เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณโอลีฟครับ คุณโอลีฟเล่าว่า.. เราเป็นคนที่ต้องทำงานออกต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ จนมีครั้งหนึ่ง ได้ไปทำงานที่ลพบุรี ช่วงนั้นเป็นช่วงเคอร์ฟิวเมื่อปีที่แล้วค่ะ และครั้งนี้เราก็จะไปพักที่โรงแรมที่เคยพักประจำ แต่มันเต็ม เลยต้องหาที่อื่น ก็ไปได้โรงแรมเล็กๆ แถวป่าหวายของลพบุรี ได้พักอยู่ชั้น 3 ซึ่งคืนแรกที่นอน เรานอนกับแฟนค่ะ แต่ก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างปกติดี..
คืนต่อมา แฟนเราต้องเตรียมตัว เพื่อไปประจำการชั่วคราวที่จังหวัดชัยนาท (แฟนเราเป็นทหารค่ะ) ก่อนไป แฟนก็มาส่งที่ห้อง แล้วถามเราว่า ‘อยู่คนเดียวได้นะ?’ เราก็บอกว่า ‘ได้ ไม่ต้องห่วง..’ จนแฟนไปแล้ว ก็ยังโทรมาถามอีกเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่เราไม่ได้เจออะไร บวกกับนอนโรงแรมคนเดียวบ่อยๆ จนชินแล้ว.. แต่ในขณะที่คุยโทรศัพท์กับแฟนไปได้สักพัก ตอนนั้นเวลาประมาณตี 3 ได้แล้ว เราก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกห้องค่ะ คือเป็นเสียงคนเปิด-ปิดประตู ปังๆๆ ตลอดเวลา เราก็รำคาญ เลยเปิดประตูไปดูว่าใครทำอะไร แต่พอเปิดไปก็ไม่เจออะไร เงียบกริบเลย ก็เลยปิดประตู กลับเข้าห้องนั่งคุยโทรศัพท์กับแฟนต่อ
เราก็ดึงผ้าห่มที่คลุมเตียง ให้มันหลุดออกจากที่คลุม พอหลุด เราก็เห็นว่าชื่อที่ปักติดอยู่กับผ้าห่ม มันเป็นคนละชื่อกับโรงแรมนี่นา มันเป็นชื่อแบบไทยๆ และลงท้ายว่า ‘อพาร์ทเม้นท์’ เราก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คุยโทรศัพท์ต่อ แต่พอคุยๆ อยู่ ก็ได้ยินเสียงเปิด-ปิดประตูดัง ปังๆๆ เหมือนเดิมเลย คราวนี้ดังขึ้นอีก จนเรารู้สึกหงุดหงิด คิดในใจว่า ‘อะไรวะ! ดึกขนาดนี้ ไม่เกรงใจกันเลยหรือไง?’ เราก็เปิดประตูไปดูอีกครั้ง ก็ไม่เจออะไรอีก เงียบกริบเหมือนเดิม.. เลยกลับเข้ามาในห้อง กะจะโทรแจ้งล็อบบี้โรงแรม แต่โทรศัพท์ในห้องดันพังอีก ไม่มีสัญญาณอะไรเลย ก็เลยไม่ได้แจ้ง..
หลังจากนั้นเราก็วางสายแฟน แล้วก็ปิดไฟเข้านอนค่ะ ไม่มีเสียงอะไรแล้ว.. แต่นอนไปได้แค่ไม่นานก็ต้องตื่น เพราะเราได้ยินเสียงคนพูดคุยกันค่ะ ได้ยินชัดมากๆ แต่จับใจความไม่ได้เลย ตอนนั้นเราก็เริ่มกลัวแล้ว เลยคลำหามือถือจะโทรหาแฟนค่ะ พอหยิบมือถือได้ กดเปิดหน้าจอเท่านั้นล่ะ แสงไฟมือถือสว่างวาบขึ้นมา สิ่งที่เราเห็นคือ มีเงาดำๆ เป็นรูปร่างคน ประมาณ 4-5 ยืนอยู่รอบเตียงเราเลยค่ะ! ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ถูก พูดไม่ออกเลย เรากดเบอร์แฟนแล้วหลับตาซุกอยู่ในผ้าห่ม โชคดีที่แฟนรับสายค่ะ เราเล่าให้แฟนฟังพูดติดๆ ขัดๆ ระหว่างที่คุย เสียงประตูเปิด-ปิด ปังๆๆ ก็ยังมาอีกเรื่อยๆ.. เท่านั้นล่ะค่ะ แฟนบอกเราว่า ไม่ต้องนอนแล้ว ออกเลย เราก็กลั้นใจลุกพรวดขึ้นมา เก็บของออกจากห้องทันที แล้วตะโกนว่า ‘เออ! ไม่ให้กูอยู่ กูไม่อยู่ก็ได้โว้ย!’ ..เราก็ลงไปเช็คเอ้าท์ออกเลย พนักงานก็ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? เราก็ไม่รู้จะบอกยังไง เลยบอกว่าชั้น 3 มีคนเปิด-ปิดประตูเสียงดังทั้งคืน พนักงานก็ทำหน้างงๆ ก่อนจะบอกว่า ‘ชั้น 3 ไม่มีแขกเข้าพักเลยนะคะ นอกจากห้องคุณ’ เรานี่เงิบเลย..
แล้วพอเช้ามา เราก็ไปเล่าให้พี่ที่เป็นคนลพบุรีฟัง ว่าเรามานอนที่นี่นะ เจอแบบนี้ๆ พี่เค้าก็หัวเราะแล้วบอกเราว่า ‘โรงแรมนี้แต่ก่อนเป็นอพาร์ทเม้นท์ ตามชื่อที่เราเห็นบนผ้าห่มนั่นแหละ แล้วเคยมีคนตายหลายคดีเลย ทั้งฆาตกรรม ทั้งฆ่าตัวตาย.. แล้วที่เราเห็นมาหาถึงเตียงเลยเนี่ย ได้ไปเปิดประตูให้เค้าเข้ามากันรึเปล่าล่ะ?’ คำถามพี่เค้าทำเราขนลุกเลยค่ะ ต่อไปไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร เราจะไม่เปิดประตูอีกเด็ดขาด..
Story by คุณโอลีฟ