เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเจี๊ยบครับ คุณเจี๊ยบเล่าว่า.. เมื่อ 4 ปีก่อน ผมทำงานเป็น Admin อยู่ที่บริษัทของเล่นแห่งหนึ่งในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีครับ โดยที่นี่จะมีตึกสำนักงานใหญ่ กับตึกโชว์รูมของเล่น ตั้งอยู่ห่างกัน 2-3 ซอย ผมได้ประจำอยู่ที่โชว์รูมเพื่อคอยต้อนรับลูกค้า ซึ่งก็ไม่ได้มีลูกค้ามาบ่อยนัก ลักษณะตึกโชว์รูมจะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่ทำเป็นโชว์รูมของเล่นเด็ก และมีกั้นห้องเล็กๆ เป็นออฟฟิศของผม
ผมทำงานที่นี่ได้ 1 เดือน แต่ยังไม่เคยได้เจอเพื่อนร่วมงานในตึกนี้เลย เพราะผมอยู่ประจำชั้นล่างคนเดียว จะได้ยินแต่เสียงคนงานทำงานอยู่ชั้นบนตลอด แต่ผมก็ไม่ได้อะไร คิดว่าเค้าคงจะต่อเติมทำออฟฟิศเพิ่มน่ะครับ.. ที่ตึกนี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือทางด้านหน้า และด้านหลังตึก ซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่เคยเข้าออกด้านหลังตึก หรือขึ้นชั้นบนตึกเลย ทุกวันทำงานเสร็จก็กลับ..
จนมาวันหนึ่ง ผมมีนัดกับแฟนจะไปเที่ยวกันหลังเลิกงาน แฟนผมมาหาที่โชว์รูม และเผอิญปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ผมจึงบอกไปว่าห้องน้ำอยู่ใต้บันไดหลังออฟฟิศ แฟนผมก็เดินไป สักพักอยู่ๆ แฟนผมก็วิ่งกลับมาทำหน้าตาตกใจ บอกผมว่า ‘เค้าได้ยินเสียงอะ!’ ผมถามกลับไปว่าเสียงอะไร? แฟนผมบอก ‘ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนเสียงคนเดินลากเท้าอยู่ชั้นบน..’ ผมเลยบอกไปว่า ‘ไม่มีอะไรหรอก เค้าทำงานที่นี่มาเดือนนึง ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ปะ..เดี๋ยวเค้าไปเป็นเพื่อน’ แล้วผมเดินไปห้องน้ำเป็นเพื่อนแฟนผม ..คราวนี้ชัดเลย ได้ยินทั้งคู่เลยครับ! เป็นเสียงแบบนั้นจริงๆ เสียงเหมือนคนลากเท้าบนพื้นปูนสากๆ ครับ ได้ยินประมาณ 3 ครั้งติดๆ กัน ดังมาจากชั้นบน.. ผมก็เริ่มใจไม่ดี เพราะช่วงเย็นๆ แบบนี้คนงานก็น่าจะไปแล้ว ผมเลยตัดสินใจขึ้นไปดูชั้นบน และก็ถึงกับขนลุกเลยครับ เพราะชั้นบนนี่โล่งเหมือนตึกร้าง ไม่มีร่องรอยของการก่อสร้างอะไรเลย!
ผมรีบลงมาและบอกแฟนว่าให้ไปกัน ไปเข้าห้องน้ำที่อื่นดีกว่ากลัว ตอนนั้นผมแบบฟุ้งซ่านมากครับ เพราะผมยังต้องมาทำงานที่นี่คนเดียวทุกวัน และเสียงที่ได้ยินมันคืออะไร? ผมทำอะไรไม่ถูก รีบปิดโชว์รูมทันที และระหว่างที่ผมกำลังล็อคประตู ผมตัดสินใจว่า เอาวะ! เอาให้ชัดไปเลยว่าอะไร ผมพูดในใจว่า ‘ถ้าเป็นผีจริง ทำให้ผมรับรู้ที แต่อย่าให้กลัวนะ แล้วพรุ่งนี้จะทำบุญไป..’ ยังไม่ทันพูดจบเลยครับ ลูกบิดที่ผมจับอยู่มันเหมือนมีคนมาเขย่าอยู่จากอีกฟากหนึ่งครับ! ..ตอนนั้นกลัวมาก ในใจคิดแต่ว่าพรุ่งนี้จะทำยังไงดี จะทำงานได้ไหม? ..สรุปแล้ววันรุ่งขึ้นผมลางานไปทำบุญกรวดน้ำเลยครับ..
