เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณชิสุกะครับ คุณชิสุกะเล่าว่า.. ย้อนกลับไปประมาณ 4 ปีที่แล้ว สมัยเรายังเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 พอมีวันหยุด เรากับเพื่อนๆ มักจะชอบชวนกันไปเที่ยวตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นช่วงวันเข้าพรรษา เราก็ได้นัดกับเพื่อนๆ รวม 6 คน ไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดปราจีนบุรี เพราะที่บ้านเพื่อนคนนี้ จะจัดงานบุญครั้งใหญ่พอดีค่ะ.. เรากับเพื่อนๆ ทุกคนออกเดินทางโดยรถตู้ประมาณ 7 โมงเช้าที่ท่ารถตู้รังสิต ถึงปราจีนบุรีก็เกือบ 11 โมงค่ะ ต่อรถมาจนถึงบ้านเพื่อน ทุกคนก็ทักทายพ่อแม่เพื่อนตามปกติ บ้านเพื่อนเราคนนี้บรรยากาศดีมาก หน้าบ้านเป็นที่นาปลูกข้าว มีต้นไม้ร่มรื่นทีเดียว
เพื่อนเราก็ให้เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บในห้องกันก่อน เราก็เดินตามๆ กันขึ้นไป จนสายตาเราก็มองไปเห็นซอกเล็กๆ ตรงก่อนทางเข้าห้องนอนเพื่อน อยู่ๆ เราก็มีความรู้สึกว่าต้องเดินเข้าไปค่ะ แล้วเราก็เดินเข้าไป ซึ่งในนั้นก็จะมีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป เครื่องลางของขลัง เยอะแยะมากมาย เราเลยยกมือไหว้ แล้วก็เดินออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร
ช่วง 2 วันที่อยู่บ้านเพื่อน เราไม่เห็นถึงความผิดปกติอะไรเลยค่ะ จนช่วงเย็น ใกล้เวลาต้องกลับแล้ว พ่อเพื่อนเลยให้คนขับรถที่บ้านขับไปส่งพวกเราที่กรุงเทพฯ รวมถึงตัวเพื่อนเจ้าของบ้านก็กลับมาด้วย พอรถออกจากบ้านเพื่อนมา หมาที่บ้านเพื่อนก็ทั้งเห่า ทั้งหอนส่งเสียงดังเลยค่ะ.. สักประมาณ 1 ทุ่ม พวกเราแวะกินข้าวในตัวเมืองนครนายก เป็นร้านข้าวต้มค่ะ คือขามาเรามากัน 6 คน ขากลับรวมเพื่อนเจ้าของบ้าน กับคนขับรถด้วย เป็น 8 คนค่ะ แต่พอไปนั่งโต๊ะ เด็กเสิร์ฟกลับเสิร์ฟแก้วกับจานมาให้เรา 9 ชุด เราก็บอกไปว่า ‘พวกเรามากันแค่ 8 ที่ค่ะ..’ เด็กเสิร์ฟกลับเถียงว่าก็มี 9 คนนี่ แต่ก็ยอมเก็บแก้วกับจานชุดที่ 9 กลับไป..
จนประมาณ 3 ทุ่ม ก็เข้าสู่กรุงเทพฯ และก็จะถึงบ้านเราเป็นคนแรก เพราะบ้านเราอยู่ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 3 และก็เอาอีกแล้วค่ะ พอถึงบ้านปุ๊บ หมาที่บ้านเราทั้งเห่า ทั้งหอนแบบผิดปกติเลยค่ะ เราก็งงๆ.. พอขึ้นห้องนอน เก็บของอาบน้ำเสร็จ เราก็ปิดไฟเข้านอนค่ะ ช่วงประมาณสักตี 1-2 กำลังสะลึมสะลือ กึ่งหลับกึ่งตื่น เรารู้สึกว่าเตียงมันขย่มๆ และเห็นเหมือนเป็นเงาดำลางๆ กระโดดๆ อยู่ที่ปลายเตียงเรา! นึกในใจ ‘โดนจนได้แล้วกู..’ ตอนนั้นมีสตินะคะ แต่ไม่กล้าลืมตาเลย ท่องนะโมไปเรื่อยๆ แล้วเสียงก็มาค่ะ เป็นเสียงเด็กผู้หญิงมากระซิบข้างหูว่า ‘ท่องทำไม ไม่กลัวหรอก!’ แล้วก็หัวเราะแบบสนุกเลย เรานี่ขนลุกมากๆ เพราะไม่เคยเจอผีหลอกมาก่อน.. จากนั้นก็ยังคงกระโดดเตียงเราใหญ่เลยค่ะ เราสัมผัสได้ถึงความยุบตัวของเตียงชัดๆ เลย นอนไม่ได้เลย จนพอเราได้สติก็บอกเขาว่า ‘อย่าทำไรพี่เลยนะ ถ้าพี่ทำไรไม่ดีพี่ขอโทษด้วย..’
และเราเจอแบบนั้นอยู่ 2 คืนติดกันเลยค่ะ.. จนเช้าวันต่อมาไปเรียน ไปในสภาพขอบตาคล้ำเลย ก็ได้คุยกับเพื่อนเรื่องนี้ ว่าเหมือนมีเด็กตามเรามาบ้าน เพื่อนก็ถามว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เราเลยเล่าให้เพื่อนฟังว่า วันนั้นที่ไปบ้านเพื่อน เราได้เข้าไปซอกห้องพระ โดยที่ถามคนอื่นแล้ว ก็ไม่มีเพื่อนคนไหนเข้าไปเลยนอกจากเรา.. เพื่อนเจ้าของบ้านจึงโทรหาแม่ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราให้แม่ฟัง จนสุดท้ายก็ได้คำตอบ เพื่อนเจ้าของบ้านบอกว่า ‘เป็นน้องกุมารที่แม่เลี้ยงไว้ที่บ้านแน่ๆ เขาตามแกมา ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เพราะแม่บอกว่าไม่เห็นน้องที่บ้านมา 2 วันแล้ว..’ จนสุดท้ายต้องพาน้องเค้าไปส่งบ้านเพื่อน โดยที่เราก็ต้องไปด้วยน่ะค่ะ และจากนั้นก็ไม่ได้เจอน้องเขาอีกเลย..
Story by คุณชิสุกะ