เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 จากคุณหมี่เกี๊ยว.. เรา และน้องพริตตี้อีก 3 คน พร้อมทีมงานอีก 2 คน ได้เดินทางไปทำงานที่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน และได้เข้าพักที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง พวกเราก็ได้แบ่งกันพักทั้งหมด 3 ห้อง คือ 303, 304 และ 305 เรากับน้องๆ อีก 3 คน อยู่ห้อง 303 กับ 304 ส่วนพี่ๆ ทีมงานอยู่ห้อง 305 ซึ่งที่นี่จะมี 4 ชั้น ลักษณะคือ เมื่อเดินออกจากลิฟมา ก็จากเป็นทางเดินยาวตรงอย่างเดียว
หลังจากที่เราออกไปหาอะไรกินกันแถวนั้นเรียบร้อย พวกพริตตี้ก็กลับมาที่โรงแรมกันก่อน และเราก็ได้หยุดคุยกะน้องๆ ที่ทางเดินตรงหน้าห้อง 303 ว่าเดี๋ยวเก็บข้าวของเสร็จ ก็ไปเจอกันที่ห้อง 304 แล้วเอาขนมไปนั่งกินกันที่นั่นนะ จากนั้นน้องๆ ห้อง 303 ก็เข้าห้องไป ส่วนเรากับน้องแป้งก็ไปที่ห้อง 304 น้องแป้งใช้กุญแจเปิดประตูออก และจู่ๆ น้องก็ร้องเสียงหลง และพูดขึ้นว่า มีเงาคนวิ่งแซงเข้าไปในห้อง วิ่งชนแบบไหล่ชนไหล่เลย แต่ไม่เห็นหน้า เห็นเป็นแค่เงาดำๆ..
ตอนนั้นเราก็กลัว แต่ก็ต้องปลอบน้องว่าไม่มีอะไรหรอก.. พอดีพี่ทีมงานคนนึงที่เป็นคนขับรถ ก็ออกมาจากลิฟพอดี และพี่คนนั้นก็รีบเดินเข้าไปในห้อง 304 ไปที่ผ้าม่านระเบียง และกระชากม่านเปิดออก แล้วก็หน้าตื่นหันมาบอกพวกเราว่า เก็บของเลย แล้วลงไปเจอกันที่รถ
หลังจากเราลงมากันแล้ว ก่อนจะเดินไปที่รถ ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมน้องพริตตี้อีก 2 คนที่ห้อง 303 ก็เลยใช้โทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์โทรขึ้นไป แต่กลับไม่มีคนรับ.. พี่ทีมงานเลยให้พนักงานขึ้นไปเป็นเพื่อน พนักงานบอกว่า ‘พี่ขึ้นไปเองเถอะ หนูไม่กล้าหรอก..’ ทั้งที่พวกเรายังไม่ได้เล่าอะไรเลย.. สุดท้าย เป็นเรากับพี่ทีมงานอีกคนขึ้นไปด้วยกัน พอไปถึงหน้าห้อง 303 ทั้งเคาะห้อง ทั้งโทรเข้ามือถือ ทั้งเขย่าลูกบิด ก็ไม่ยอมเปิดประตู หรือรับโทรศัพท์เลย
ระหว่างที่ถอดใจว่าปล่อยไว้ที่นี่ละกัน ตอนเช้าค่อยมารับ จู่ๆ น้องๆ ก็เปิดประตูออกมางงๆ ยังไม่ทันได้พูดอะไร เราก็บอกให้น้องๆ รีบเก็บกระเป๋าลงไปที่รถ.. พอทุกคนลงมาก็ขึ้นรถรีบออกจากโรงแรมทันที ระหว่างที่ขับไปหาโรงแรมใหม่ พี่คนขับขับเร็วมาก ตาก็มองแต่กระจกหลังจนเกือบจะชนหลายครั้ง น้องๆ ต้องคอยเตือนให้พี่ตั้งสติ
พอตอนเช้า ก็มานั่งคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่คนขับรถบอกว่า ตอนขับออกมาจากโรงแรม เห็นผู้หญิงเกาะกระจกหลังรถตลอดเวลา ก้มหน้า แต่พอพี่หันไปมอง เค้าก็จะหันมาสบตาในกระจกตลอด.. ซึ่งพี่คนขับบอกอีกว่า ผู้หญิงที่เห็น เป็นคนเดียวกับที่เห็นที่นอกระเบียงห้องเรา พี่เค้าเห็นจากตรงที่จอดรถ ทีแรกนึกว่าเป็นขโมย พี่เค้าถึงวิ่งไปกระชากม่านดู แต่แล้วกลับไม่เจออะไรเลย.. ส่วนน้องๆ ห้อง 303 ก็เล่าว่าไม่มีเสียงโทรศัพท์ เสียงเรียก หรือเสียงเคาะประตูเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ออกมาเพราะกำลังจะเดินไปกินขนมห้องเรากัน พวกเราคุยกันตอนนั้นก็ถึงกับขนลุกเลย
สถานที่จัดงานที่เรามาทำงาน ก็อยู่ตรงกันข้ามกับโรงแรมที่เกิดเรื่องนั่นเอง พอตอนว่าง พวกเราทั้งหมด ก็เดินจูงมือกันไปถามที่เคาน์เตอร์โรงแรม พนักงานกะกลางวันก็โวยวายว่าใครให้ขึ้นไปพักชั้นนั้น ใครเป็นคนปล่อยห้อง แล้วก็ได้แต่ขอโทษ แต่ก็ไม่ยอมเล่าอะไร.. จนสุดท้ายพวกเราออกมานั่งกินข้าวร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ นั้น ก็พูดคุยเรื่องนี้กันระหว่างกินข้าว ป้าร้านข้าวได้ยินเข้า ก็เล่าว่า เมื่อเดือนที่แล้วเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อุ้มออกมา 2 ศพ จากโรงแรม ผัวเมียทะเลาะกัน แล้วพลัดตกตึกตายทั้งคู่เลย
Story by คุณหมี่เกี๊ยว