แล้วพอวันถัดมา ผมก็ต้องใจสู้มาทำงาน.. ระหว่างวันทำไปก็ระแวงไป มีความรู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องดูเราอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าผมหลอนไปเองหรือเปล่านะครับ ผมก็ได้แต่เปิดเพลงดังๆ เพื่อกลบความรู้สึกตัวเอง แต่ไม่เป็นผลครับ ผมยังคงรู้สึกแบบนั้นอยู่ตลอด.. จนผ่านไปได้วัน 2 วัน ผมปิดโชว์รูมกำลังจะกลับ มีเด็กๆ แถวนั้นราว 5-6 คนมาเล่นกันที่หน้าตึก เล่นซ่อนแอบกัน แล้วมีเด็กคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ‘อย่าเข้าไปเล่นในนั้น มีคนตาย!’ ผมได้ยินเข้านี่ขนลุกซู่เลย ผมรีบเดินไปถามน้องคนนั้นว่า รู้ได้ยังไงว่ามีคนตาย? น้องเค้าบอกว่า ‘มีคนงานทาสีที่ตึกนี้ตกลงมาตาย เค้ารู้กันทั้งนั้นเหละพี่ไม่รู้เหรอ?’ ผมนี่อยากจะลาออกซะเดี๋ยวนั้นเลย
ผมอยากรู้มากเลยเดินไปถามลุง ร.ป.ภ. ที่อยู่ตึกสำนักงานใหญ่ ซึ่งลุง ร.ป.ภ. คนนี้แกจะเคยเห็นผมเข้ามาสแกนนิ้วเข้า-ออกอยู่บ่อยๆ แต่ลุงแกไม่รู้หรอกว่าผมตำแหน่งอะไร และทำอยู่ส่วนไหน.. ผมเลยหลอกถามลุงแกว่า ‘ลุง ตึกโชว์รูมที่อยู่ซอยนู้นมีคนตายเหรอ?’ ลุงแกตอบมาชัดเลยครับ ‘ใช่ มีคนตาย.. เฮี้ยนด้วย เพราะคนตายเป็นคนต่างด้าว ประธานบริษัทเคยนิมนต์พระมาหลายรอบแล้ว ก็ยังมีคนเจออยู่เรื่อย จนต้องมาเช่าตึกนี้แทน แล้วตึกนั้นใช้เปิดเป็นโชว์รูม ไม่มีใครอยู่แล้ว..’ คือแบบหลังจากวันนั้นผมนี่ขอลาออกเลยครับ ไม่ไหวแล้ว
ผมนี่นึกย้อนกลับไปช่วงที่ทำงานแรกๆ ที่เข้าใจว่ามีคนอยู่ชั้นบน เพราะได้ยินเสียงทุกวัน ไม่คิดเลยว่าตึกนั้นมีผมอยู่คนเดียว.. มีครั้งหนึ่ง ก๊อกน้ำในห้องน้ำมันหลุดออกมาเอง น้ำนองไปหมด ผมตามช่างมาจากตึกสำนักงานใหญ่ แต่กว่าจะมากันได้ ต้องให้โทรตามตั้งหลายรอบ ที่แท้เพราะไม่มีใครอยากมานี่เอง.. ทุกวันนี้ผมผ่านตึกนั้นเห็นปิดประกาศขายอยู่ แต่ก็ยังขายไม่ได้น่ะครับ..
Story by คุณเจี๊ยบ