เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณเบลส์ครับ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสมัยคุณเบลส์อายุได้ประมาณ 10 กว่าขวบ คุณเบลส์เล่าว่า.. สมัยเมื่อ 20 ปีก่อน เชียงรายไม่ได้เจริญเท่าไหร่นัก ช่วงนั้นคุณตาผมป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าคุณตาเป็นนิ่วในไต ต้องได้รับการผ่าตัดครับ
ในวันที่คุณตาผมต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาลก่อนผ่าตัดล่วงหน้า 2 วัน เพื่อดูอาการ ต้องงดน้ำ งดอาหาร.. สมัยก่อนโรงพยาบาลรัฐ หากจะใช้ห้องผู้ป่วยพิเศษ ต้องจองล่วงหน้าก่อน เพราะงั้นคุณตาผมเลยต้องพักอยู่ห้องรวมซึ่งอยู่ชั้น 5.. แม่ผมทำงานโรงแรมวันนั้นอยู่กะดึก ยายก็ต้องเฝ้าบ้านเพราะไม่มีคนดูแลบ้าน ส่วนน้องชายผมยังเล็กมาก ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมเลยต้องเป็นคนมานอนเฝ้าคุณตา
ลองนึกภาพตามนะครับโรงพยาบาลรัฐ ตึกรวม ตึกเก่า ผนังอาคารเก่า สวนป่ารกล้อมรอบ.. แต่ถึงจะเก่าแต่ที่นี่ก็มีลิฟท์ ซึ่งตัวผมตอนนั้นไม่เคยขึ้นลิฟท์ และไม่รู้จักลิฟท์เลย ก็แอบตื่นเต้นไปตามประสาเด็กบ้านนอกครับ ช่วงกลางวันนี่ ขึ้นๆ ลงๆ ลิฟท์เล่นตลอด กดปุ่มไปเรื่อยเลย.. จนตกเย็นวันนั้น ประมาณ 6 โมงเห็นจะได้ เพราะโรงพยาบาลเพิ่งเปิดเพลงชาติ.. ผมก็เดินไปกดลิฟท์เล่นตามปกติ คราวนี้ลิฟท์เปิดมา ผมก็เห็นเด็กผู้หญิงคนนึง รุ่นราวคราวเดียวกับผม ลักษณะเหมือนจะเป็นชาวเขา ผมก็ทักทายไปตามประสา ถามไปถามมา เธอชื่อว่า ‘บุญา’ (อ่านว่า บุ-ยา) ครับ ผมก็ชวนคุย ชวนเล่นกับเธอระหว่างที่ลิฟท์ขึ้นไปชั้นบน จากชั้น 1 ไปชั้น 5 ลิฟท์สมัยก่อนมันจะแบบอืดๆ หน่อยครับ.. พอถึง ผมก็นัดเธอที่หน้าลิฟท์ชั้น 5 สักทุ่มครึ่งจะออกมาเล่นกันอีก.. ผมจำเธอได้แม่น เอกลักษณ์คือจะพูดไทยไม่ชัด ไม่ค่อยยิ้ม ตาสีน้ำตาลดำ ผมสีน้ำตาลแดง (ใครเคยเห็นเด็กชาวเขาจะนึกภาพออก)
พอถึงเวลานัดผมก็มารอเธอ.. สัก 20 นาทีผ่านไปก็ยังไม่มาอีก ผมเลยจะลงไปเดินเล่นข้างล่าง ก็กดลิฟท์รอสักพัก ประตูลิฟท์ก็เปิด ผมเจอบุญาอยู่ในลิฟท์ครับ ก็แอบตกใจเบาๆ ก็บอกไปว่า ‘นึกว่าจะไม่มาแล้ว..’ จนลงมาถึงชั้นล่าง ก็พากันไปเล่นสวนเด็กเล่นข้างๆ ตึก ตรงนั้นมีไฟแค่ดวงเดียวไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่.. เธอนั่งเล่นชิงช้าไป ผมก็สังเกตุว่าเธอไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ ไม่ยิ้ม.. เลยลองถามไปว่า ‘มาทำอะไรที่โรงพยาบาล ใครป่วยเหรอ?’ เธอตอบผมว่า ‘เปล่า.. แม่เป็นคนงานที่นี่’ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เล่นกระดานลื่นไป.. จนสัก 3 ทุ่มเห็นจะได้ บรรยากาศเริ่มเงียบ ใจเริ่มสั่น ผมเลยตะโกนเรียกบุญา ว่าจะชวนกลับ.. แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับครับ รู้ตัวอีกที มีผมอยู่คนเดียวที่สนามเด็กเล่น
ผมรีบวิ่งกลับไปรอลิฟท์ชั้น 1 พอลิฟท์เปิดมา ก็เจอบุญาในลิฟท์อีก ผมก็ตกใจ มือนี่เย็นเฉียบเลย แต่ก็คิดว่าเธออาจจะไปเข้าห้องน้ำ คือคิดเองเออเองครับตอนนั้น.. ผมก็บอกไปนะว่า ‘กลับก่อนก็ไม่บอกกัน วันหลังจะไม่ชวนไปเล่นด้วยแล้ว..’ เธอก็มองผมแต่ไม่พูดอะไร ผมเข้าลิฟท์ไปกดชั้น 5 และหันหลังให้เธอ คือในลิฟท์ตอนนั้นเย็นยะเยือกมากครับ เย็นแบบผิดปกติ รู้สึกได้เลย.. พอถึงชั้น 5 ลิฟท์เปิด เลยจะหันไปแลบลิ้นใส่ซะหน่อย พอหันไปเท่านั้นล่ะ ในลิฟท์กลับว่างเปล่า! ทั้งๆ ที่ขึ้นมาลิฟท์มายังไม่ได้หยุดชั้นไหนเลย! ตอนนั้นผมนี่ขนลุกโดยอัตโนมัติเลย กลัวมากๆ
ผมรีบวิ่งไปที่เตียงคุณตาผม พยาบาลกำลังเข้ามาเช็คประวัติคุณตาพอดี ตาถามผมหายไปไหนมาตั้งนาน? ก็เลยบอกคุณตาว่าลงไปเล่นกับเพื่อนมา ตาก็งงถามผมว่า ‘มีเพื่อนที่นี่ด้วยเหรอ?’ ผมตอบว่า ‘เจอที่ตึกนี้แหละ เจอในลิฟท์ ชื่อบุญา’ นางพยาบาลก็ตกใจ และถามผมว่า ‘ใครนะคะน้อง?’ ผมก็บอกว่า ‘เป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ตึกนี้ ชื่อบุญาอะครับ..’ ความเงียบเริ่มเกิดขึ้นทันทีครับ จนพี่พยาบาลบอกเดี๋ยวมานะ.. แล้วสักพักพี่พยาบาลก็พาหัวหน้าพยาบาลอีกคนมาด้วย มาคุยกับผมข้างๆ เตียงคุณตา และถามลักษณะของเด็กผู้หญิงคนนั้น ผมตอบได้อย่างแม่นยำเลยครับ.. พี่หัวหน้าพยาบาลบอกผมว่า ‘น้องใจเย็นๆ นะคะ น้องบุญาเนี่ย เสียชีวิตไปได้ปีกว่าแล้ว ตอนที่เค้าก่อสร้างลิฟท์ เธอมาตามหาแม่ที่เป็นคนงานก่อสร้าง แล้วก็พลาดตกลงไป หลังจากนั้นมา ก็มีคนเคยเจอเธออยู่ในลิฟท์บ่อยๆ..’
บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกคูณสอง ทุกอย่างที่ได้เจอ และได้ฟัง มันตอกย้ำให้ผมมั่นใจ 100% ว่าผมถูกผีหลอก.. ผมคุยกับผี เล่นกับผี ผมนี่ลมแทบจับเลยครับ.. และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมเกลียดและกลัวการขึ้นลิฟท์คนเดียวมากๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังกลัวอยู่ดี.. เรื่องนี้ผมจำไม่เคยลืมเลย หน้าเธอไม่เคยหายไปจากความทรงจำผมเลยครับ ‘บุญา’
Story by คุณเบลส์