เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณลิปตาครับ คุณลิปตาเล่าว่า.. ย้อนไปเมื่อสมัยเรียนจบใหม่ๆ นะคะ เป็นช่วงกำลังหางานทำ เรากับเพื่อนสนิทอีก 2 คนชื่อแพร กับแนน ก็ได้นัดกันจะไปนอนค้างที่บ้านของแนน เนื่องจากในวันรุ่งขึ้นพวกเราต้องไปสัมภาษณ์งานกันแต่เช้า คืนนั้นกว่าจะไปถึงบ้านของแนนก็ดึกมากแล้ว
ลักษณะบ้านของแนนเป็นตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง มีชั้น 1 ชั้นลอย ชั้น 2 ชั้น 3 และดาดฟ้า ห้องของแนนจะอยู่ที่ชั้นลอย ห้องพ่อแม่แนนอยู่ชั้น 2 ส่วนชั้น 3 ไม่มีคนอยู่ ครอบครัวแนนจะอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูกค่ะ.. พอมาถึงบ้านแนน เรา 3 คนก็ขึ้นไปบนห้องนอนของแนนทันที และแนนขอตัวไปอาบน้ำเป็นคนแรก ส่วนเรากับแพรก็นั่งเล่นคอมรอกันในห้องแนน โดยเปิดประตูห้องทิ้งไว้.. ระหว่างนั้นเอง เราก็หันไปเห็นแม่ของแนนใส่เหมือนผ้าถุงสีแดงเงาๆ เดินผ่านหน้าห้อง ขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 เราก็คิดว่าแม่แนนคงจะลงมาเข้าห้องน้ำ เราก็เลยเฉยๆ เราก็ยังพูดกับแพรเลยว่า ‘นี่ๆ แพร พวกเรามาถึงยังไม่ได้ขึ้นไปสวัสดีพ่อแม่แนนกันเลยนี่หว่า.. เมื่อกี้เห็นแม่แนนลงมาอยู่อ่ะ แต่ขึ้นไปละ..’
สักพักแนนก็อาบน้ำเสร็จเดินกลับเข้ามาในห้อง เราก็เลยถามแนนว่า ‘พ่อแม่หลับหรือยังอะแนน เมื่อกี้นี้เราเห็นแม่แนนลงมาอะ ยังไม่ทันได้สวัสดีเลย..’ พอแนนได้ยินก็นิ่งไปอยู่พักนึง ก่อนจะบอกกับเราว่า ‘พ่อกับแม่เราไปต่างจังหวัด พรุ่งนี้เย็นๆ ถึงจะกลับมา..’ เรากับแพรตกใจมาก หน้าเหวอมากๆ เราก็ถามกลับไปว่า ‘แล้วเมื่อกี้ใครอะ ที่ใส่ผ้าถุงสีแดงเดินขึ้นบันไดไปข้างบน?’ แนนก็ตอบมาด้วยหน้าตานิ่งๆ ว่า ‘คงจะเป็นแม่ตะเคียนทองล่ะมั้ง ท่านคงลงมาดูลูกหลาน..’ แล้วแนนก็พาเรา กับแพรขึ้นไปชั้น 2 เปิดประตูห้องพ่อแม่ให้ดูว่าไม่มีคนอยู่ และพาไปต่อบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งบนนั้นมีศาล และตอไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่.. แนนเล่าว่าปู่ของแนนได้ตั้งศาลเอาไว้ และเอาตอไม้ตะเคียนโบราณมาจากต่างจังหวัด.. ที่ศาลจะมีดอกไม้ธูปเทียนเปลื่ยนใหม่ทุกวัน แม่บ้านเอามาเปลื่ยนให้ค่ะ เป็นแม่บ้านทำเช้าเย็นกลับ
สรุปคืนนั้นเรา กับแพรไม่กล้าที่จะลงไปอาบน้ำกันทั้งคู่เลยค่ะ แม้ว่าแนนจะอาสาไปเฝ้าหน้าห้องน้ำให้ก็ตาม เรากลัวจริงๆ แล้วตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่เคยไปนอนค้างบ้านแนนอีกเลยค่ะ..
Story by คุณลิปตา