เรื่องนี้ส่งเข้าจากคุณแป้งครับ คุณแป้งเล่าว่า.. เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว ครอบครัวหนูต้องกลับไปอยู่บ้านยายที่จังหวัดตาก เพื่อไปดูคุณยายซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน เท้าเป็นแผลทั้งเท้าไม่สามารถเดินเองได้ คุณแม่ต้องคอยช่วยดูแลคุณยาย.. เรากลับไปอยู่ที่บ้านยายได้สักพัก คุณตาก็มาเสียชีวิตลงกระทันหันด้วยโรคชราค่ะ แต่ในความโชคร้ายก็เหมือนโชคดีที่ยังได้กลับมาดูแลทั้งคุณตา และคุณยาย เพราะถ้าไม่ได้กลับมาครั้งนี้ ก็คงจะไม่ได้มีโอกาสได้เจอคุณตาอีกแล้ว
หลังจากที่คุณตาเสียชีวิตไปได้ประมาณ 1 เดือน ก็เริ่มมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับคนในบ้านค่ะ ต้องขออธิบายลักษณะบ้านยายก่อน คือจะเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างจะกั้นเป็นห้องไว้นอนเล่นตอนกลางวัน มีหิ้งพระใหญ่ ซึ่งคุณตาก็เสียชีวิตที่ห้องนั้นค่ะ.. มีครั้งหนึ่งแม่เล่าว่า ตอนแม่กำลังเก็บข้าวของอยู่ชั้นล่างคนเดียว ทุกคนขึ้นนอนกันไปหมดแล้ว แม่ได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนเสียงสวดมนต์ค่ะ ไม่สามารถฟังออกว่าเป็นเสียงใคร ซึ่งแม่ค่อนข้างเชื่อว่าเป็นคุณตา เพราะคุณตาจะสวดมนต์ก่อนนอนเวลานี้ประจำ.. ส่วนญาติคนอื่นก็เคยเจอประมาณว่า ประตูตู้ที่เก็บบุหรี่ของคุณตา มักจะถูกเปิดทิ้งไว้เสมอ ทั้งที่ไม่ได้มีใครไปยุ่งเลย และเป็นแบบนั้นวันละหลายหนอีกต่างหาก..
ส่วนหนูเองก็เคยเจอเหตุการณ์แปลกๆ กับตัวเองเหมือนกันค่ะ.. คืนนั้นหนูลงมาเล่นคอมที่ชั้นล่าง แล้วก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย เวลาตอนนั้นน่าจะประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ระหว่างที่คุยๆ อยู่อย่างเมามัน เพื่อนที่คุยอยู่ด้วยก็พูดขึ้นมาว่า ‘แกๆ ไปนอนได้แล้วไป เค้าเรียกให้ไปนอนแล้ว..’ ตอนนั้นหนูใจคอไม่ดีเลยค่ะ เพราะหนูไม่ได้ยินเสียงใครเลย มองไปรอบห้องก็ไม่มีใคร เลยรีบปิดคอม ปิดไฟ วิ่งขึ้นชั้นบนอย่างไว หนูรีบถามเพื่อนให้แน่ใจว่ามันได้ยินเสียงอะไร? เพื่อนมันบอกว่า ‘ก็ตะกี้ได้ยินเสียงผู้ชายตะคอกแบบดุๆ ว่า ดึกแล้ว ไปนอนได้แล้ว! ไม่ใช่พ่อแกหรอ?’ หนูนี่ขนลุกรีบวางสาย นอนคลุมโปงทันทีเลยค่ะ เพราะในบ้านนี้มีผู้ชายคนเดียวคือพ่อหนู ซึ่งนอนหลับอยู่ หนูมั่นใจเลยว่าเป็นคุณตาแน่ๆ เพราะท่านเป็นคนค่อนข้างดุ.. พอหนูเล่าเรื่องนี้ให้ใครๆ ฟัง ทุกคนก็ทั้งกลัว แต่ก็กลับรู้สึกเหมือนกับว่า คุณตายังอยู่กับพวกเราไม่ได้จากไปไหนเลย..
Story by คุณแป้ง