เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเอ (นามสมมติ) โดยคุณเอเล่าว่า.. เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริงเลยค่ะ คือเรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ขอใช้ชื่อว่าบี (นามสมมติ) บีเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก นิสัยจะเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ค่อนข้างเป็นคนเก็บกดค่ะ เวลาบีมีเรื่องอะไรก็มักจะมาระบายให้เราฟังทั้งน้ำตาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกทางบ้านบังคับเรื่องการเรียน เรื่องอนาคต เรื่องความรัก และบีมีเราเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียว เพราะเพื่อนที่มหาวิทยาลัยมองบีว่าหยิ่ง ทำตัวแปลก ชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว
บีมีแฟนชื่อพี่อาร์ เป็นรุ่นพี่ปี 4 ซึ่งคบหาดูใจกันมาปีกว่าๆ แล้ว แต่เป็นคู่ที่ทะเลาะกันประจำ เรียกว่าวันเว้นวันเลยก็ว่าได้ เรื่องที่ทะเลาะกันก็เพราะพี่อาร์ไม่ค่อยใส่ใจบี แถมยังชอบซ้ำเติมเรื่องที่บีถูกกดดันจากทางบ้าน และยังใช้งานบ้าน ดุด่าบีสารพัด แต่ไม่ใช้กำลังนะคะ.. บีไลน์มา ไม่ก็โทรมาระบาย และร้องไห้ให้เราฟังเกือบทุกวัน ส่วนเราคนนอกก็ทำได้แค่ปลอบ ปลอบจนไม่รู้จะทำยังไง เคยแนะนำให้เลิก บีก็บอกว่ารักพี่อาร์มาก ทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องเลิกกัน
จนวันหนึ่ง บีทักไลน์มาหาเรา มาระบายเรื่องที่พี่อาร์ขอเลิก และเก็บข้าวของออกจากห้องไป แถมบียังถูกให้พักการเรียน เพราะผลการเรียนไม่เป็นอย่างที่ทางบ้านบีตั้งใจ พ่อแม่บีเลยให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน.. ไอ้เราได้อ่านอย่างนั้นก็ตกใจ ต้องโทรคุยปลอบใจกันยกใหญ่ บีก็ได้แต่ร้องไห้ไม่พูดไม่จา ตอนนั้นในใจเราก็คิดนะว่า ดีแล้วที่ผู้ชายแย่ๆ คนหนึ่งจะไปๆ เสียที ..หลังจากวางสายกันไปสักพัก บีก็ทักไลน์มาว่า ‘พรุ่งนี้เช้ามาหากูที่ห้องหน่อยสิ มีเรื่องอยากให้มึงช่วยหน่อย..’ เราซึ่งไปห้องบีบ่อยๆ อยู่แล้ว ก็เลยตอบตกลงไป..
วันรุ่งขึ้นเราก็ไปที่หอบีแต่เช้าเลย ขึ้นไปประตูห้องบีล็อคอยู่ เราเคาะไปหลายครั้งก็ไม่มีคนเปิด ลองโทรหาก็ไม่รับสาย คิดว่าบีคงยังไม่ตื่น เราเลยรออยู่หน้าห้อง ไม่ถึง 2 นาทีก็มีเสียงลูกบิดประตูดัง ‘แกร๊ก’ เหมือนถูกปลดล็อค เราก็สะดุ้งนิดๆ ด้วยความสงสัยเลยหมุนลูกบิดดู ปรากฏว่าเปิดได้! พอเข้าไปก็ไม่เจอใคร เห็นแต่ไฟห้องน้ำเปิดอยู่ เราเลยไปนั่งที่เก้าอี้โต๊ะทำงาน ตะโกนชวนบีคุย แต่บีไม่ได้ตอบ แล้วเราก็เหลือบไปเห็นสมุดโน็ตเล่มหนึ่งวางเปิดอยู่ เขียนด้วยปากกาหมึกดำว่า ‘วันนี้ที่กูให้มึงมา กูอยากให้มึงช่วยโทรหาพ่อแม่ และพี่อาร์ ให้มารับศพกูด้วย.. กูขอโทษที่กูต้องทำแบบนี้ กูเครียด กูท้อ กูไม่ไหวแล้วกับชีวิตเหี้ยๆ ของกู.. กูฝากเอาจดหมายอีกอันในลิ้นชักให้พ่อแม่กูด้วย ขอบใจนะ กูรักมึงมากๆ’ อ่านไปเรานี่มือไม้สั่นเลย พออ่านจบเรารีบวิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำ ภาพที่เห็นคือ บีในชุดนักศึกษาตัวซีดขาว นอนพิงมุมห้องน้ำ ที่ข้อมือ และพื้นห้องน้ำมีแต่เลือด! คือบีกรีดข้อมือตัวเองตายค่ะ เราช็อคมากๆ พร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัวเลย.. ตอนนั้นจำได้อย่างหนึ่งว่า เราได้ยินเสียงพูดค่ะ เสียงผู้หญิงพูดเบาๆ ว่า ‘ขอบใจนะ..’
จากนั้นเรารีบวิ่งออกมาจากห้องบีลงมาชั้นล่างทันที และตั้งสติ โทรหาโรงพยาบาล โทรหาพ่อแม่บี มือเราสั่นจนกดผิดไปหลายครั้งเลยค่ะ.. แล้วไม่นานพ่อแม่บีก็มาค่ะ เราได้เห็นภาพที่น่าหดหู่มากๆ คือพ่อแม่บีก้มกอดศพลูกสาวตัวเอง เหมือนจะเป็นจะตายให้ได้เลยค่ะ น่าสงสารมากๆ ..หลับให้สบายนะ บี..
Story by คุณเอ (นามสมมติ)