A Quiet Place: Day One ประสบการณ์การดูหนังที่เงียบที่สุด กลับมาอีกครั้งในเมืองใหญ่ที่ไม่ควรเงียบอย่าง New York

ท้าวความถึง A Quiet Place (2018) ภาคแรก เป็นประสบการณ์การดูหนังที่ใหม่มาก เพราะหนังต้องใช้ความเงียบ ทำให้คนดูต้องเงียบตามกันหมด ไม่กล้าจะล้วงป๊อบคอร์น หรือดูดน้ำเลย ลุ้นขั้นสุด เพราะอสูรกายในหนังมันไม่มีตา แต่มีหูที่ดีเว่อ ได้ยินเสียงเมื่อไหร่มันจะพุ่งเข้าจู่โจมเหยื่อทันที และภาคแรกมันเล่าเรื่องผ่านครอบครัวเล็กๆ นอกเมือง ที่ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ เพื่อเอาตัวรอดจากอสูรกาย โดยที่ไม่ได้บอกว่ามันมาจากไหนยังไง แต่พวกเขาใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายร้อยวันแล้ว

ภาคต่อมา A Quiet Place Part II (2020) หนังเล่าเรื่องต่อจากภาคแรก แต่ต้นเรื่องมีใส่ซีนเหตุการณ์จุดเริ่มต้นของหายนะในวันแรกที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้มาไว้ด้วย ซึ่งเป็นซีนเปิดเรื่องที่ทรงพลังมาก ชอบมากกกกก

จนภาคล่าสุดนี้ เค้าหยิบเอาเหตุการณ์ของ ‘วันแรก’ มาทำเป็นภาคใหม่ แน่นอนว่าวันแรกมันต้องเป็นอะไรที่โกลาหลวุ่นวาย หนังมหันตภัยโลกวิบัติ ความสนุกมักอยู่ที่ช่วงแรกๆ ของความวิบัตินี่แหละ และครั้งนี้สเกลใหญ่ขึ้นมาก ไม่ได้พูดถึงแค่คนในครอบครัวเดียวแล้ว

แต่.. อย่าได้คาดหวังจะเอาความตูมตามแอคชั่นเดือดตลอดเวลา

เพราะหนังไม่ได้จะพาไปทางนั้น แต่จะเล่าในมุมของความเป็นมนุษย์ ผู้คนในเมืองใหญ่อย่าง New York ที่ต้องเจอกับมหันตภัยแบบไม่ตั้งตัว ค่อยๆ เปลี่ยนจากเมืองที่คึกครื้นจอแจ กลายเป็นเมืองที่ผู้คนต้องอยู่กันอย่างเงียบกริบ ซึ่งดูแปลกใหม่ไปจากอีกสองภาคก่อนหน้า และความระทึกมันก็ยังอยู่ที่เสียงนี่แหละ มีความกดดัน สถานการณ์ตึงเครียดที่พร้อมจะเกิดจากเสียงในรูปแบบต่างๆ อาจจะไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่เหมือนตอนดูภาคแรก แต่มันยังคงระทึกในแบบนั้นอยู่

นักแสดงไม่ต้องพูดถึง งานดี น่าประทับใจ แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เจ้าเหมียวโฟรโด สามารถเรียกว่าเป็นนักแสดงนำอีกคนได้เลย บทน่าจดจำ ไม่เคยเห็นแมวเด่นขนาดนี้มาก่อนในหนัง ทาสแมวต้องมีลุ้นแน่นอน

A Quiet Place: Day One ‘ดินแดนไร้เสียง วันที่หนึ่ง’
27 มิถุนายน 2024 ในโรงภาพยนตร์

ความคิดเห็น