เรื่องนี้เป็นเรื่องส่งเข้ามาจากคุณบัดดี้ครับ เกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี รังสิต คลอง 3 โดยคุณบัดดี้เล่าว่า.. ทุกๆ วันศุกร์ส่วนใหญ่ พวกผมกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม จะมีนัดสังสรรค์กันบ่อยๆ และวันนั้นก็เป็นอีกศุกร์หนึ่ง ที่พวกผมมีนัดกันครับ.. เวลาผ่านไปจนถึงช่วงค่ำ พวกผมซ้อมบอลกันเสร็จประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปอาบน้ำ และก็นัดกันว่า จะไปเจอกันที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มครับ
คืนนั้น ผม และเพื่อนๆ ก็นั่งดื่มสังสรรค์เฮฮากันไปเรื่อย จำได้ว่าตอนประมาณเวลาตี 2 กว่าๆ มีเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง ชื่ออั๋น ต้องรีบกลับบ้านกระทันหัน เพราะว่าแม่โทรมาตามครับ อั๋นขอให้ใครก็ได้ไปส่งหน่อย ผมเลยอาสาที่จะไปส่ง เพราะว่าเพื่อนๆ แต่ละคนก็เริ่มที่จะเมา และคงขับรถไม่ไหวกันแน่ๆ.. ผมขับรถออกมาส่งอั๋น เวลานั้นมืดมากๆ ถนนแทบไม่มีรถวิ่งเลย แต่พอขับได้เกือบจะถึงปากทาง ผมลดความเร็วลงเพราะว่า มีด่านตำรวจอยู่ข้างหน้า และผมไม่ได้พกใบขับขี่ออกมา ตัวผมก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์อีกด้วย ผมเลยตัดสินใจกลับรถ เพื่อไปเข้าทางลัดทางอีกทาง ซึ่งสามารถออกไปปากทางได้เช่นกัน
เรื่องของเรื่องคือ เส้นทางลัดนี้ มีบ้านเรือนไทยอยู่หนึ่งหลังครับ เก่ามากๆ ชาวบ้านแถวนั้นลือกันว่า เคยมีผู้หญิงผูกคอตาย และชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงดนตรีไทยตอนกลางคืนเสมอ ทั้งๆ ที่สภาพของบ้านไม่น่าจะมีคนอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งผมเองก็เคยผ่านเส้นทางนี้บ่อยๆ ครับ แต่ยังไม่เคยผ่านมาเวลาดึกขนาดนี้.. บรรยากาศในตอนนั้น มันเย็นผิดปกติ ขนลุกตลอดทาง อยู่ๆ อั๋นก็บอกผมว่า ‘เห็นอะไรก็อย่าพูด ได้กลิ่นอะไรก็อย่าพูด ไว้ค่อยพูดวันพรุ่งนี้..’ ผมก็ยิ่งขนลุกสิครับ.. ขับไปสักพักก็เห็นมีรถกระบะเก่าๆ จอดอยู่ แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร ก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ เพราะกลัวที่จะเจอมิชฉาชีพเหมือนกัน แล้วสุดท้ายก็ไปถึงบ้านอั๋นครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอส่งอั๋นเสร็จ ก็ร่ำลากันตามภาษาเพื่อนฝูง อั๋นก็บอกอีกครั้งว่า ‘ขับรถกลับดีๆ มีอะไรก็ให้รีบเหยียบอย่างเดียว..’ ผมก็รับปากไป และขับรถออกมา..ในระหว่างที่ผมขับรถกลับมานั้น ผมขับมาด้วยความเร็ว 100 แต่พอใกล้จะถึงบ้านเรือนไทยหลังนั้น รถผมช้าลงเอง ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ลดความเร็วเลย ผมเปิดไฟสูงดูทางข้างหน้า ก็ไม่มีอะไรนะ แต่พอขับถึงบ้านเรือนไทยเท่านั้นแหละ สิ่งที่เห็นคือ เป็นผู้หญิงชุดขาวผมยาว มาจากไหนไม่รู้ เดินตัดหน้ารถผม ข้ามถนนหายเข้าไปในบ้าน!! ผมเหยียบเบรคดังเอี๊ยด ตกใจมาก และสงสัยมากว่าเป็นคนจริงๆ หรืออะไรกัน เลยหันหลังกลับไปดู ก็ไม่มีอะไร และบ้านนั้นก็เป็นบ้านร้างมืดสนิท ไม่มีคนอยู่แน่ๆ การจินตนาการของตัวเอง ทำให้ผมเริ่มกลัวครับ ถามตัวเองว่า ‘เมื่อกี้เราเจออะไรวะ ใช่หรือเปล่า? หรือเพราะผมเมา? แล้วไอ้อั๋นมันเห็นอะไรหรือเปล่า เลยพูดแบบนั้น?’ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรมากมาย เพราะคิดว่าเขาก็ไม่ได้มาร้าย แล้วผมก็รีบขับรถต่อเข้าเส้นถนนในคลอง เหยียบมิดครับ
พอกลับมาถึงบ้านเพื่อน ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง แต่กลับไม่มีใครเชื่อครับ ผมก็ไม่อะไร ช่างมันนั่งกินต่อ.. จนเริ่มมีอะไรแปลกๆ ครับ คือพวกเพื่อนผมอยู่ๆ ก็ทยอยเดินขึ้นชั้น 2 กันไปทีละคน 2 คน ผมก็งงๆ จนคนสุดท้ายเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านก็มาชวนผมว่า ‘เฮ้ย! ขึ้นนอนเถอะ พวกกูไม่ไหวแล้ว..’ ผมก็ตกลง ตามขึ้นไปนอนครับ.. พอขึ้นไป สภาพที่เห็นคือ ทุกคนนอนคลุมโปงครับ ผมก็แปลกใจ แต่ด้วยความเมา และง่วง เลยน็อคหลับไปทันที.. เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มาได้รู้เรื่องครับ เพื่อนผมเล่าว่า ‘ตอนออกไปเติมน้ำแข็งหน้าบ้าน สายตาก็มองอะไรไปเรื่อย จนมองไปที่รถมึง กูเห็นผู้หญิงนั่งยองๆ อยู่บนฝากระโปรงหน้ารถมึงว่ะ!’ แล้วเพื่อนผมคนนั้นมันก็มาแอบบอกทุกคนให้ลองไปดู เพื่อเป็นการเช็ค สรุปว่า ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดครับ!! ผมนี่หลอนเลย ..วันนั้นผมเลยต้องเอารถไปที่วัด เพื่อปัดเป่าไล่ดวงวิญญาณผู้หญิงคนนั้นทันทีครับ หลังจากนั้นมา ผมกับเพื่อนๆ ก็เลี่ยงเส้นทางนั้นเวลากลางคืนมาตลอดเลยครับ
Story by คุณบัดดี้