เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเมเปิ้ลครับ คุณเมเปิ้ลเล่าว่า.. ได้ติดตามอ่านเรื่องของคนอื่นมาตลอด เลยอยากจะมาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังบ้าง เราเป็นคนเชียงใหม่นะคะ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนเราอยู่ ม.4 ตอนนั้นเราอายุ 15 ค่ะ เคยได้ยินมาว่า มันเป็นช่วงอายุที่จะเจอเรื่องแปลกๆ คล้ายกับตอนอายุ 25 (เบญจเพส) แต่อาจจะเบากว่ามั้งนะ ไม่แน่ใจ.. ที่จำได้คือ พออายุย่างเข้า 15 เรามักจะโดนเหมือนกับผีอำแทบทุกคืนเลย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ พอวันเวลาผ่านไป เหมือนมันจะยิ่งหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปบอกพ่อแม่ว่าเรากำลังเป็นแบบนี้อยู่ เพราะช่วงนั้นพ่อกับแม่ค่อนข้างยุ่งๆ เรื่องงานด้วยแหละ
แต่แล้ววันหนึ่งมันก็มาถึงจุดที่หนักเอามากๆ ค่ะ วันนั้นเวลาประมาณตี 5 หรือ 6 โมงเช้านี่ล่ะ ฟ้ายังไม่สว่างดี เรานอนหลับอยู่ในห้องตามปกติ วันนั้นเป็นวันที่แม่เราเดินเข้ามาในห้องเพื่อหาของอะไรสักอย่าง แม่ก็เปิดไฟหาของ ทำเสียงดัง เลยทำให้เราตื่น เราก็มองไปที่แม่ คือตอนนั้นเรานอนตะแคงอยู่ขอบเตียง หันหลังให้กำแพง หน้าเราจะอยู่ที่ขอบเตียงพอดี.. ระหว่างที่กำลังมองแม่เราก้มๆ เงยๆ หาของอยู่นั้น เราก็ถูกผีอำเฉยเลยค่ะ ตอนนั้นคือคิดในใจว่าแบบ ‘เห้ย! เอายังงี้เลยเหรอ นี่ขนาดแม่อยู่นะเนี่ย!?’ เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีละ จะสวดมนต์บทอะไรก็คิดไม่ทัน ก็โดนอำไปอยู่พักนึง แต่คราวนี้ค่ะ อยู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่เสื้อยืดสีขาว ดูเหมือนเด็กทั่วไป มานั่งเอามือเกาะขอบเตียงด้านที่เรานอน คือตาประสานตากับเราเลย ใกล้มากจนแทบจะจูบกันได้อยู่แล้ว เราพอจำหน้าได้ลางๆ นะ แต่อธิบายไม่ถูก มันเลือนลางยังไงก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราแบบอึ้งมาก ขยับตัวก็ไม่ได้
แต่ประเด็นคือมันไม่ได้แค่จ้องตาเราแค่นั้นน่ะสิ เพราะเด็กคนนั้นตะโกนใส่หน้าเราด้วย ตะโกนว่า ‘กูเกลียดมึง! กูเกลียดมึง! กูเกลียดมึง! ..ทุกคนเกลียดมึง!’ ตอนนั้นเรากลัวมาก เหมือนต่อมความกลัวแตกเลยค่ะ เราพยายามขยับสุดแรงเท่าที่จะทำได้ จนสักพักเราก็สามารถสะบัดตัวให้กลับมานอนตรงได้ แต่กลับกลายเป็นว่าช็อคกว่าเดิม! เพราะที่ปลายเท้าเรามีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ทั้งเด็ก คนแก่ วัยรุ่น วัยกลางคน ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ที่กำลังจ้องมองมาที่เราด้วยสายตาโกรธเกลียดมากๆ แล้วเสียงเด็กผู้หญิงคนเดิมก็ตะโกนข้างหูเราซ้ำอีกว่า ‘ทุกคนเกลียดมึง!’ ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูก พยายามจะเรียกแม่ เพราะตอนนั้นแม่เราก็ยังหาของอยู่ในห้องเราอยู่เลย เราพยายามมองที่แม่แล้วอ้อนวอนในใจให้แม่ช่วยด้วย แต่ก็ไม่เป็นผล.. จนนาทีที่แม่ปิดไฟห้อง และกำลังจะก้าวออกจากห้องไป ตอนนั้นเราหลุดจากการโดนผีอำพอดี เราตะโกนเรียกแม่สุดเสียงเลย จนแม่ตกใจ และเราก็ตัดสินใจเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราทั้งหมดให้แม่ฟัง เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว..
วันนั้นแม่เลยรีบพาเราไปหาพระที่วัด พระท่านก็บอกว่า ‘พวกเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวร ตอนนี้เขาตามทันแล้ว เขาจะมาเอาคืน ถ้ามาช้ากว่านี้เขาอาจจะเอาชีวิตไปแล้ว..’ พระท่านยังบอกอีกว่า พวกเขาไม่เอาส่วนกุศลที่เราทำให้ ไม่เอาส่วนกุศลของแม่ที่ทำให้ด้วยเช่นกัน จะเอาชีวิตของเราอย่างเดียวเลย.. จากนั้นพระท่านก็ทำพิธีอะไรสักอย่างให้เรา และบอกกับแม่เราว่า ให้เราหมั่นทำบุญให้พวกเขาทุกๆ วัน ยังไงพวกเขาก็ต้องรับไปสักวัน อีกทั้งให้เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกๆ คืนเป็นประจำห้ามขาด
พอหลังจากวันนั้นมา เราก็ทำบุญสวดมนต์ไม่ขาด แต่ก็ยังโดนผีอำอยู่เรื่อยๆ และถึงแม้ว่าเราจะใส่สร้อยพระนอนก็แล้ว แต่เวลาตื่นขึ้นมาทีไร เรากลับเห็นสร้อยพระวางอยู่ที่หัวเตียงเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก หรืออาจจะเป็นเรานี่แหละที่เป็นคนเอาสร้อยพระออกจากคอเอง แต่ทำไมเราถึงไม่รู้ตัวล่ะ? เราเลยต้องเปลี่ยนมาเหน็บไว้ที่เสื้อชั้นในแทน แต่ถึงยังไงก็โดนผีอำอยู่ดี.. เรามีคำถามในใจตัวเองเสมอว่า เราเคยไปทำอะไรให้พวกเขาไว้ เขาถึงได้เกลียดเรานัก.. และนี่ก็เป็นประการณ์หลอนๆ ที่เราเจอตอนอายุ 15 ค่ะ ปัจจุบันเราอายุ 21 แล้ว ก็ไม่ได้เจออะไรเหมือนตอนช่วงนั้นอีก แต่ยังแอบๆ หวั่นใจว่าตอนอายุ 25 (เบญจเพส) ที่กำลังใกล้เข้ามานี้ เราจะต้องเจออะไรอีกหรือเปล่า..
Story by คุณเมเปิ้ล