เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณเลิฟครับ คุณเลิฟเล่าว่า.. ผมเป็นคนนครสวรรค์ครับ เมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน ตอนผมเรียนจบใหม่ๆ ช่วงนั้นผมเที่ยวกลางคืนเกือบทุกคืน มีเพื่อนกินเหล้า เข้าผับตลอด จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งในผับ เธอสวย และอายุไล่เลี่ยกับผมเลย ผมบอกเพื่อนว่าชอบ จะจีบ แล้วผมก็จีบเธอติดด้วยสิครับ ช่วงนั้นผมหลงเธอมากๆ ถึงขนาดพาเธอมาอยู่ที่บ้านผมเลย แต่นิสัยเธอเป็นคนขี้เกียจ ตื่นสาย งานบ้านไม่ทำ จานไม่ล้าง เอาแต่ใช้เงินเที่ยวเตร่ไปเรื่อย แม่ผมไม่ชอบเอามากๆ และเธอก็ยังทะเลาะกับแม่ผมบ่อย จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกับแม่ผม จนผมทนไม่ไหว เลยเอ่ยปากไล่เธอออกไปจากบ้าน แต่เธอไม่ร้องไห้เลยครับ แถมยังชี้หน้าผม กับแม่ แล้วพูดจาอาฆาตไว้ว่า ‘แล้วพวกมึงจะได้เห็นดี กูไม่เอาพวกมึงไว้แน่!’ แล้วเธอก็เก็บข้าวของออกไปจากบ้านไป..

ช่วงนั้นแม่ห้ามผมเที่ยวกลางคืนอีก เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เธอคนนั้นอาจจะจ้างคนมาทำร้ายผมก็ได้ ผมก็โอเค ไม่ไปก็ไม่ไป เลยได้แต่อยู่กับบ้าน ถ้าเหงาก็ซื้อเบียร์มานั่งจิบในห้องเอา เป็นอย่างนี้ประมาณ 2 อาทิตย์.. จนคืนหนึ่ง ก็เกิดเรื่องครับ วันนั้นผมรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ คือมันตัวร้อนๆ เหมือนเริ่มจะเป็นไข้ อาบน้ำก็ไม่หาย เลยกินยาแล้วเข้านอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมดิ้นไปมานอนไม่หลับ อยู่ๆ ก็คิดถึงเธอคนนั้นขึ้นมาดื้อๆ ทั้งที่ไม่เคยคิดถึงเลยตั้งแต่เธอจากไป ผมลุกขึ้นจากเตียงไปดื่มน้ำในตู้เย็น อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลมพัดมาปะทะตัววูบนึง แรงมาก ผมมองไปที่หน้าต่างห้องครัวเห็นมันเปิดอยู่ ก็เข้าใจว่าฝนใกล้ตกลมเลยพัดเข้ามา ผมเลยเดินไปปิดแล้วขึ้นไปนอนต่อ ใช้เวลาสักพักผมถึงจะหลับ.. แต่แล้วผมก็มาสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ผมนอนตะแคงอยู่ แต่มันรู้สึกเหมือนมีคนมานอนอยู่ข้างหลังผม คือได้ยินเสียงหายใจชัดเจนดัง ‘ฟืด ฟาด’ ยาวๆ ช้าๆ เป็นจังหวะ ผมเริ่มใจไม่ดีละ สักพัก สิ่งที่อยู่ข้างหลังผม มันก็ดึงมือผมไป รู้สึกได้ถึงความเย็น เหมือนเอามือไปแช่ในน้ำเย็นยังไงยังงั้น ผมรวบรวมกำลังเด้งตัวขึ้นมา แสงไฟจากโคมไฟบนหัวนอนทำให้มองเห็นรอบๆ ห้องได้ แต่ก็ไม่มีอะไร ว่างเปล่า.. ตอนนั้นผมไม่กลัวเท่าไรนะ แต่ตกใจมากกว่า ยังคิดเอาว่าคงฝันไป หรือน่าจะเกิดจากพิษไข้ก็เป็นได้

