เรื่องราวความผูกพันของสองพี่น้อง วีณา กับ โมรา เมื่อโมราคนน้องต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามสายเลือดกระสือที่ติดตัวมาแต่เกิด ส่วนวีณาคนพี่ต้องยอมแลกทั้งชีวิตฝึกฝนวิชาอาคม เพื่อคอยปกป้องน้องสาว จากพญากระสือที่มีความแค้นกันมาแต่อดีต และยังหมายปองร่างของโมราอีกด้วย
ถือว่าเป็นการพลิกโฉมตำนานกระสือไทย แบบที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน กลายเป็นแนวแอคชั่น ไซไฟ สยองขวัญ ร่วมสมัย แถมยังจะมีดราม่าพี่น้องมาปนด้วย เรียกว่าเอาทุกแนวมายำรวมกัน แต่ผลลัพธ์กลับไปไม่ถึงสักทาง ดูแล้วไม่รู้สึกอินในความผูกพันของพี่น้อง สยองขวัญก็ดูเหมือนเป็นแค่ฉากเสริม แอคชั่นก็น้อยนิด กว่าจะได้ฟาดฟันก็รอไปท้ายเรื่องเลย น่าเสียดาย ทั้งที่ไอเดียของหนัง กับการสร้างจักวาลใหม่ของ ‘กระสือ’ ให้มาอยู่ใจกลางกรุง จากที่เราคุ้นเคยว่าต้องเป็นบ้านนอกนั้นถือว่าน่าสนใจ แต่การเล่าเรื่องในช่วงครึ่งแรกจนเกือบท้ายเรื่องชวนง่วงมากกกกกกกก ไปตื่นตาตื่นใจคือท้ายเรื่องเลยจริงๆ
การแสดงของน้อง มิวนิค BNK48 ที่เล่นเป็น ‘โมรา’ คือดีกว่าที่คิดไว้มาก น้องใสๆ ตัวเล็ก น่ารัก ปากกระจับ เป็นกระสือยังน่ารักเลย ส่วน หญิง รฐา ที่เล่นเป็น ‘นางพญากระสือ’ เป็นอะไรที่ได้ตามมาตรฐานของเธออยู่แล้ว แต่จุดอ่อนดูเหมือนจะเป็นคนพี่ ‘วีณา’ ที่เป็นตัวหลักของเรื่อง แต่กลับไม่โอเคที่สุด ไม่เหมาะกับบทแอคชั่นอย่างแรง ถือดาบฟาดฟันแต่ดูไม่มีเรี่ยวแรง ไม่เท่เลยเมื่อเทียบกับบทที่ได้รับ
การออกแบบกระสือเป็นอะไรที่ชวนแหวะดี CG ไม่ได้ดีเว่อ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ ฉากถอดหัว ฉากกินเครื่องในกบ และอีกหลายๆ ฉาก ที่ทำเอาอึ้งได้เหมือนกัน (มีเห็นนมด้วยนะ) แต่ที่นึกออกคือ กระสือในเรื่องนี้มันจะมี รังของมัน และมีนางพญา กับลูกสมุน แบบว่านางพญาสั่งลูกน้องถอดหัวไปไล่ล่าเหยื่อกันเป็นฝูงได้ มันก็เหมือนจะเท่ดีนะ แต่เพราะมันเป็นกระสือที่มีแต่หัวกับเครื่องในบินไปมา มันเลยดูตลกแทน แต่ต้องขอชมในส่วนท้ายเรื่อง ที่เป็นแอคชั่นการต่อสู้ของกระสือ ถึงจะดูล้นๆ เว่อๆ แต่มันก็บันเทิงใช้ได้เลย
สุดท้ายก็อยากให้ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่า เพราะคนเราก็คงชอบอะไรไม่เหมือนกัน รีวิวจากแอดก็เป็นความเห็นส่วนตัวของแอดจ้าาา~
ฉายวันที่ 4 เมษายน 2562 | สหมงคลฟิล์ม
ผู้กำกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว
นักแสดง มิวนิค นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล, โจโจ้ พลอยยุคล โรจนกตัญญู, หญิง รฐา โพธิ์งาม
