เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณแคทครับ คุณแคทเล่าว่า.. เมื่อปี 2555 เราได้เข้าทำงานที่บริษัทค้าวัสดุแห่งหนึ่งใน จังหวัดนครราชสีมา เราทำงานโดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า ที่นี่มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นอยู่ จนมาได้ฟังเรื่องเล่าที่พี่ๆ ยาม ของบริษัทเล่ากันคือ บนหลังคา ที่มองจากด้านหน้าประตูทางเข้า มักจะเห็นมีชายหญิงคู่หนึ่ง มานั่งห้อยขาเล่น.. พี่ๆ ยามบอกว่าเห็นประจำจนชินแล้ว แต่เราก็ไม่เคยเห็นนะคะ
จนเมื่อเราทำงานผ่านไปได้ 1 เดือน ก็มีพี่พนักงานคนหนึ่งที่ทุกคนรักเสียชีวิตไป แต่เราไม่ทันได้รู้จักพี่เค้านะคะ เพราะเค้าป่วยมานาน ก่อนที่เราจะเข้ามาเสียอีก.. และด้วยความพี่แกเป็นคนรักงานมาก คงจะมีห่วง จน เราเองที่ไม่เคยเห็นหรือรู้จักพี่เค้าเลย ก็ได้เจอ.. ลองนึกดูนะคะ ตึกจะมีลักษณะเป็นห้างวัสดุชั้นเดียว แต่สูงประมาณ 6 เมตร และจะมีช่องระบายลมเป็นบานเกล็ด อยู่ช่วงประมาณเมตรที่ 5 ..เราเห็นผู้ชายใส่ชุดพนักงานบริษัท นั่งห้อยขามองมาทางกลุ่มพวกเรา แต่เราชี้ให้ใครๆ ดู กลับไม่มีใครเห็นกันเลย เราเลยเอาไปเล่าให้พี่ฝ่ายบุคคลฟัง แกเลยค้นเอารูปพี่คนที่เพิ่งเสียมาให้เราดู เท่านั้นล่ะ น้ำตาเราไหลเลย เพราะเป็นคนเดียวกันแน่ๆ ถึงจะเห็นไกลๆ แต่เราจำได้แม่นเลย
หลังจากครั้งนั้น เรื่องที่เราเห็นพี่เขาก็เริ่มจะเงียบๆ ไป แต่แล้วมันก็กลับมาตอกย้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อช่างเทคนิคได้เปิดกล้องดูรูปถ่ายของวันหนึ่ง ซึ่งมีภาพที่ถ่ายติดพี่คนดังกล่าว ค่อนข้างเลือนลาง แต่เห็นลักษณะหน้าตาชัดเจน เหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทำให้ทุกคนเชื่อเรา เรื่องที่เราเคยเห็นพี่เค้า แล้วพนักงานเลยร่วมกันทำบุญครั้งใหญ่ไปให้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเจอพี่เค้าอีกเลย..
ผ่านไปประมาณ 6-7 เดือน เราก็ท้องค่ะ และคนท้องก็มักจะท้องผูก และเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ห้องน้ำของพนักงานจะอยู่ชั้น 2 ส่วนของห้องอาหารพนักงาน.. วันนั้น เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งกำลังโพล้เพล้ เราก็ขึ้นไปเข้าห้องน้ำคนเดียว นั่งถ่ายสักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงฮัมเพลงไกลๆ ตอนแรกเรานึกว่าเป็นเสียงจากโฆษณาทีวีข้างล่าง ก็เลยไม่ได้สนใจ ..แต่ทำไมเสียงฮัมเพลงนั้นมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังขึ้น ใกล้ขึ้น ราวกับว่าอยู่ในห้องน้ำนี่เอง.. เราก็ยังคิดว่าเป็นป้าแม่บ้าน เลยตะโกนออกไป ‘แหมป้า วันนี้อารมณ์ดีจังนะ..’ คำตอบคือความเงียบ.. ไม่มีเสียงใดๆ เอาล่ะสิ.. เรานั่งคิดดูดีๆ ถ้าใครมาฮัมเพลง อย่างน้อยก็น่าจะมีเสียงเดินนี่นา แต่นี่ไม่มี! ..พอเสร็จธุระ เราออกไปจากห้องน้ำก็ไม่มีใครเลยจริงๆ ที่บันไดเห็นน้องผู้ชายแผนกเดียวกันกำลังขึ้นมา เราเลยถามว่า ‘มีใครเดินลงไปไหม?’ น้องตอบว่า ‘ไม่มีใครเลยครับ’ เราเลยมั่นใจว่าชัดละ โดนอีกละ คือหน้าเราซีดมาก น้องเลยต้องพาลงข้างล่าง..
ผ่านไปอีกประมาณ 2 เดือน มีพนักงานน้องใหม่เข้ามา เป็นผู้หญิงสนิทกันแต่อยู่คนละแผนก.. 6 โมงเย็น เวลาเดียวกันเลย น้องก็ไปเข้าห้องน้ำคนเดียว แต่น้องไปแค่ล้างมือ และซักผ้าขี้ริ้วที่ใช้เช็ดชั้นวาง น้องก็ก้มหน้าซักผ้าไป พอเงยหน้าขึ้นมองกระจก ก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กกว่ายืนซ้อนหลังอยู่ น้องก็เลยยิ้มให้ และก้มหน้าซักต่อ พอเงยหน้ามาก็เจออยู่อีก เลยหันกลับไปจะคุย แต่กลับไม่มีใคร! ..น้องรู้ตัวดีเลยจังหวะนั้น น้องหันหน้ากลับมาที่อ่างแล้วหยิบผ้า ค่อยๆ เดินออกด้านข้างเหมือนปู เผยให้เห็นเงาของผู้หญิงคนนั้น ที่ยังอยู่บนกระจก และหันมองตามน้องที่กำลังวิ่งออกไป!
น้องวิ่ง และร้องไห้ลงมาเหมือนคนเสียขวัญ สรุปต้องเรียก 1669 เพราะน้องหมดสติเป็นลมไปเลย.. แล้วอีก 3 วันต่อมาน้องก็ถึงได้มาเล่าให้ทุกคนฟัง พร้อมกับลาออกเลยค่ะ.. พี่ๆ และพนักงานเริ่มตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ รวมถึงเราที่คิดว่า ‘เอาแล้วไง หนักกว่ากูอีก..’
Story by คุณแคท