เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณปินครับ คุณปินเล่าว่า.. ย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน เหตุเกิดที่จังหวัดอุทัยธานี วันนั้นเป็นงานเลี้ยงรุ่นเพื่อน ม.3 ที่จัดกันเองครับ ใช้บ้านเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง บ้านมันจะอยู่ในอำเภอๆ หนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้เจริญมากนัก.. พอถึงเวลานัด พวกผมมี 8 คน ขี่รถไปกัน 3 คัน 2 คันแรกจะซ้อน 3 ส่วนอีกคันจะซ้อนแค่ 2 ทางไปจะเป็นถนนเปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นไร่มันตลอด นานๆ ถึงจะมีบ้านคนสักหลัง.. คืนนั้น ก็สังสรรค์กันตามปกติ มีร้องเพลง ดื่มแอลกอฮอล์บ้าง จนกระทั่งงานจบลง ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เวลาตอนนั้นประมาณตี 2 ได้ ตัวผมเองก็เมานะครับ แต่เมาของผม คือสามารถขี่รถกลับบ้านได้อยู่
ขากลับ พวกผมก็กลับทางเดิม นั่งเหมือนเดิมเลย คือ 2 คันแรกซ้อน 3 ส่วนอีกคันจะซ้อนแค่ 2 ตัวผมเองจะอยู่คันแรก ผมขี่กลับกันสักพัก ระหว่างทางก็เห็นศาลไม้เก่าๆ ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างทาง มีพวกตุ๊กตานางรำพังๆ และหุ่นตายายเต็มไปหมด ด้วยความเมา ผมก็ปากไว ปากพล่อยครับ ผมชี้ไปที่ศาลไม้ แล้วบอกเพื่อนว่า ‘จอดๆ กูจะแวะเซเว่น..’ แล้วเพื่อนผมก็หยอกผมกลับอีกว่า ‘มึงเมาแล้ว นั่นน่ะบ้านมึง ไม่ใช่เซเว่น’ อะไรประมาณนี้ครับ.. ขี่ต่อไปได้ไม่นาน ไฟตามทางที่เป็นเสาไฟสูงๆ มันก็ดับเฉยๆ เลยครับ จะมีกระพริบติดๆ ดับๆ บ้างบางดวง ส่วนตัวผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแถวนี้มันไม่ค่อยเจริญเท่าไหร่นัก..
ทีนี้ทางกลับมันจะต้องผ่านโค้งหักศอกโค้งหนึ่ง ซึ่งเป็นโค้งอันตราย เคยมีอุบัติเหตุแหกโค้งบ่อยครั้ง รุ่นพี่ที่โรงเรียนเดียวกัน ก็เคยเสียชีวิตมาแล้วหลายราย พวกผมขี่ผ่านกันเวลาดึกๆ แบบนี้ก็รู้สึกเย็นๆ ขนลุกเหมือนกันครับ เพื่อนผมคนที่เป็นคนขี่ก็ดันพูดขึ้นมาว่า ‘ตรงนี้ไง พวกมึงจำได้ไหม? ที่มีรุ่นพี่เรามาตายกันเยอะ..’ ทุกคนก็เงียบครับ แล้วระหว่างนั้นเอง ก็มีรถบรรทุกที่ติดพ่วงคันใหญ่ๆ วิ่งผ่านมาคันหนึ่ง เปิดไฟสูงมาตลอดทางเลย ผมก็มองรอเขาตบไฟต่ำ แต่ก็ไม่ยอมตบไฟลงสักที จนผ่านรถพวกผมไป ตอนนั้นหางตาผมเหลือบไปเห็นคนขับรถพ่วง สายตาเขาเบิกกว้างแข็งทื่อเลยครับ เหมือนคนเวลาเพ่ง หรือตกใจอะไรแบบนั้น.. ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ผมกลับนึกสนุกอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง ก็เลยคุยกัน 3 คนว่าจะหลอกอีกเพื่อน 2 คันที่ตามมาว่า รถพ่วงเมื่อกี้นี้มีผู้หญิง กับเด็กนั่งอยู่ที่ท้ายพ่วงด้วย ซึ่งคนปกติไม่น่าจะนั่งได้ ทุกคนก็โอเคตามนี้ครับ คันผมจึงชะลอให้อีก 2 คันนั้นแซงขึ้นมา พออีก 2 คันเริ่มเข้ามาตีคู่กับคันผม พวกผม 3 คนก็พร้อมในการแสดง และทำหน้านิ่งกันทุกคน พวกเพื่อนผมอีก 2 คันมันก็ถามว่า ‘พวกมึงมีอะไร ชะลอทำไม?’ ผมเลยเริ่มแสดงละครพูดไปว่า ‘เมื่อกี้ที่รถพ่วงวิ่งผ่านไป กูเห็นมีผู้หญิงกับเด็กนั่งอยู่ตรงท้ายพ่วงด้วยว่ะ..’ ปฏิกิริยาของเพื่อนๆ ผม 2 คันนั้น คือหน้าซีด และก็รีบเร่งเครื่องแซงไปทันที..
เห็นอย่างนั้น พวกผมก็หลุดหัวเราะกันเสียงดังเลยครับ แล้วก็รีบเร่งความเร็วตามไป จนสุดท้ายคืนนั้นพวกผมทั้ง 8 คนไปรวมตัวกันอยู่ที่บ้านเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มครับ พอถึงบ้าน ผมก็รีบไปบอกพวกเพื่อนที่ถูกผมอำ ผมบอกพวกมันว่า ‘เฮ้ย! พวกกูล้อเล่น ไม่มีหรอกคนที่นั่งตรงท้ายพ่วงอะ พวกมึงเลิกทำหน้าเสียได้แล้ว!’ แล้วพวกผม 3 คนก็หัวเราะกันใหญ่เลยครับ แต่แล้วก็ต้องหยุดหัวเราะทันที และก็ต้องช็อคกันทั้ง 8 คน รวมถึงพวกผมด้วย เพราะเพื่อนผมคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ‘แต่พวกกู 5 คน ไม่มีใครเห็นรถพ่วงคันนั้นเลยว่ะ..’ พวกผม 3 คนถึงกับเงิบเลยครับ แล้วสิ่งที่เห็นนั่นคืออะไร!?
จากนั้นวันรุ่งขึ้น พวกผม 3 คนก็พากันไปขอขมาศาลต่างๆ ข้างทางที่ได้ไปลบหลู่ไว้ครับ และผมก็ได้ถามคนแถวนั้นเรื่องรถพ่วง จนมาได้รู้ว่า เคยมีรถพ่วงหลับใน ชนรถมอเตอร์ไซค์ลากแหกโค้งไปเป็นประจำเลย.. จากนั้นมา พวกผมก็ไม่เคยกล้าไปเที่ยวปากหมากับศาลข้างทางกันอีกเลยครับ
Story by คุณปิน