เรื่องนี้ส่งมาจากคุณนิสา (นามสมมติ) ครับ คุณนิสาเล่าว่า.. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเราเรียนอยู่ ปี 2 ค่ะ คือเราคบกับแฟนคนหนึ่งตั้งแต่ ม.6 แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเลิกกัน เพราะเราจับได้ว่าเขาแอบไปทำผู้หญิงอีกคนท้อง และให้เธอไปทำแท้ง เราจึงตัดสินใจขอเลิกตั้งแต่ตอนนั้น แต่เขาก็ไม่ยอมจบ ยังคงตามมาหาที่หอพัก และคอยตื๊อ จนเราบอกว่าจะแจ้งตำรวจแล้วนะ เขาถึงได้เลิกตามในที่สุด
ต่อมาเราก็ย้ายไปอยู่หอพัก ซึ่งเรากับเพื่อนสนิทอยู่กันคนละห้องเรียงกันเลยคือ 308, 309 และ 310 เราจะอยู่ห้องสุดท้ายคือ 310 บ่ายวันหนึ่งหลังจากเรียนเสร็จ เราก็กลับมานอนกลางวันที่ห้อง ซึ่งปกติเราจะนอนเปิดหน้าต่างแต่ล็อคมุ้งลวดไว้ เพื่อให้ลมมันเข้า และในช่วงที่กำลังจะเคลิ้มหลับ จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีเงาคนชะโงกหน้ามาตรงหน้าต่าง และก้มมองมาที่เรา น่าแปลกมากที่เราขยับตัวหรือทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่หลี่ตามองดูภาพตรงหน้า ลักษณะเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ตัวดำๆ แม้จะมองไม่เห็นรายละเอียดของใบหน้า แต่ก็ดูออกว่าเขากำลังจ้องมองมาที่เรา เราพยายามจะพลิกตัว จะขยับปาก หรือจะตะโกน ก็ไม่สามารถทำได้เลย จนในที่สุดเรานึกถึงพ่อแม่ และภาวนาขอให้ช่วยลูกด้วย เท่านั้นแหละ เราจึงหลุดออกมาได้.. พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปห้องเพื่อน ในสภาพแบบน้ำตาไหลพรากด้วยความกลัว แล้วเราก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง สรุปคืนนั้นเพื่อนห้อง 308 กับ 309 เลยอาสามานอนเป็นเพื่อน
กลางดึกคืนนั้น จู่ๆ เพื่อนเราคนหนึ่งก็ร้องกรี๊ดลั่นห้อง แล้วลุกขึ้นมานั่งตัวสั่นพร้อมกับเล่าว่า เมื่อกี้กำลังจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ช่วงที่กำลังพลิกตัวหันไป ก็เห็นเงาดำๆ กอดเราจากข้างหลังไว้แน่น หน้าดำทะมึน และจ้องมองเพื่อนเราด้วยสายตาที่น่ากลัวมาก สุดท้ายเราที่ก็กลัวในสิ่งที่เพื่อนเล่า กลายเป็นว่าต้องคอยปลอบเพื่อนไปด้วย.. จากนั้นมาเพื่อนๆ ก็ไม่กล้ามานอนกับเราอีกเลย
อยู่มาวันหนึ่ง ประมาณเที่ยงคืนได้ เราได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง และเรียกชื่อเรา เราจึงตอบรับเสียงเรียกนั้น เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนเรียก แต่พอเปิดประตูออกไปกลับไม่มีใคร เรานี่ขนลุกซู่ทั้งตัวเลยค่ะ.. เราเจอบ่อยเข้าๆ ทำให้เรากลายเป็นคนหวาดระแวง นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ และเราก็โดนผีอำแทบทุกคืน บางคืนเอาเท้ามาเหยียบที่หน้าอก เราหายใจไม่ออกเหมือนคนกำลังจะตาย ต้องเปิดไฟนอนทุกคืน พอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เราก็กลับบ้านไปปรึกษายายเรา เล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา และเพื่อนให้ยายฟัง จากคนที่เคยหนัก 50 กิโล