เป็นอีกเรื่องที่ส่งมาจากคุณแอนครับ เป็นเรื่องของ ป้านิ ป้าของคุณแอนเอง.. เมื่อสมัยสาวๆ ป้านิทำงานอยู่ที่โรงหนังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเลิกงานดึกๆ ทุกคืน แต่ถึงแม้จะเลิกดึก เพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็ยังชอบชวนไปสังสรรค์ดื่มเหล้าเบียร์กันอยู่เรื่อยๆ ตามประสาวัยรุ่นเชียงใหม่..
แต่มีคืนหนึ่งหลังจากเลิกงาน พอดีวันนั้นตรงกับวันเกิดชองเพื่อนคนหนึ่ง เลยไม่พลาดที่จะต้องพากันไปฉลอง ก็นั่งดื่มกินกันจนดึกกว่าปกติ พอประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ลงมา ป้านิเลยขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะเกรงว่าฝนจะตกหนักขึ้น แล้วจะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับไม่ได้.. ระหว่างทางที่ป้านิขี่รถไป ก็ร้องเพลงไปด้วยตลอดทาง พอใกล้จะถึงสี่แยกแห่งหนึ่ง ก่อนถึงแยกนั้นประมาณ 6-7 เมตร จะมีศาลตั้งอยู่ ถัดไปก็จะมีถังขยะแบบสมัยก่อน ที่เค้าใช้ยางรถมาทำ ถังขยะวางอยู่ใต้เสาไฟฟ้าพอดี จังหวะนั้นเป็นไฟเขียวอยู่ ขณะที่ป้านิขี่ผ่านศาลนั้นด้วยความเร็ว อยู่ๆ ก็รู้สึกวูบไปเฉยๆ..
ป้านิมารู้สึกตัวอีกทีคือมีคนมาปลุก ก็ตื่นขึ้นมาแบบงงๆ และรู้ว่าตัวเองขี่รถชนถังขยะตรงเสาไฟฟ้าอย่างจัง ยามที่ประจำตรงสี่แยกเป็นคนเห็นเหตุการณ์แล้ววิ่งมาดู มาปลุกป้านิ พอเห็นป้านิได้สติ ยามก็ถามคำแรกเลยว่า ‘แล้วเพื่อนไปไหน เพื่อนผู้หญิงที่ซ้อนมาไปไหนแล้ว?’ ป้านิก็งง บอกว่า ‘ฉันขี่มาคนเดียว ไม่มีใครซ้อน!’ หลังจากประคองตัวลุกขึ้นยืนได้ ถึงได้รู้ว่าตัวเองหัวแตกเป็นแผลยาว ต้องถูกหามไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลใกล้ๆ
ป้านิก็เลยเล่าเหตุการณ์ให้พยาบาลฟัง พยาบาลก็เลยบอกว่า ‘เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปั่นจักรยาน แล้วถูกรถกระบะพุ่งชนอัดเสาไฟตายคาที่ ตรงจุดเดียวกันเลย..’ ป้านิได้ฟัง รวมกับสิ่งที่ได้ฟังจากยาม ก็เริ่มขนลุกขึ้นมาทันที คิดในใจว่า เขาคงอยากได้ตัวตายตัวแทน โชคดีที่มีถังขยะยางวางตรงนั้น ถ้าชนเสาไฟจังๆ คงไม่รอดแน่ๆ..
Story by คุณแอน (Annandant)