เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณมีนครับ คุณมีนได้ติดตามอ่านเรื่องเล่าเป็นประจำทุกคืน จนกระทั่งได้เอาไปพูดคุยกับคุณแม่ และบังเอิญได้รู้ว่าคุณแม่ของคุณมีนเอง ก็เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ เคยได้พบเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง คุณมีนจึงขอหยิบเอาเรื่อง ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่มาให้เราได้ฟังกัน..
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า แม่ของมีนเป็นคนมีสัมผัสที่ 6 จึงค่อนข้างที่จะรับรู้เรื่องลึกลับได้บ่อยๆ แต่ว่าแม่ก็ไม่ค่อยจะกลัวเรื่องพวกนี้สักเท่าไร หรือว่าจะเจอจนชินแล้วก็ไม่ทราบนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า.. ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว สมัยนั้นแม่ของมีน ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมือง จังหวัดนครสวรรค์ค่ะ แม่มีนทำงานที่นี่ ตั้งแต่สมัยสาวๆ ที่เพิ่งเรียนจบชั้น ปวส.ใหม่ๆ ทำตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงิน ซึ่งก็ต้องมีการขึ้นเวร ลงเวรอยู่เป็นประจำ.. แม่มีนในตอนนั้น ฐานะค่อนข้างลำบาก ต้องทำงานหนักเพื่อแบกรับหน้าที่ ที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าเทอม ทำให้แม่ต้องทำโอที และรับจ้างขึ้นเวรแทน วันหยุดเทศกาลต่างๆ ก็ไม่เคยหยุด เพื่อจะได้เงินเพิ่ม ไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้ในทุกๆ วันของแม่ แทบจะอยู่โรงพยาบาลเกือบ 24 ชม.
ครั้งหนึ่ง แม่ต้องเข้าเวรอยู่คนเดียว ซึ่งห้องทำงานของแม่ จะอยู่ติดกับห้องจ่ายยา ซึ่งจะมีกระจกที่สามารถเปิดปิดหากันได้.. เวลาตอนนั้นประมาณตี 3 คนไข้ที่มาใช้บริการไม่มีเลย และด้วยความที่แม่อดนอนมาหลายคืน ทำให้เริ่มง่วง จึงบอกกับเพื่อนที่อยู่ห้องยาว่า ‘ถ้ามีคนไข้ก็ช่วยปลุกทีนะ ของีบหน่อย รู้สึกไม่ค่อยสบาย’ เพื่อนแม่ก็ตบปากรับคำ.. แม่เลยไปเอาเก้าอี้ ที่สามารถกางเป็นเตียงได้ออกมานอน
นอนไปได้สักพัก แม่เริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะ ‘หึๆๆๆ..’ อยู่ข้างๆ หู แต่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย ตอนนั้น แม่รู้ทันทีเลยว่ากำลังเจอกับอะไร ก็ได้แต่สวดมนต์ และกรวดน้ำในใจ.. สักพักพอเริ่มขยับตัวได้ แม่ก็ลุกขึ้นมานั่ง มองไปรอบๆ เหงื่อไหลท่วมตัว.. เพื่อนแม่ที่นั่งอยู่ในห้องยา เห็นแม่ลุกขึ้นมาก็ถามว่า ‘อ้าว? ไม่นอนแล้วเหรอ ตี 3 ครึ่งเอง..’ แม่ก็บอกว่า แอร์มันร้อนน่ะ จะลุกมาปรับแอร์สักหน่อย จากนั้นแม่ก็ล้มตัวนอนต่อ.. พอหลับไปได้สักพักใหญ่ๆ อาการเดิมเริ่มกลับมาอีกครั้ง เหมือนหวิวๆ คล้ายเวลานั่งรถลงเนินเร็วๆ แต่คราวนี้ รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาเขี่ยๆ ที่ปลายเท้าด้วย แม่เลยลืมตาขึ้นมา และก็ต้องตกใจสุดขีด ภาพที่เห็นที่ระหว่างปลายเท้าแม่คือ หัวคนที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากขอบเตียงนอน และค่อยๆ ลอยขึ้นๆ เป็นหญิงวัยกลางคน ใส่ชุดคนไข้ ใบหน้าของเธอนั้นขาวซีด ดวงตาแดงก่ำปูดโปนออกมา จ้องมาทางแม่ ร่างเธอค่อยๆ ลอยขึ้นไปทางแอร์บนเพดาน และก็เริ่มหายเข้าไปในช่องแอร์ โดยสภาพลำตัว หายไปในช่องแอร์ครึ่งหนึ่ง และห้อยโตงเตงอยู่ข้างล่างอีกครึ่งหนึ่ง พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะ ที่ดังก้องอยู่ในหูของแม่
หลังจากช็อคกับสิ่งที่เห็น แม่มีนตั้งได้สติได้ ก็พยายามร้องเรียกเพื่อน ที่อยู่ห้องข้างๆ แต่กลับไม่มีเสียงพูดออกมา แม่พยายามดิ้นให้หลุด แต่ก็ไม่เป็นผล.. ในตอนนั้นแม่เริ่มรู้สึกโมโห ก็เลยพูด (ในใจ) ออกไปว่า ‘ทางใครก็ทางมันอย่ามายุ่ง มารบกวนกันเลย อยากได้อะไรก็บอกกันดีๆ จะทำบุญไปให้ ถ้ายังไม่หยุดจะแช่ง! ให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด..’ สิ้นคำของแม่ ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ แม่ขยับตัวได้ ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงโดยเร็ว เพื่อนแม่หันมาเห็น และก็ถามว่า ‘อ้าว? ไม่นอนแล้วเหรอ ตี 3 ครึ่งเอง..’ แม่ได้ยินก็แบบนั้นก็แปลกใจ เพราะมันเหมือนกับ ที่เคยได้ยินมาแล้วครั้งหนึ่ง.. ทีนี้ แม่ไม่กล้านอนเลย เพราะกลัวว่า นอนแล้วจะย้อนไปเจอแบบเดิมอีก! แม่จึงไม่ได้ตอบอะไร พับเตียงนอนเก็บเข้าที่เดิม และนั่งทำงานต่อจนถึงเช้าเลย..
หลังจากแม่เล่าจบ แม่ก็บอกอีกว่า ดวงวิญญาณเร่ร่อนพวกนี้ ถ้าได้เจอ หากเราสวดมนต์ก็แล้ว กรวดน้ำไปให้ก็แล้ว ยังไม่หยุด ให้แช่งออกไปแทนเลย เพราะวิญญาณพวกนี้ จะกลัวคำสาปแช่งของคน.. ซึ่งตัวมีนเอง ก็ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่จริงนะคะ แต่ก็ไม่ขอเจอเลยดีที่สุด
Story by คุณมีน