เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากอาจารย์สอนวิชานาฏศิลป์ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ขอใช้นามสมมติว่า อาจารย์ ย. อาจารย์ ย. อยู่สอนที่นี่มากว่า 20 ปีแล้ว อย่างที่บอกว่าเป็นโรงเรียนประจำ ก็จะมีการผลัดเปลี่ยนเวรอาจารย์ที่คอยตรวจตราหอพักอยู่ตลอดทุกคืน อาจารย์ ย. เล่าว่า คืนนั้นเป็นคืนวันศุกร์ เป็นคืนที่นักเรียนจะต้องลงไปประชุมหน้าเสาธง (ทุกคืนวันศุกร์) อาจารย์ ย. ได้เดินขึ้นไปบนหอพักหญิง เพื่อจะได้ตรวจดูว่ามีนักเรียนคนไหนที่ไม่ลงไปประชุมหรือเปล่า?
ตอนนั้นไฟบนหอพักปิดหมด ค่อนข้างมืดมาก อาจารย์ ย. ก็เดินตามทางบันไดไปจนถึงชั้น 4 ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปถึงชั้น 5 ก็ได้เห็นนักเรียนหญิงคนหนึ่ง มองจากความมืดคือใส่ชุดนักเรียนอยู่ เธอวิ่งพรวดลงมาแบบไวมาก วิ่งผ่านอาจารย์ไปในความมืด อาจารย์ ย. กำลังจะเรียกมาถามว่าทำไมไม่ลงไปประชุม แต่นักเรียนคนนั้นวิ่งไปไวมากจนไม่ทันจะเรียก อาจารย์ ย. นึกสงสัยว่า เวลาป่านนี้แล้วทำไมเด็กนักเรียนคนนั้นถึงยังอยู่ในชุดเครื่องแบบ ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดลำลองเหมือนคนอื่นๆ อีกใจนึงอาจารย์ ย. ก็คิดว่าเด็กนักเรียนคนนั้นอาจจะรู้ว่าอาจารย์จะมาตรวจเวร เลยรีบวิ่งลงไปหรือเปล่า?
เพียงชั่วอึดใจที่อาจารย์ ย. กำลังยืนคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนวิ่งมาอย่างเร็วจากชั้นล่าง กำลังจะขึ้นมาที่ชั้น 5 ซึ่งอาจารย์ยืนอยู่ เสียงวิ่งนั้นดังใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ อาจารย์จึงเดินจ้ำๆ เลยไปถึงชั้นดาดฟ้า เพื่อจะรอดักใครสักคนที่กำลังวิ่งขึ้นมา แต่แล้วเสียงนั้นก็มาหยุดอยู่ตรงชั้น 5 อาจารย์ ย. ก็มองลงทางช่องบันได แต่ก็ไม่เห็นใคร.. อาจารย์กำลังจะเดินลงไปสำรวจต่อ ปรากฏว่าประตูดาดฟ้า (ชั้น 6) มีลมตีแรงมากจนเกิดเสียงดัง อาจารย์ ย. จึงหยุดชะงัก และรีบวิ่งขึ้นไปทางดาดฟ้าทันที โดยคิดว่าอาจจะมีเด็กนักเรียนคนอื่นแอบอยู่ก็ได้ พออาจารย์เปิดประตูดาดฟ้าพรวดออกไป ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้อาจารย์ ย. ถึงกับช็อค แทบสติหลุด!
อาจารย์ ย. เห็นนักเรียนหญิง ม.ปลายคนหนึ่งกำลังนั่งบนขอบระเบียงดาดฟ้า คล้ายจะโดดลงไป คือนั่งแบบนิ่งๆ สภาพผมเผ้ารุงรัง แต่อาจารย์ก็ยังใจดีสู้เสือ คิดว่าเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังคิดไม่ดีจะทำร้ายตัวเอง อาจารย์จึงตะโกนบอกให้ลง อย่าทำแบบนี้! แต่เด็กคนนั้นกลับกระโดดพรวดลงไปต่อหน้าต่อตา! อาจารย์เห็นแบบนั้นเลยร้องกรี๊ดจนเสียงแตก ก่อนจะวิ่งไปมองตามลงไปข้างล่าง แต่สิ่งที่ช็อคยิ่งกว่า คือข้างล่างกลับไม่มีร่างของเด็กคนนั้น!? ตอนนั้นอาจารย์ ย. สติแทบหลุด และคิดว่าตัวเองโดนดีเข้าแน่ๆ แล้ว
พออาจารย์ตั้งสติได้ก็รีบจ้ำอ้าวลงบันไดไป และที่พีคสุดคือ ขณะที่อาจารย์กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดอยู่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งขึ้นมาแบบตอนแรกอีก! อาจารย์ ย. จับราวบันไดพร้อมกับหลับตาสวดมนต์อยู่ในใจ สลับกับวิ่งๆ เดินๆ ไม่กล้าลืมตามอง คือคลำทางลงเอา แล้วเสียงวิ่งนั้นก็เหมือนจะสวนผ่านอาจารย์ไป จนขาอาจารย์แข็ง ลืมตามาอีกทีก็ลงมาถึงชั้นล่างของหอพักแล้ว.. อาจารย์บอกว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เจอหนักขนาดนี้ หลังจากคืนนั้นอาจารย์ถึงกับต้องขอลางานอาทิตย์นึงเลยทีเดียว
Story by สมาชิกพันทิป 3844467