เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งมาจากคุณนิว เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว สมัยที่คุณนิวยังเรียนอยู่ ม.5 ในโรงเรียนสตรีเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี อาคารเรียนจะมีอยู่ 3 ชั้น โดยชั้นบนสุด จะเป็นห้องเรียนคอมฯ ห้องแลป ห้องศิลปะ รวมถึงห้องนอนกลางวัน ของน้องชั้นอนุบาล ซึ่งไม่มีห้องเรียนปกติเลย ยกเว้นแต่ห้อง ม.5 สายวิทย์ที่คุณนิวเรียนนั่นเอง คุณนิวเล่าว่า..
วันเปิดเทอม ม.5 วันแรก กลุ่มเราก็เข้าไปจับจองโต๊ะ ที่อยู่บริเวณมุมในสุด ด้านหลังห้อง คาบแรกไม่มีเรียน เราก็จับกลุ่มคุยเล่นกับเพื่อนๆ เพราะห้องเราเป็นห้องเดียว ที่ถูกยกมาไว้ถึงชั้น 3 ติดกับห้องนอนเด็กอนุบาล ซึ่งจะไม่มีครูเดินผ่านเลย หากไม่มีสอน.. ระหว่างที่คุยกันนั้น หนึ่งในเพื่อนเรา สังเกตุเห็นเก้าอี้ตัวหนึ่งถูกวางทิ้งไว้ที่มุมหลังห้อง ขณะที่เพื่อนคนหนึ่ง กำลังจะเดินไปลากเก้าอี้ตัวนั้นมานั่งล้อมวงคุยกัน ครูประจำชั้นก็เดินเข้ามาพอดี.. และหลังจากเรียนมาเกือบสัปดาห์ คนในห้องก็สังเกตุว่า มีเพียงห้องนี้ห้องเดียว ที่ไม่มีนาฬิกาแขวนไว้หน้าห้อง จึงคุยกับครูว่าจะซื้อนาฬิกามาแขวนไว้ดูกัน แต่ครูกลับบอกว่า ห้องนี้มีธรรมเนียมไม่ให้แขวนนาฬิกา และบอกอีกว่า เก้าอี้หลังห้องตัวนั้นก็เช่นกัน ห้ามไปนั่งหรือย้ายไปไหนทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไม
แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ห้องเรามีเรียนพิเศษ ประมาณ 5 โมงเย็น กลุ่มเราก็นั่งรอในห้อง.. ปกติครูจะสอนด้วย ไมค์เคลื่อนที่ และลำโพงค่ะ ก่อนเริ่มสอน นักเรียนกำลังทยอยเดินเข้ามา ครูยืนหน้าห้อง โดยเอาลำโพงวางไว้บนโต๊ะครูตัวหน้าสุด ที่ไม่มีคนนั่ง ครูคนนี้เป็นคนขี้เล่นค่ะ เป็นผู้ชาย ฮัมทำนองเพลงแม่นาค ใส่ไมค์ ตอนนั้นก็เย็นแล้ว แถมบรรยากาศห้องเรียนยังเปลี่ยวอีก มีนักเรียนออกอาการโวยบอกครู ให้เลิกเล่นเหอะไม่งั้นจะไม่เรียนด้วยแล้ว พอครูหยุดฮัมเพลง ปรากฏว่าเสียงฮัมกลับไม่หยุด กลับมีผู้หญิงมาฮัมต่อ! ตอนนั้นเอง นักเรียนคนหนึ่ง ที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็ร้องกรี๊ด~ แล้วชี้ไปที่โต๊ะครูที่มีลำโพงวางอยู่ เป็นสัญชาตญาณที่เพื่อนในห้อง รวมถึงครูต้องหันมองตาม สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ.. มีเท้า เป็นเท้าเปล่า สีดำมอมแมม ตั้งแต่ช่วงเข่าลงมา อยู่ใต้โต๊ะนั้น เหมือนมีคนนั่งอยู่ แต่ช่วงบนเหนือโต๊ะ กลับไม่มีใคร! เห็นแบบนั้น นักเรียนกว่า 20 คน รวมถึงครู ต่างวิ่งหนีออกมาหมดเลย.. และครั้งนั้น เป็นครั้งที่เจอจังๆ โดยที่ทุกคนในห้อง เห็นภาพ และเสียงแบบเดียวกันหมด เรียกว่าผีหลอกเป็นหมู่คณะเลยค่ะ
หลังจากเรื่องนั้น.. เราเองก็รู้จักรุ่นพี่ ม.6 อยู่บ้าง วันนึงมีโอกาสนั่งคุยเล่นกันหลังเลิกเรียน เลยถามรุ่นพี่ถึงเรื่องนาฬิกา และเก้าอี้ตัวที่อยู่หลังห้องนั้น รุ่นพี่บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมานานมาก.. ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 รุ่น มีนักเรียนกลุ่มนึง ไปเล่นผีถ้วยแก้วในห้องนั้น แล้วคงไม่ได้ทำพิธีเชิญออก.. หลังจากนั้นมา ก็เกิดเรื่องแปลกกับห้องนี้ คือ ทุกเทอม ม.4 ห้องสายวิทย์ ที่ต้องย้ายขึ้นมาเรียนห้องนี้ จะต้องมีสมาชิก 1 คนแสมอ ที่จะไม่ได้ขึ้นมาเรียน เช่นเสียชีวิต หรือลาออก เป็นเช่นนี้มาทุกปี พวกครูเลยทดลองโดยการ เอาเก้าอี้ส่วนเกินมาวางไว้หลังห้อง และห้ามใครไปนั่งเป็นการแก้เคล็ด ซึ่งปรากฎว่าได้ผล เลยวางไว้แบบนั้นตลอดมา.. ส่วนเรื่องนาฬิกา แม้ว่าจะมีเก้าอี้แก้เคล็ดแล้ว แต่เมื่อสมัยตอนที่ยังมีนาฬิกาแขวนอยู่ ทุกๆ เช้านาฬิกามักจะหยุดเดินที่เลข 7 เสมอ ไม่ว่าจะเพิ่งเปลี่ยนถ่าน หรือซื้อมาเปลี่ยนใหม่แล้วก็ตาม เลยตัดรำคาญ โดยการไม่แขวนเสียเลยดีกว่า.. และแต่ละรุ่น มักเจอเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก ในห้องนี้มากน้อยแตกต่างกันไป และจากนั้น ได้ตั้งเป็นคำนามที่ใช้เรียก แทนอะไรบางอย่างในห้องนั้นสั้นๆ ว่า ‘พี่เจ็ด’
และในช่วงปีที่เราเรียนห้องนั้นมา ก็มีเพื่อนในห้องเรา ที่เคยเจอเรื่องสยองของ ‘พี่เจ็ด’ หลายครั้ง เช่นหากใครมาโรงเรียนเช้าสุด ก่อนเดินไปเปิดประตู พอมองลอดหน้าต่างเข้าไป ก็จะเห็นเท้าของพี่เจ็ด ห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน! บ้างก็เล่าว่า เคยกลับมาหยิบของตอนเย็นก่อนกลับบ้าน ก็จะเห็นเงาดำๆ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวหลัง เลยไม่กล้าเข้าไปเอาของ ทิ้งของไว้อย่างนั้น..
ทุกคนที่นี่.. ต่างเคยฟังเรื่องเล่าของ ‘พี่เจ็ด’
บางคน.. เคยได้รับความช่วยเหลือจาก ‘พี่เจ็ด’
แต่น้อยคน.. ที่จะเคยเห็น ‘พี่เจ็ด’ ปรากฏตัว
Story by คุณนิว