิ่งหนีอะไรสักอย่าง พอถึงชั้นล่างพี่ยูก็ปล่อยแขนย้ง และเดินไปหาลุงยามที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนทันที
พี่ยูถามลุงยามว่า ‘ลุงคะ ชั้น 2 ทำไมมีห้องนึงเปิดไม่ได้?’ ลุงก็ตอบแบบยิ้มๆ ว่า ‘เจ้าของเขาล็อคไว้น่ะ’ พี่ยูเลยบอกลุงไปว่า ‘แต่ลุงคะ เมื่อกี้จู่ๆ ประตูห้องนั้นมันก็เปิดเอง มีศาลไม้ข้างในด้วย..’ ลุงยามจากหน้ายิ้มๆ นี่ซีดเลย และถามพี่ยูกลับว่า ‘เจออะไรมาหรือเปล่า?’ พี่ยูก็เล่าสิ่งที่เห็นว่า ‘ทีแรกหนูลองเปิดประตูดู แต่เปิดไม่ออก เลยจะลงมาข้างล่างละ แต่อยู่ๆ ประตูก็เปิดเอง หนูกับน้องเลยกลับไปดู มันมีศาลไม้ข้างในห้องด้วย หนูก็เข้าไปดู แต่พอหันกลับมาหาน้องเท่านั้นล่ะ หนูเห็นผู้หญิงตัวขาวซีด หน้ายุบ เละจนดูไม่ออก สวมชุดนอนกระโปรงสีขาว ยืนอยู่ข้างหลังน้องหนู และเธอไม่มีขา!’ ..พอพี่ยูพูดจบขาย้งนี่อ่อนเลยค่ะ.. หรือความรู้สึกอึดอัดที่ย้งรู้สึก จะเป็นความสัมผัสที่ ‘ผี’ มายืนข้างหลังตอนนั้น!
ลุงยามเลยต้องยอมเล่าให้ฟังว่า ‘3 ปีก่อน ห้องนั้นมีวัยรุ่นชายหญิงมาพักด้วยกัน แล้วเกิดทะเลาะกัน ฝ่ายชายเลยย้ายออกไป.. แล้วพอ 3 วันต่อมา ก็มีคนได้กลิ่นเหม็นเน่ามาจากห้องนั้น จนต้องมาให้ลุงช่วยเปิดเข้าไปดู ก็เจอศพผู้หญิงนอนจมกองเลือดอยู่กลางห้องเลย หน้านี่เละเหมือนถูกทุบด้วยของแข็งซ้ำแล้วซ้ำอีก.. และจากนั้นมา ก็มีคนได้ยินเสียงทุบประตูจากห้องนั้นบ้าง ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องบ้าง เลยพากันย้ายออกจนหมด เเละร้างนี่แหละ..’ พี่ยูกับย้งรีบลาลุงยาม และออกจากตึกนั้นทันที พร้อมกับมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร ถึงย้งจะไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง แต่ก็ขอบอกเลยว่าหลอน และระแวงหลังจนถึงทุกวันนี้..
Story by คุณอึ้งย้ง