เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณจิ๊ฟฟี่ครับ คุณจิ๊ฟฟี่เล่าว่า.. คืนนั้นเป็นคืนวันฮัลโลวีนปี 2014 สำหรับเรา แน่นอนว่าต้องมีปาร์ตี้สังสรรค์ เรากับเพื่อนๆ นัดกันไว้ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง คือเราทำงานเป็นนักร้องกลางคืน ทำงานเสร็จแล้วเราถึงจะตามไปค่ะ เราเลิกงานช่วงประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ก็เดินออกมาโบกแท็กซี่ตรงริมถนนหน้าร้านชื่อผลไม้สีแดง ย่านเกษตร-นวมินทร์ ยืนโบกไปประมาณ 10 นาทีได้ ก็ไม่มีคันไหนจอดรับเลย ซึ่งแปลกมากๆ เพราะอย่างน้อยก็น่าจะจอดถามว่าจะไปไหน ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ นะคะ มันเหมือนมีใครมายืนอยู่ข้างๆ แต่ก็คิดว่าคงคิดไปเอง เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร.. และแล้วก็มีแท็กคันหนึ่ง เข้ามาส่งผู้โดยสารข้างในร้านพอดี เราเลยเดินกลับไปด้านใน รอให้ผู้โดยสารลงเพื่อจะขึ้นต่อ พอเราขึ้นรถปุ๊บก็บอกคนขับ ‘พี่คะ ไปสามวันฯ ค่ะ’ แท็กซี่ก็ขานรับ แต่ก็ยังไม่ออกรถ แล้วหันมาถามว่า ‘น้องมากันกี่คน? เพื่อนน้องคนเมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะ? ไม่ไปด้วยกันเหรอ?’ เราก็สตั๊นไป 4 วิค่ะ และตอบกลับไปว่า ‘หนูมาคนเดียวนะคะ..’ แท็กซี่ก็ทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ..

ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดละค่ะ ว่าคงโดนตามละเราเลยถามไปว่า ‘พี่คะ แล้วลักษณะเค้าเป็นยังไงหรอคะ?’ พี่แท็กซี่ก็ตอบมาว่า ‘เป็นผู้หญิงหน้าตา รูปร่าง เหมือนน้องเลยครับ’ เราถึงกับช็อคค่ะ ไอ้เจอน่ะไม่เท่าไหร่ แต่กลับหน้าเหมือนเราด้วยนี่สิ.. แล้วสักพักก็ถึงสามวันฯ ค่ะ เราก็เข้าไปข้างในผับ แล้วเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มก็ทักเราทันทีเลยค่ะ ‘นี่แกไปทำไรมา? ทำไมเมื่อกี้ฉันเห็นผู้หญิงยืนก้มหน้าเดินมากับแก’ คราวนี้เราขนลุกจริงจังเลยค่ะ เพราะมันไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือล้อเล่นแล้ว เราเลยคิดสรุปเอาเอง ว่าคงเป็นวิญญาณเร่ร่อนมาขอส่วนบุญ พรุ่งนี้เลยกะว่าจะไปทำบุญให้..

พอเที่ยวเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงบ้านราวตี 2 เราก็เข้านอนเลยค่ะ.. คืนนั้นขณะที่เรากำลังจะตะแคงเปลี่ยนท่านอน เราก็หรี่ตานิดๆ สายตาก็เหลือบไปเห็น ผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งกอดเข่าก้มหน้าอยู่ในตู้เสื้อผ้า! คือปกติเราจะเปิดประตูตู้เสื้อผ้าไว้ข้างหนึ่ง เพื่อบังแสงแดดในตอนเช้า แต่ตอนนั้นประตูตู้มันกลับถูกเปิดเอาไว้อยู่ทั้งสองข้าง ทำให้เห็นผู้หญิงที่นั่งในตู้ชัดเจนมาก ใจเราเต้นแรงมากค่ะ กลัวมากๆ กลัวทั้งเป็นคน กลัวทั้งเป็นผี เราเลยรวบรวมความกล้า ตัดสินใจลุกไปเปิดไฟ โดยระหว่างที่ลุกไป เราก็ยังคงเห็นผู้หญิงในตู้อยู่ตลอด พอเราเปิดไฟ เราก็ยังไม่กล้าเดินกลับไปดูนะคะ พยายามนับ 1-10 แล้วค่อยเดินไปดู ปรากฏว่า ว่างเปล่า ไม่มีผู้หญิงคนนั้นค่ะ เช็คดูประตูระเบียง ก็ไม่ได้ถูกงัดอะไร ล็อคอยู่เหมือนเดิม คืนนั้นเราปิดตู้ และเปิดไฟทั้งคืนเลย

เช้าวันต่อมา เรารีบเข้าวัดทำบุญยกใหญ่เลยค่ะ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะยังไม่จบ.. คืนต่อมาเราซื้อบิ๊กกั้ฟจากเซเว่นมากิน พอถึงห้อง ก็ตั้งเอาไว้บนหัวเตียง ปิดไฟห้อง เปิดแค่ไฟหัวเตียง ก่อนนอนเราก็เล่นมือถืออยู่บนเตียงไปเรื่อยจนดึก แล้วจังหวะที่เรากำลังเคลิ้มจะหลับ เราก็ได้ยินเสียงเหมือนหลอดดูดน้ำดัง ‘โคร่กกก’ เราตกใจตื่นทันที แล้วรีบดูที่หัวเตียง สงสัยว่าเสียงมาจากไหนกันแน่? ปรากฏว่าก็ไม่มีอะไร.. แต่พอเราหยิบแก้วบิ๊กกั้ฟขึ้นมา เราก็ถึงกับขนลุกเลย เพราะแก้วมันว่างเปล่า! ไม่มีน้ำสักหยด ซึ่งเรามั่นใจว่า ก่อนนอนเราเหลือน้ำแข็งไว้ไม่น้อยกว่าครึ่งแก้วแน่ๆ แล้วมันหายไปไหน? และเสียงนั้นคือเสียงอะไร?

หลังจากเรื่องนั้น ก็ยังมีคนทักเราอยู่เสมอว่า ‘พาเพื่อนมาด้วยเหรอ?’ และเราก็รู้สึกว่าเขายังคงตามเราอยู่เรื่อยๆ ทำบุญให้ตลอดก็ยังไม่ไป ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่กับเราเสมอจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาที่มาจากคืนฮัลโลวีน..

Story by คุณจิ๊ฟฟี่

ความคิดเห็น