เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเอกครับ คุณเอกเล่าว่า.. เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา ผมต้องไปช่วยงานที่ต่างสาขาในจังหวัดระยอง เนื่องจากพนักงานขาด คือต้องเวียนกันไปจากสาขาต่างๆ คนละ 7 วัน ผมเป็นชุดที่ 3 ครับ ที่ไปช่วยงาน โดยทางบริษัทได้เช่าห้องพักไว้ให้อยู่ในตัวเมืองระยอง เป็นโรงแรมที่มี 3 ตึก ผมอยู่ที่ตึกที่ 3 ชั้น 6 ครับ.. ห้องที่ผมพัก เป็นห้องแรกติดกับลิฟท์เลย พอเช็คอินเข้าห้องพัก เป็นห้องเตียงคู่ครับ แต่ผมพักคนเดียว เลยเลือกนอนเตียงด้านในที่ติดกับระเบียงหลังห้อง

ตอนแรกที่เข้าห้องมา ผมก็สังเกตุเห็นว่ามีเส้นผมผู้หญิงร่วงอยู่ในห้องนะ ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าแม่บ้านคงทำความสะอาดไม่หมด พอวันที่ 2 ผมกลับมาจากทำงาน ก็เจอเส้นผมผู้หญิงร่วงอยู่บนพื้นห้องเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่มีแม่บ้านคอยมาทำความสะอาดทุกวัน เจออยู่แบบนั้น 3 วัน แต่ผมก็ยังคงคิดว่าแม่บ้านไม่ได้กวาด หรือไม่ก็เป็นผมของแม่บ้านเองนั่นแหละ.. และในคืนที่ 3 นั้นเอง ผมเพลียมากเนื่องจากนอนหลับๆ ตื่นๆ มา 2 คืนแล้ว คืนนี้ผมจึงรีบเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่ผมก็ยังหลับๆ ตื่นๆ เหมือนเดิม คอยกดมือถือดูเวลาตลอด จนถึง 6 โมงเช้า ผมก็ตื่นขึ้นมาเอง แต่ยังไม่ลุกจากเตียงนะครับ เนื่องจากผมรอเวลาที่ผมตั้งปลุกไว้ 6 โมงครึ่ง

ผมนอนต่อ แต่ไม่ได้หลับนะ แค่หลับตา แล้วอยู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงกุญแจไขประตูห้อง แล้วก็ปิดประตู ‘กรึบ’ ผมลืมตาขึ้นมา คิดว่าคงเป็นห้องฝั่งตรงข้าม ในช่วงนั้นฟ้าเริ่มสว่างแล้ว แต่ผมนอนหลับตาต่อรอเวลาปลุก แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนเดินครับ ตามด้วยเสียงเหมือนวางของบนเคาน์เตอร์ ย้ำครับว่าตอนนั้นผมไม่ได้หลับ ไม่ได้ฝันนะครับ แค่หลับตา ผมเริ่มเอะใจละว่า เสียงนั้นมันดังอยู่ในห้องเรานี่นา!? ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ผมก็รู้สึกว่ามีใครขึ้นมาบนเตียง แล้วนอนลงข้างๆ เตียงยุบลงไปแบบรู้สึกได้เลย แล้วยังดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มด้วย ซึ่งผมถีบผ้าห่มออกไปตั้งแต่ช่วงตี 4 ครึ่งแล้ว เนื่องจากผมจะปิดแอร์เวลานี้ตลอดจนชิน ผมตัดสินใจลืมตาขึ้นครับ มองไปบนเพดานห้อง แต่ลุกไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้เลย ผมคิดว่าผมคงโดนเข้าแล้ว พอผมหลับตาลง ก็มีผมผู้หญิงแบบเพิ่งสระผมมา ผมยังเปียกๆ อยู่ แปะลงที่หน้าผม แล้วก็รูดปรื๊ดจากขวาไปซ้าย ได้กลิ่นแชมพูชัดเจนเลย ผมมั่นใจว่าผมโดนเข้าแล้วแน่ๆ ผมจึงเริ่มสวดมนต์ครับ ทุกบทสวดที่พอจะนึกออก แต่ผมกลับถูกมือปริศนาปิดปากไว้ไม่ให้สวด คือปิดทั้งปากทั้งจมูก จนผมเริ่มจะหายใจไม่ออก อึดอัดมากๆ ขยับตัวก็ไม่ได้ ตอนนั้นกลัวมากๆ ..พอผมเริ่มตั้งสติได้ ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินมาว่าให้แผ่เมตตา ผมจึงเริ่มแผ่เมตตาในใจ ‘สัพเพสัตตา อเวรา..’ ไปจนจบ ผมถึงสามารถลุกขึ้นมานั่งได้ด้วยความเหนื่อยหอบ..

บ่ายๆ วันนั้น ผมโทรไปเล่าให้พ่อผมฟัง ท่านก็บอกว่า ‘ให้จุดธูปขอขมาบอกเขาซะ ว่ามาทำงาน ขอมานอนพักด้วย..’ ตอนเย็นขากลับมา ผมจึงซื้อธูป และน้ำแดง 1 ขวด มาไหว้ขอขมา และบอกว่ากลับไปแล้วจะถวายสังฆทานให้.. คืนนั้นผมก็นอนด้วยความหวาดระแวงครับ มันไม่ได้กลัวนะ แต่มันระแวงว่าจะมาแบบเห็นๆ อะไรแบบนั้น.. ผมก็นอนหลับๆ ตื่นๆ เหมือนเดิม พอเวลาประมาณเที่ยงคืนได้ ผมก็ต้องตื่นขึ้นมาอีก เพราะได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังเคาะกำแพงฝั่งหัวนอนที่ผมนอน ‘ตึงๆๆๆๆๆ’  ไล่เคาะไปเรื่อยจนถึงฝั่งประตูห้อง ผมหงุดหงิดคิดว่าข้างนอกมีใครมาเคาะอะไรเล่นเสียงดัง แต่พอคิดไปคิดมา ผมนี่รีบกระโดดลงจากเตียงเลยครับ เพราะผมนึกขึ้นมาได้ว่า กำแพงตรงหัวนอนผมมันติดกับลิฟท์ ใครจะไปยืนเคาะได้! จากนั้นนี่นอนไม่หลับทั้งคืนเลยครับคืนนั้น ต้องนั่งเล่นมือถือไป ฟังเสียงเคาะไป.. แต่คืนหลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้นครับ ไม่เจออะไรอีกเลย แม้กระทั่งเส้นผมผู้หญิงที่ร่วงในห้อง เพราะทุกๆ วันที่เหลือ ก่อนนอนผมจะจุดธูป และเปลี่ยนน้ำแดงให้เป็นประจำ เขาคงได้รับแล้วล่ะมั้งครับ ผมว่า..

Story by คุณเอก

ความคิดเห็น