เช้ามาผมก็ไปทำงานตามปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอตกกลางคืนเวลานอน ผมมักจะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ผมเล่าข้างต้นบ่อยๆ แรกๆ ก็คืนเว้น 2-3 คืน.. คืนเว้นคืน.. จนหลังๆ มาผมเจอทุกคืน.. และคืนที่เลวร้ายที่สุดก็มาถึงครับ คืนนั้นผมเข้านอนตามปกติ สวดมนต์ก่อนนอน พอกำลังจะเคลิ้มหลับ ไอ้สิ่งนั้นมันก็มาอีกแล้ว และคราวนี้มันจัดผมหนักเลย มาทั้งรูป ทั้งกลิ่น ทั้งสัมผัส คือมันมานอนกอดผมเลยครับ ผมเหลือบหางตามอง มันเป็นรูปร่างเหมือนคน ตามตัวมีแต่แผล เหมือนแผลไฟไหม้ ดำๆ แดงๆ ทั้งหน้าทั้งตัวเลย กลิ่นเหม็นเหมือนเนื้อเน่าไหม้ๆ เค็มๆ ตลบอวบอวลไปหมด ผมนี่แทบจะอ้วกให้ได้ และยิ่งไปกว่านั้น มันมากระซิบข้างหูผมครับว่า ‘เรารักเธอนะ.. เรารักเธอนะ..’ แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเยาะเย้ย จนผมแสบแก้วหูไปหมด ผมกลัวจนร้องไห้ ฉี่แตก นี่เล่าแบบไม่อายเลยครับ คือกลัวจนช็อคสลบไปเลย.. มารู้สึกตัวก็เช้าแล้ว จับไข้อีกรอบ ไม่ได้ไปทำงาน แต่ผมก็ยังไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง กลัวแม่จะเป็นห่วง

ช่วงนั้นผมไม่อยากให้มีกลางคืนเลย พอตะวันตกดิน ผมจะไม่อยากเข้านอน บางคืนฝืนไปถึงตี 2 ตี 3 ให้มันง่วงจัดๆ จนสวิทช์ตัดไปเองค่อยนอน แต่บางครั้งก็ไม่รอดครับ มันยังตามรังควาญผมตลอด จนผมเริ่มโทรมเพราะไม่ได้หลับได้นอน จนหนักเข้าผมไม่นอนบ้านละครับ พอเลิกงานกลับมาอาบน้ำกินข้าวกับแม่เสร็จ ก็ต้องโกหกว่ามีงาน แล้วขับรถออกไป ขับไปจนกว่าจะง่วง อาศัยจอดนอนตามปั๊ม ตามที่จอดรถโรงแรม อพาร์ทเม้นท์ ที่เขาให้จอดฟรี.. เป็นแบบนี้อยู่หลายวัน แต่ก็แปลกที่ผมนอนในรถกลับไม่เจอไอ้สิ่งนั้น แต่ผมก็ไม่ไหวครับ ร่างกายมันทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ไปหลับตอนทำงานเป็นประจำจนถูกตำหนิ งานการเสีย สุขภาพกาย สุขภาพจิตเสีย เพื่อนๆ บอกผมเริ่มพูดคนเดียว ซึ่งผมก็ไม่รู้ตัวเองมาก่อน ได้แต่งงว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับผมวะ? พอผมกลับมานอนบ้าน ผมก็เจอไอ้สิ่งนั้นอีกทุกคืน เชื่อไหมครับ ผมร้องไห้ หัวเราะ ชกกำแพง เหมือนเสียสติเลย จนแม่ผมนึกว่าผมเป็นบ้า ต้องพาไปรักษาที่จิตเวช พอผมเล่าเรื่องให้หมอฟัง หมอก็บอกว่าผมคิดไปเอง เครียด มีอาการของโรคซึมเศร้า เลยให้แต่ยานอนหลับมากินก่อน.. ตอนนั้นผมเสียงาน โดนเลิกจ้าง เพื่อนฝูงไม่คบ คิดว่าผมบ้า มีแต่แม่เท่านั้นที่คอยดูแลผม ช่วงนั้นผมคิดอยากฆ่าตัวตายจริงๆ คือมันกลัวจนถึงขีดสุดแล้ว

จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมขับรถออกจากบ้านไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย จนเริ่มรู้สึกคอแห้ง เลยแวะซื้อน้ำดื่ม ขณะกำลังเลือกน้ำในตู้ หูผมก็ได้ยินเสียงคนแก่ 2 คนคุยกัน จับใจความได้ว่า ‘ลูกเขยฉันนะ โดนเมียน้อยทำของ เกือบตายแล้ว ดีนะได้อาจารย์ช่วยไว้ทัน..’ เท่านั้นล่ะครับ มันเหมือนมีพระมาโปรด หรืออะไรก็แล้วแต่ เหมือนเทปกรอย้อนกลับไปถึงคำพูดอาฆาตของเธอคนนั้น ผมเริ่มคิดแล้วว่าผมอาจจะโดนของ ผมไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาป้า 2 คนนั้นแล้วถามว่า ‘อาจารย์ท่านนั้นอยู่ที่ไหนครับ?’ ป้าแกก็ทำหน้างงๆ แต่แกก็บอกที่อยู่กับผมมา บอกว่าชื่ออาจารย์สมบัติ เป็นหมอไสยศาสตร์ แก้มนต์ดำต่างๆ ผมรีบจดที่อยู่ทางไปอย่างละเอียด พอกลับมาบ้าน ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ผมตกใจมากแทบจะร้องไห้ บอกว่า ‘ทำไมไม่รีบบอก ปล่อยจนถึงขนาดนี้ไม่ตาย ไม่บ้าก็บุญแล้วลูก..’

วันรุ่งขึ้น ผมกับแม่รีบออกจากบ้านไปตามที่อยู่ของอาจารย์สมบัติทันที ทางไปค่อนข้างไกล และกันดารมาก ออกจากตัวอำเภอไปไกล แถมต้องเข้าไปยังหมู่บ้านที่ไม่มีถนน มีแต่ทางลูกรัง และคันนาในสมัยนั้น กว่าจะไปถึงเล่นเอาเหนื่อยครับ พอถึงผมก็เล่าทุกอย่างให้อาจารย์สมบัติฟัง อาจารย์แกนั่งหลับตาพักนึง แล้วบอกว่า ‘โดนจริงๆ ของแรงมาก เป็นของพวกแขก ถ้าไม่แก้อาจถึงตาย หรือไม่ก็เป็นบ้าบอไปเลย..’ แล้วอาจารย์ก็บอกให้ผมเตรียมของมาในวันรุ่งขึ้น มีไข่ไก่ 6 ฟอง ธูป เทียนขี้ผึ้งแท้ บุหรี่ หมากพลู และน้ำเปล่า.. วันรุ่งขึ้น ผมกับแม่ก็กลับมาหาอาจารย์อีก อาจารย์บอกให้ผมถอดเสื้อ ถอดกางเกง แล้วให้นุ่งผ้าขาวม้า ทำพิธีขั้นแรก อาจารย์ให้แม่ผมเอาไข่ไก่ที่ซื้อมา 6 ฟอง มาวนรอบๆ ตัวผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วจากนั้นอาจารย์ก็ตอกไข่ใส่กาละมังให้ดู เชื่อไหมครับว่า ไข่ทั้ง 6 ฟองที่ตอกออกมานั้นเน่าหมดเลย มีหยดเลือดบ้าง ไข่แดงแตกเป็นสีคล้ำบ้าง ซึ่งก่อนมาผมเป็นคนไปซื้อไข่มาเองจากเซเว่น มันจะเน่าได้ยังไงทั้ง 6 ฟอง แถมผมมองอาจารย์ตลอด เพราะเคยฟังมาเหมือนกันเรื่องเล่นกลสลับของอะไรแบบนั้น แต่นี่คืออาจารย์แกทำให้ดูเห็นๆ รับไข่จากมือแม่ผมไปแล้วตอกสดๆ ให้ดูเลย.. ผมกับแม่เชื่อจริงๆ แล้วว่าผมโดนของ

