เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณบอม เมื่อสมัยเรียนปี 4 คุณบอมเป็นคนรักษาสุขภาพ ติดการออกกำลังกาย ก็จะแวะไปสโมสร แถวมหาวิทยาลัย เพื่อไปว่ายน้ำเป็นประจำ แต่เนื่องจากไม่ชอบแดดร้อน คุณบอม เลยเลือกที่จะว่ายน้ำช่วงหลัง 6 โมงเย็น โดยคุณบอมเล่าต่อว่า..
ปกติ ก่อนจะลงสระ ผมก็จะวิ่งรอบสระ ประมาณ 10 รอบ เพื่อเป็นการวอร์มร่ายกายเสมอ และช่วงเวลาที่ผมมา ก็จะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ นอกจากผู้ชายต่างชาติคนนึง ที่มักจะมาช่วงเดียวกับผมเสมอ และก็จะวิ่ง เพื่อวอร์มร่ายกายก่อนเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยได้คุยกัน นอกจากทักทายกัน ด้วยการยิ้ม.. วิ่งเสร็จผมก็ล้างตัว ลงสระ ก็ว่ายน้ำตามปกติของผม ประมาณ 40 นาที แล้วก็อาบน้ำกลับบ้าน
พอถึงช่วงสอบ ช่วงนั้นต้องอ่านหนังสือสอบอย่างหนัก เพราะเป็นเทอมสุดท้ายด้วย ประกอบกับต้องเดินทาง ไปต่างประเทศกับครอบครัวต่ออีก เลยไม่ได้ไปว่ายน้ำเลย พอพ้นช่วงนั้น ผ่านไปราว 2 เดือน ผมก็มีโอกาสได้แวะไปว่ายน้ำอีกครั้ง วันนี้ที่สระเงียบมาก ไม่มีคนเลยครับ.. ราวๆ ทุ่มตรง ขณะที่ผมวิ่งรอบสระ รอบสุดท้าย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนวิ่ง จากด้านหลัง แต่พอหันกลับไปกลับไม่มีใคร.. พอหันหน้ากลับมา ก็เห็นชายต่างชาติคนเดิม วิ่งนำหน้าผมอยู่ ทีแรกก็งง ว่ามาตอนไหน คิดว่าคงวิ่งแซงไป ตอนที่เราหันหลังกลับมามอง.. จากนั้นผมก็ลงไปว่ายน้ำครับ
ระหว่างว่ายน้ำ คงเพราะไม่ได้ว่ายมานาน ผมรู้สึกเหมือนมันหนักแขน หนักขา ว่ายไม่ค่อยจะไป เลยยืนพักหายใจที่ขอบสระสักครู่ ก็มองชายต่างชาติคนนั้นวิ่งไปเรื่อย จนผมหายเหนื่อยก็ว่ายต่อครับ.. ตอนนั้นว่ายท่ากรรเชียง (นอนหงาย) เพราะจะไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ จังหวะที่กำลังจะถึงขอบสระ มือผมก็ตียื่นไป เพื่อจะรอจับว่าถึงขอบสระรึยัง จังหวะนั้นเอง ในมือผมก็สัมผัสได้ถึงเส้นผมครับ เส้นผมเป็นกำเลย ผมตกใจนึกว่าไปชนใครเข้า แต่พอกลับตัวมาดูก็ไม่มีใคร.. ตอนนั้นเริ่มใจเสียครับ แต่ยังเห็นชายคนนั้นวิ่งอยู่ เลยอุ่นใจ ก็ว่ายต่ออีกรอบไปกลับ ด้วยท่าฟรีสไตล์ พอตอนที่ไปถึงกลางสระ ตรงนั้นลึก 3 เมตรกว่าครับ จังหวะที่ผมเงยหน้าหายใจ และก้มลงน้ำอีกครั้ง ผมเห็นเป็นหน้าผู้หญิงอ้วน ผมยาว ลอยผ่านหน้าผมไป หน้าเกือบจะชนกัน! ผมตกใจ เสียจังหวะ จนเผลอสำลักน้ำ และจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีมือมาจับที่ขาผม พยายามจะดึง แต่ตรงนั้นผมไม่สามารถยืนถึง จนสุดท้ายผมตะเกียกตะกาย ไปจนเกือบถึงขอบสระ เห็นมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามา ผมรีบจับไว้ และมือนั้นก็ดึงผมเข้าฝั่ง คือชายต่างชาติคนนั้นเอง ที่ช่วยผม คำเดียวที่เค้าพูดมาคือ ‘ระวังด้วยนะ’ เป็นภาษาอังกฤษ และเค้าก็วิ่งต่อ ส่วนผมมองลงไปในสระน้ำ ก็ว่างเปล่า..
ผมนี่รีบอาบน้ำ ขับรถกลับบ้านทันที ขนลุกไปตลอดทางเลย.. พอกลับถึงบ้าน ผมรีบสวดมนต์ แล้วเข้านอนทันที ซึ่งปกติ ผมไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอนนะครับ.. วันต่อมาด้วยความสงสัย ว่าที่สระว่ายน้ำต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ผมเลยไปที่สโมสร ทั้งที่เป็นวันหยุด แต่กลับดูเงียบๆ ไม่มีคน ผมไปถามที่ออฟฟิศ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง.. เจ้าหน้าที่ผู้หญิงดูหน้าเจื่อนๆ และบอกผมว่า ‘เมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้หญิง อายุประมาณ 35 มาว่ายน้ำ แล้วเกิดเป็นตะคริว กำลังจะจมน้ำ แต่ก็ไม่มีคนลงไปช่วย จนมีชายต่างชาติคนนึง กระโดดลงไปช่วย แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เอาแต่ตกใจ กดชายคนนั้นไม่ปล่อย สุดท้ายจมน้ำเสียชีวิตทั้งคู่..’ ผมได้ฟังอย่างนั้นนี่ ขนผมลุกกว่าเดิม 2 เท่าเลยครับ.. ผีหลอก 2 ชั้นเลย แต่อีกใจนึงก็รู้สึกขอบคุณ เพราะไม่อย่างนั้น ผมอาจจะเป็นอีกศพนึง ในสระนี้ก็เป็นได้..
Story by SINTHAI