พอเจอแบบนี้เราซูบผอมเหลือ 45 กิโลภายในอาทิตย์เดียว จนทุกคนในบ้านตกใจ ยายถึงขั้นพาเราไปหาร่างทรงแถวบ้าน ร่างทรงจับมือเราแล้วท่องคาถา เป็นจังหวะเหมือนบทสวดอะไรสักอย่าง พร้อมกับบอกว่าตัวเรานั้นเต็มไปด้วยของเน่าเหม็น มีคนคิดไม่ดีกับเรา แถมยังมีวิญญาณผู้ชายติดตามเรามาโดยตลอดด้วย ร่างทรงจึงแนะนำให้เราไปหาพระอาจารย์ที่วัด เพื่ออาบน้ำมนต์ขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไป เราได้ยินแบบนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก เกิดมาไม่เคยเจอกับตัวเอง ยายเลยรีบพาเราไปวัดตามคำแนะนำของร่างทรงทันที
พอไปถึงที่วัด พระอาจารย์ท่านก็ทำพิธี จำได้ว่าท่านเอาไม้แหลมๆ ยาวๆ จิ้มที่กลางหน้าผากของเรา พร้อมกับเริ่มสวดคาถา แต่ยังไม่ทันที่ไม้จะสัมผัสกับหน้าผากเราเลย ตัวเราก็เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ แบบควบคุมตัวเองไม่ได้ น้ำตาไหลพราก พระท่านก็พูดขึ้นว่า ‘มีวิญญาณผู้ชายติดตามโยมอยู่นะ เขาบอกว่า ถ้ากูไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใครจะได้มึง..’ จากนั้นพระท่านก็ให้เราไปอาบน้ำมนต์ และระหว่างที่อาบ เราได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา กลิ่นเหมือนหมาตายคละคลุ้งอยู่ที่ตัวเรา เรานี่ร้องไห้เลยค่ะ.. แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับเราอีกเลย
แต่เรื่องราวยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ค่ะ ครอบครัวของเราสันนิษฐานว่า แฟนเก่าของเราเล่นของใส่เราหรือเปล่า? ด้วยความสงสัยจึงให้แฟนใหม่พาไปหาร่างทรงอีกท่านหนึ่งย่านรังสิต คราวนี้เป็นอาม่าค่ะ ท่านจะดูดวงตามใบไม้ที่เด็ดจากหน้าบ้านท่าน ท่านบอกว่า ‘มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่รักของเราในอดีตชาติติดตามเราอยู่ เพื่อมาทวงคำมั่นสัญญาที่เราเคยให้ ว่าจะอยู่ด้วยกันจนวันตาย..’ เราได้ยินแล้วก็แทบช็อค อาม่าบอกอีกว่า ‘ส่วนแฟนเก่าในชาตินี้ที่เลิกรากันไป เป็นพวกเล่นไสยศาสตร์ มนต์ดำ พยายามทำของใส่ให้กลับไปคืนดีด้วย คืนที่ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง และเราตอบรับเสียงเรียกนั้น พร้อมกับเปิดประตู เป็นเหมือนการเปิดรับของเข้าตัว ดวงจึงตกมาก มีผลทำให้วิญญาณคู่รักเราในชาติที่แล้วเข้าหาเราได้ง่ายขึ้น.. เขาไม่ปล่อยให้ไปมีคนอื่นแน่ๆ’ อาม่าจึงได้แต่แนะนำให้เราทำบุญมากๆ และขออโหสิกรรมแก่เขา
หลังจากนั้นเราก็ทำบุญมาโดยตลอดที่มีโอกาส ซึ่งเขาก็ไม่เคยมาปรากฏตัวให้คนรอบข้างเห็นอีกเลย.. แต่ก็มีเรื่องน่าแปลก เพราะสุดท้ายก็ยังไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถคบกับเราได้เลย ต้องมีเหตุให้เลิกรากันไปอย่างรวดเร็วเสมอ จนทุกวันนี้เราจึงตัดสินใจคบกับผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งจากตอนนั้นก็ผ่านมา 4 ปีแล้วค่ะ เราก็ยังหวังว่าการทำบุญ และการขออโหสิกรรม จะทำให้ชาตินี้เราหมดเวรหมดกรรมต่อกันเสียที
Story by นิสา (นามสมมติ)