เรื่องนี้เป็นภาคต่อที่ส่งเข้ามาจากคุณเบิร์ท (เรื่องที่ 165) ครับ คุณเบิร์ทเล่าว่า.. ครั้งที่แล้วลืมบอกไป ว่าบ้านนี้อยู่แถวพระประแดง เป็นบ้านอยู่ในสวนครับ และหลังจากคืนนั้นที่ผมเจอ ผมก็เล่าให้แม่ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ผมก็บอกให้ผมทำตามที่เขาต้องการซะ จะได้สบายใจ.. ผมก็ทำครับ เริ่มด้วยการไปซื้อสีมาเตรียมทาขอบหน้าต่าง และซื้อผ้าสีที่ไม่มีสีแดง แล้วของทุกอย่างที่ซื้อ ก็ถูกผมกองทิ้งไว้เฉยๆ ที่บ้านอย่างนั้น จนกระทั่งผ่านไปได้ประมาณ 3 เดือน จะว่าผมสมควรโดนก็ได้ครับ ผมก็ยอมรับ

จนมีอยู่วันหนึ่ง หมาที่บ้านของผมก็ถูกคนแถวบ้านวางยาครับ ตายเกือบหมดเหลือรอดมาแค่ 2 ตัว ผมได้แต่ร้องไห้ และก็แค้นในใจ ว่าอย่าให้รู้นะว่าใครทำ.. พอผมฝังศพหมาที่ตายไปเสร็จ คำพูดของ ‘เจ๊ตี่’ วันนั้นก็แว่บเข้ามาในหัวผมทันที ‘กูให้มึงเลี้ยงหมาได้แค่ไม่เกิน 2 ตัว มึงรู้ไหมว่ากูเหม็นขี้หมา’ ผมเลยคิดในใจว่า หรือจะเป็นเพราะเราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย?’

วันนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะเริ่มทำแบบจริงๆ จังๆ ผมขึ้นไปถอนตะปูที่เสากลางบ้านจนเกลี้ยง แล้วก็เปลี่ยนผ้าสามสีครับ พอเสร็จก็เริ่มทาสีขอบหน้าต่าง ทาตั้งแต่บ่ายยัน 5 ทุ่มเกือบๆ เที่ยงคืน ที่นานเนื่องจากผมทาคนเดียว และบ้านผมมีหน้าต่างหลายบานมากครับ ตอนทาก็ทาไปด้วยดูทีวีไปด้วย กำลังสนุกเลย ตอนนั้นผมปีนบันไดช่าง กำลังทาสีที่ขอบประตูชั้นบน ประตูเปิดอยู่นะครับ จู่ๆ ก็มีเงาคนดำๆ เดินตัดลอดใต้บันไดผมเข้าห้องไปเฉยๆ!! ผมขนลุกมากๆ มือไม้อ่อนเลยครับ ผมรีบวิ่งไปนอนห้องน้องทันที น้ำท่าไม่อาบละ

คืนนั้น น้องผมนอนชิดหน้าต่าง ส่วนผมนอนอยู่ริมหิ้งพระ เป็นเตียง 3.5 ฟุตเล็กๆ ทำจากเหล็กครับ.. ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่า ครึ่งตัวบนของผมนอนอยู่ที่พื้น ส่วนช่วงเอวจนถึงเท้าจะอยู่บนเตียง.. ตอนนั้นผมงงมากๆ เลยจะลุกกลับขึ้นเตียงนอนดีๆ ปรากฏว่าสายตาของผม เหลือบไปเห็นเท้าอยู่ข้างหนึ่ง ที่เหยียบอยู่ที่ท้องผม เหมือนเหยียบกดไม่ให้ผมขยับ ตอนนั้นตื่นแล้วแน่ๆ ทุกอย่างมันไม่ใช่ความฝันหรือผีอำอะไร พอตั้งสติกำลังจะออกแรงขยับตัว เขาก็ขึ้นมาเหยียบผมทั้งตัวเลยครับ ตอนนั้นหนักมาก ผมหลับตาอย่างเดียวไม่กล้าลืมเลย และเสียงไม้เท้าที่กระทบพื้น มันก็ดังขึ้นมาอยู่ข้างตัวผมนี่แหล่ะ จนทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาดู โอ้โหคุณพระ! ชัตเตอร์มากๆ ครับ เป็นผู้ชายแก่หน้าดำ ใส่ชุดสีขาวทั้งชุด มายืนเหยียบหน้าอกผม แล้วใช้ไม้เท้ายันพื้นไว้ ตานี่แบบสีแดงก่ำเลยครับ

ผมสวดมนต์ยังไงก็ไม่หลุด จนนึกถึงแม่ แล้วก็กระชากสร้อยพระที่ใส่จนขาด แล้วเอาเหวี่ยงไปมา พร้อมกับด่าเขาหนักมากๆ ครับ หยาบคายเลย จับใจความได้ประมาณว่า ‘ทำให้แล้วยังจะเอาอะไรกับกูอีก!?’ สักพักเขาก็หายไปครับ จนพ่อผมคงได้ยินเสียงเอะอะ เลยวิ่งถือมีดขึ้นมา คงคิดว่าผมคงกำลังต่อสู้กับโจรแน่ๆ ผมเจอพ่อตอนนั้น ความรู้สึกคืออยากจะกอดพ่อเลยทันที.. หลังจากนั้น ผมรีบคว้าหมอนผ้าห่ม แล้ววิ่งลงไปนอนต่อกับแม่ข้างล่างเลยครับ

หลังจากเหตุการณ์นั้น ชีวิตผมก็เจอเรื่องอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยๆ เหมือนมันตามผมไปด้วย ทั้งที่หอ ทั้งบ้านเพื่อน จนกระทั่งทุกวันนี้ ผมย้ายมาอยู่แถวบางบัวทอง มันก็ยังตามมาหลอกหลอนผมไม่เลิก..

Story by คุณเบิร์ท

ความคิดเห็น