เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณหาญ ใจสิงห์ครับ คุณหาญเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเมื่อปีที่แล้วนี่เอง วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งผมไม่มีงานโอทีต้องไปทำ ผมเลยไปเยี่ยมเพื่อนสมัยเรียน ปวช. ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปถึงที่นั่น 8 โมงเช้า ก็นั่งคุยกับเพื่อนผม กับพ่อแม่ และญาติๆ ของมัน.. สักประมาณ 9 โมงเช้า ยายของเพื่อนผมก็ชวนไปวัดที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน ผมก็ไม่ติดอะไรอยู่แล้ว เลยตกลงไปกับครอบครัวของเพื่อนผม

ไปถึงวัดก็เดินไปกราบไหว้พระในโบสถ์ เนื่องจากครอบครัวของเพื่อนผมรู้จักกับพระอาจารย์ เลยสนทนาธรรมกันนาน ผมจึงขอตัวลงมาเดินเล่นข้างล่างโบสถ์ แล้วผมก็มองไปเห็นคุณยายคนหนึ่ง ผมสีดอกเลาทั้งหัว อายุน่าจะเกิน 90 ปีแล้ว กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน สายตาของคุณยายแกเหม่อมองไปที่ประตูทางเข้าวัด และไม่รู้ผมคิดยังไง ผมเดินตรงไปหาคุณยายพร้อมกับทักแกว่า ‘ยายครับ ผมนั่งคุยด้วยได้ไหมครับ?’ ยายแกก็ตอบมาว่า ‘ได้สิลูก ว่าแต่หนูเป็นใคร ทำไมยายไม่เคยเห็นเลยลูก?’ ผมตอบแกไปว่า ‘อ๋อ..ผมมาจากกรุงเทพฯ ครับยาย มาเยี่ยมเพื่อนที่นี่..’ ระหว่างที่คุณยายแกคุยกับผม สายตาของแกก็เอาแต่มองไปที่ประตูทางเข้าวัด ผมเลยถาม ‘ยายมองหาใครอยู่หรือเปล่าครับ?’ ยายบอกผมว่า ‘ยายมองหาลูกหลานจ้ะ ยายมาอยู่วัดนานแล้ว ลูกหลานไม่ค่อยมาเยี่ยมเลย..’ แกพูดไปแล้วก็น้ำตาคลอ ผมได้แต่คิดในใจว่าทำไมถึงใจร้ายจัง เอาคนแก่มาทิ้งไว้ที่วัดแบบนี้

จังหวะนั้น รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ ผ่านมาหน้าวัดพอดี ผมหันไปบอกท่าน ‘ยายรอผมอยู่นี้นะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้กิน’ คุณยายแกยิ้มให้ผม ก่อนที่ผมจะวิ่งออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำมาถุงนึง แล้วเอามาให้แก คุณยายแกยิ้มใหญ่ บอกว่า ‘ยายไม่ได้กินนานแล้ว ก๋วยเตี๋ยวน้ำเนี่ย ขอบใจมากนะ งั้นยายไปก่อนนะลูก..’ ผมเลยถามยายว่า ‘แล้วบ้านยายอยู่ไหนครับ?’ ยายบอกว่า ‘อยู่หลังโบสถ์นี่ล่ะลูก..’ แล้วผมก็ยกมือไหว้คุณยาย พอดีกับโทรศัพท์ผมสั่น แต่เปิดดูกลับเป็นข้อความทั่วไปเข้ามา แล้วตอนนั้นผมก็คิดได้ว่า ผมก็พอมีเงินติดกระเป๋าอยู่ 600 บาท เอาให้คุณยายแกซื้อข้าวกินสัก 300 ก็น่าจะดี แต่พอผมหันกลับไป คุณยายแกก็เดินหายไปซะแล้ว.. คิดว่าอายุแกก็มากขนาดนั้น ทำไมเดินไวจัง?

ผมเดินตามหาคุณยายไปตามข้างกำแพงโบสถ์ ที่เต็มไปด้วยโกศเก็บกระดูกคนตาย เดินไปจนสุดทางเดินกำแพงโบสถ์ ด้านนอกเป็นคลอง และป่ารกทึบ ซึ่งไม่น่าจะมีที่ให้อยู่อาศัยได้เลย ผมคิดในใจ ‘นี่กูโดนอีกแล้วเหรอวะ กลางวันแสกๆ เลยนะ..’ ผมเดินย้อนกลับมาด้วยความสงสัย พอกำลังจะพ้นกำแพง สายตาก็ไปสะดุดที่ตรงฐานโกศแรก สิ่งที่เห็นคือถุงก๋วยเตี๋ยวน้ำวางอยู่! ผมจำได้ว่าเป็นถุงที่ผมซื้อให้คุณยายเมื่อสักครู่ พอมองไปที่รูปบนโกศ ผมนี่ถึงกับขาอ่อนพับอยู่ตรงนั้นเลย มันคือรูปของคุณยายคนที่ผมนั่งคุยด้วยเมื่อกี้นี้ แกชื่อว่า “สีดา” นามสกุลอ่านไม่ชัด เพราะโดนลมฝนลบเลือนไปหมด แต่อีกอย่างหนึ่งที่อ่านได้ก็คือ “ชาตะ พศ. ๒๔๓๘” ผมเลยรีบยกมือไหว้โกศคุณยาย คิดในใจว่า เอาเงิน 300 ที่จะให้ท่าน ไปทำสังฆทานให้ท่านแล้วกัน.. เรื่องมีเท่านี้ครับ อาจจะไม่น่ากลัวเท่าไร แต่น่าสงสารคุณยายแกมากกว่า แกคงเหงาคิดถึงลูกหลาน รอให้มาเยี่ยม ผ่านไปนานขนาดนี้ ก็ยังไม่ไปไหนเสียที..

Story by คุณหาญ ใจสิงห์

ความคิดเห็น