พอตอกไข่เสร็จ อาจารย์ก็ให้ผมไปนั่งที่นอกชาน หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เหยียดขานั่งพนมมือ แล้วอาจารย์แกก็สวดคาถาอะไรสักอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง สวดอยู่นาน พร้อมกับทำน้ำมนต์ไปด้วย ขณะที่สวด อาจารย์ก็ถือมีดดาบยาวเท่าศอก ค่อยๆ เอามีดวางบนหัว หลัง แขน และขา เหมือนแตะๆ ทำแบบนั้นสลับไปมาๆ อยู่พักใหญ่ จนผมเริ่มรู้สึกเวียนหัว ในหูมีเสียงวิ้งๆ เหมือนจะเป็นลม เสียงสวดอาจารย์ยังคงก้องกังวาล ผมรู้สึกขนลุกซู่ตลอดเวลาสวด ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้นๆ อย่างไม่มีสาเหตุ ขณะที่ผมกำลังนั่งมึนๆ งงๆ อยู่นั้นเอง ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบที่หลังผมอย่างแรง 3 ครั้ง ‘ปึก ปึก ปึก’ ทำเอาผมเจ็บ และจุกมาก สักพัก ผมก็ถูกน้ำเย็นๆ ราดลงบนหัวโครมใหญ่ ตอนนั้นผมรู้สึกโล่ง เหมือนอะไรบางอย่างไหลออกไปจากตัวไปถึงปลายเท้า มันโล่งสบาย หูหายอื้อ ตาสว่าง สมองโปร่ง เหมือนคนนอนเต็มอิ่ม แล้วอาจารย์ก็มาตบไหล่ผม บอกลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้.. พอผมจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็มานั่งฟังอาจารย์ แกบอกว่า ‘ของที่เอ็งโดนเป็นของแขก มันใช้ผีตายโหงที่เผาไม่ไหม้มาเล่นงานเอ็ง อาจารย์รู้ว่าใครเป็นคนทำ และได้ส่งมันกลับไปแล้ว แต่เอ็งไม่ต้องรู้หรอกว่าใคร แค่ทำบุญให้มากๆ ก็พอ..’ อาจารย์ยังบอกอีกว่า ให้เอาน้ำมนต์ที่ทำให้ ไปพรมให้ทั่วบ้าน และอาบ ดื่ม กิน เพื่อไล่ไอพรายจากตัวผม และจากตัวบ้านให้หมดสิ้น เป็นเวลา 7 วัน ก็จะไม่มีอะไรแล้ว..

ผมกับแม่ก็ลาอาจารย์กลับ แม่ผมส่งเงินให้อาจารย์หลายพันบาท แต่อาจารย์แกไม่รับ บอกว่าขอแค่ค่าครู 7 บาทเท่านั้น.. ผมอึ้ง และศรัทธาท่านมากๆ ขากลับผมถามแม่ว่า ‘อาจารย์ทำอะไรผม? มันรู้สึกเจ็บๆ หลัง’ แม่บอกว่า ‘อาจารย์แกเอามีดดาบฟันลงกลางหลัง 3 ครั้งติดๆ กันอย่างแรง ขนาดแม่นั่งห่างๆ ยังได้ยินเสียงชัดเจน ก็ตกใจเหมือนกัน..’ พอผมกลับมาบ้านเปิดเสื้อดูหลัง ก็พบว่ามีแค่รอยแดงจางๆ เท่านั้นเอง ซึ่งมันแปลกมาก เพราะมีดดาบคมซะขนาดนั้น แถมยังฟันแรงขนาดนั้น กลับไม่เข้าเนื้อผมเลย ผมเข้าใจว่า ไอ้ที่ถูกฟันคงไม่ใช่ผม แต่คงเป็นไอ้ผีตนนั้นต่างหาก แล้วหลังจากวันนั้นผมก็ไม่เห็นผีตนนั้นอีกเลยครับ..

Story by คุณเลิฟ

ความคิดเห็น