เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณเจมส์ เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาครับ เจมส์เป็นคนที่ชอบเล่นบาสมาก เล่นอยู่ที่สนามจน 2-3 ทุ่มทุกวัน เพื่อนก็ต้องคอยเอาพวกอาหาร หรือชุดไปให้มันที่สนามทุกเย็น คุณเจมส์เล่าว่า..
มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเพื่อนผมไปธุระที่ต่างอำเภอ ผมเลยต้องไปกินข้าวเอง เอาของเอง ช่วงนั้นเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ผมกลับมาจากเอาของ ก็เข้าไปที่สนามบาส ตอนนั้นสนามโล่งมากครับ ปกติช่วงนั้นคนจะเล่นเยอะมาก แต่วันนี้เงียบผิดปกติ ผมก็ไม่ได้สนใจ เล่นบาสไปเรื่อยๆ ซักพักก็มีเด็กผู้ชายคนนึงเข้ามาที่สนามบาส มาถามว่า ‘เล่นด้วยได้มั้ย..?’ ผมก็ตกลง เพราะไม่มีใครเล่นด้วยเลย ก็เล่นบาสไป.. สักพัก โทรศัพท์ของผม ที่วางไว้ข้างสนามก็ดัง มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามา พอรับสายก็ไม่มีเสียงอะไร ผมเลยตัดสายทิ้งไป.. แล้วอีกไม่นาน เบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีก พอรับสายก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเหมือนเดิม ผมเลยปิดเครื่องไป..
ผมเล่นบาสไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทุ่มกว่าๆ ลมข้างนอกสนามเริ่มแรง เหมือนฝนจะตก ผมเลยบอกน้องคนนั้นว่า ขอกลับก่อน และก็ใส่เสื้อคลุม เก็บของ แล้วรีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป แต่พอถึงหน้าทางเข้าสนามบาส เหมือนมีอะไรบางอย่าง กระแทกเข้ามาอย่างแรง จนมอเตอร์ไซค์ล้มได้แผลมา ผมก็ค่อยๆ พยุงรถขึ้น ตอนกำลังสตาร์ทรถ น้องคนนั้นก็มาอยู่ข้างๆ แล้วถามว่า ‘พี่เป็นไรรึเปล่า..?’ ผมก็ตอบแบบปัดไปว่า ‘ไม่เป็นไร.. ขอตัวนะ’ แล้วก็ขี่รถออกไป.. พอขี่ออกไปได้นิดหน่อย ผมก็มองกระจก เห็นน้องคนนั้น คุยกับเด็กผู้หญิงอีกคนนึงอยู่ ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็ขี่กลับบ้านไป
เย็นวันต่อมา ผมก็มาที่สนามบาสตามปกติ ทุกอย่างปกติ คนเยอะเหมือนเดิม แต่ผมพยายามมองหาน้อง คนที่เล่นบาสด้วยเมื่อวาน ไม่ค่อยจะมีสมาธิกับการเล่นบาส จนเพื่อนผมถามว่า ‘เป็นไร? ทำไมดูเลิ่กลั่ก’ มันบอกว่าหาน้องคนเมื่อวานอยู่.. พอประมาณ 2 ทุ่ม คนเริ่มกลับไปหมด แล้วน้องคนนั้นก็มาครับ ผมเลยถามไปว่า ‘วันนี้มาดึกจัง’ น้องคนนั้นบอกว่าไปธุระมา.. พอเล่นไปสักพัก โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นอีกครับ พอเดินไปดู ปรากฎว่าเป็นเบอร์เดียวกับเมื่อวาน ผมเลยรับสาย แล้วก็ต่อว่าไปชุดนึง แต่คราวนี้มีเสียงเบาๆ ออกมาด้วยครับ จับใจความไม่ได้ แต่มีคำว่า ‘น้อง..’ อะไรสักอย่าง ผมเลยตัดสายทิ้ง แต่ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ ก็มีข้อความส่งเข้ามาว่า ‘ออกไปจากน้องกู เอาน้องกูคืนมา..’
ผมนิ่งไปพักนึง แล้วก็กลับไปเล่นบาสต่อกับน้องคนนั้น ผมเล่นต่ออีกไม่ถึง 10 นาที ผมก็จะกลับ แต่สีหน้าน้องคนนั้นดูเศร้าๆ พอผมเปิดประตูออกไปก็เจอกับเด็กผู้หญิง คนที่ผมเห็นเมื่อวาน ยืนอยู่หน้าประตู แล้วก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดน้ำเสียงแหบๆ ว่า ‘เอาน้องกูคืนมา..’ ผมตกใจมาก เพราะหน้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ ดวงตาลึกโบ๋ ไม่มีนัยน์ตา! แล้วน้องผู้ชายก็เดินออกมา แล้วก็พูดเสียงดังว่า ‘พี่มาทำไม ไม่ต้องมายุ่งกับผม!’ ตอนนั้นผมมึนงงมาก พยายามย่องไปที่มอเตอร์ไซค์ ระหว่างที่พี่น้องคู่นั้นทะเลาะกันอยู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น คือดวงตาของน้องผู้ชายคนนั้น กลายเป็นสีดำสนิทไปแล้ว.. ผมบิดรถไปอย่างเร็ว ไม่มีเหลียวหลัง เพราะมั่นใจว่าโดนเข้าแล้ว.. ผมไปยังวัดที่ใกล้ที่สุดแถวนั้นทันที และก็โทรตามเพื่อนผม ให้มาที่วัดด้วย
ตอนนั้นจำได้เลยเพื่อนบอกผมว่า ผมตัวซีด ปากสั่น พูดลำบากมากครับ จากนั้นหลวงพ่อก็มาจัดการทำพิธีอะไรให้สักอย่าง.. แล้วเพื่อนผมก็ต้องหอบผมกลับไปที่บ้านมัน โดยที่คืนนั้น ผมลากเพื่อนผมไปนอนห้องพระด้วยกัน.. พอเช้าวันรุ่งขึ้น ผมลองไปถามภารโรงที่โรงเรียน ว่าเคยมีเรื่องอะไรที่สนามบาสมั้ย? เค้าบอกมาว่า เคยมีพี่น้องคู่นึง น้องชายชอบมาเล่นบาสที่สนามนี้มาก แล้วก็ชอบกลับบ้านค่ำๆ คล้ายๆ ผม ส่วนพี่สาวนี่ห่วงน้องชายมาก ไปไหนไปคุมตลอด.. จนวันที่เกิดเหตุ น้องชายไม่ยอมกลับบ้าน เลยวิ่งหนีพี่สาวไปทางถนนใหญ่ คนพี่ก็วิ่งตาม จนทั้งคู่ ถูกรถสิบล้อชนตายที่หน้าทางเข้า.. แล้วเมื่อวันก่อน เป็นวันครบรอบวันตายของทั้ง 2 เค้าเลยปิดสนามบาสเร็ว แต่ผมไม่รู้เข้าไปได้ยังไง ก็ไม่มีใครทราบเช่นกันครับ..
Story by คุณเจมส์