เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งมาจากคุณโบว์.. คุณโบว์เล่าว่า เมื่อสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เราก็ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ดูดี แต่เราก็ยังไม่เคยมีแฟนเลย อาจจะเป็นเพราะเราช่างเลือกก็ได้ในตอนนั้น วันนึงเราไปห้องสมุดกับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อนเราคนหนึ่ง ก็ไปอ่านเจอเรื่องของความเชื่อแปลกๆ ที่ว่า ถ้าจุดเทียน และปอกเปลือกแอปเปิ้ลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน จะเห็นเนื้อคู่ในกระจก โดยที่จะต้องปอกเปลือกแอปเปิ้ลไม่ให้ขาดเลยในครั้งเดียว.. ฟังแล้วทุกคนก็หัวเราะ และก็บอกให้เราลองกลับไปทำดู เผื่อจะได้รู้ว่าแฟนจะหน้าตาเป็นยังไง
ในใจเราก็ไม่ค่อยเชื่ออะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่คืนนั้นเราก็ลองทำเล่นๆ ดู โดยที่จุดเทียนหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และเตรียมมีดมาปอกเปลือกแอปเปิ้ล พอนาฬิกาเป็นเวลาเที่ยงคืนเราก็เริ่มปอกเปลือก ซึ่งเราเป็นคนปอกเปลือกแอปเปิ้ลได้อยู่แล้ว มันก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเรา ที่จะปอกเปลือกออกทั้งหมดไม่ให้ขาด
เมื่อเราปอกเปลือกเสร็จ เราก็เงยหน้ามองที่กระจก แต่สิ่งที่เห็นก็คือหน้าตัวเอง ไม่ได้มีอะไร ซึ่งเราก็คิดในใจว่า ก็มันเป็นแค่ความเชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไง แล้วเราก็เข้านอน
วันต่อมาเราตื่นขึ้นมา เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย ตอนอาบน้ำ เราก็สังเกตุเห็นที่ต้นแขนมีรอยเขียวช้ำ แต่ไม่เจ็บปวดอะไร ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เอะใจ.. และในแต่ละวันทุกเช้า เราก็จะเห็นรอยเขียวช้ำขึ้นเพิ่ม ตามต้นขา ไหล่ คอ หน้าอก.. จนกระทั่งเพื่อนทักว่าทำไมช่วงนี้เราดูหน้าโทรม เหมือนคนไม่ได้นอนเลย? เราเลยเล่าเรื่องรอยช้ำให้เพื่อนฟัง แต่ไม่ให้บอกใคร จนเพื่อนเราก็เป็นห่วง และบอกว่าจะมานอนเป็นเพื่อนด้วย
คืนนั้น หมวยเพื่อนเราก็มานอนด้วยที่บ้าน และหมวยยังแซวอยู่เลยว่ามีเทียนหน้ากระจกด้วย อย่าบอกนะว่า ปอกแอปเปิ้ล เราก็ไม่ได้ตอบอะไร.. เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นขึ้นมา เราเห็นหมวยนั่งมองเรา สีหน้าไม่ค่อยดีเลย คำแรกที่หมวยพูดคือ แกต้องไปวัดเดี๋ยวนี้เลย เราก็ได้แต่งง
หมวยพาเราไปวัดใกล้ๆ มหาวิทยาลัย พร้อมกับขวัญเพื่อนอีกคน ที่หมวยโทรเรียกมา เมื่อพวกเราไปพบกับพระรูปหนึ่ง ท่านถามเราคำแรกเลยว่าไปทำอะไรมา ทำไมมีวิญญาณผู้ชายเกาะหลังมาด้วย.. เราตกใจมาก และตอนนั้นเพื่อนเราก็เล่าสิ่งที่เห็นเมื่อคืน ให้พระท่านฟังว่า.. เห็นเงาผู้ชายร่างใหญ่ กำลังทำท่าร่วมรักกับเราอยู่.. เราตกใจแทบช็อค!
ทุกวันนี้เราต้องเข้าวัดทุกอาทิตย์ เพื่อมาทำบุญให้ดวงวิญญาณ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ หลังจากนั้น เราก็ไม่เคยเจอเรื่องน่ากลัวแบบนั้นอีกเลย
Story by SINTHAI