เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณพร (นามสมมติ) ครับ คุณพรเล่าว่า.. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2550 เป็นช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่มีข่าวไฟไหม้รถทัวร์ บริเวณหน้าฟาร์มโคนม ถนนมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี มีผู้เสียชีวิตมากถึง 29 ศพ และบ้านป้าของเราก็อยู่แถวๆ นั้นเองค่ะ.. วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันหยุดของพ่อเรา พ่อก็นัดกับอาเพื่อที่จะไปเยี่ยมป้ากัน โดยขับรถยนต์ส่วนตัวไป ก็จะมีพ่อเป็นคนขับ แม่นั่งหน้าข้างคนขับ ส่วนอากับเรานั่งหลัง ไปกันแต่เช้า อยู่บ้านป้าทั้งวัน กว่าจะกลับออกมากันก็เกือบทุ่มแล้วค่ะ
ช่วงนั้นฟ้ามืดแล้ว คนที่เคยไปมวกเหล็กจะทราบดี ว่าจะต้องลอดใต้สะพานเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปสระบุรี พอลอดใต้สะพานแล้ว จะเห็นศาลารอรถทัวร์ ที่จะอยู่หน้าโรงพยาบาล ขับมาอีกหน่อยก็จะถึงหน้าฟาร์มโคนม ตรงที่เกิดเหตุ และตรงนั้นจะมืดมากๆ เพราะไม่มีไฟ.. พ่อเราขับช้าๆ เพื่อที่จะเบี่ยงเข้าเลนทางหลัก ระหว่างนั้นไฟหน้ารถก็สาดให้เห็นข้างทางพอดี แค่แว๊บเดียวเท่านั้นค่ะ เราเห็นกลุ่มคนยืนอยู่ 4-5 คน กำลังโบกรถอยู่ เห็นชัดขนาดที่ว่ามีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้นใส่เสื้อสีน้ำเงิน มีเด็กมาด้วย แต่ที่แปลกคือ เรามองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขาเลย มันมัวๆ แปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก.. เราเลยพูดกับแม่ว่า ‘มืดขนาดนี้ มายืนรอรถตรงนี้? ทำไมถึงไม่ไปยืนรอตรงศาลา? แล้วรถจะเห็นเหรอ เนอะแม่เนอะ..’ แต่แม่เราก็ไม่ได้ตอบอะไร
พอพ่อขับรถเข้าไปใกล้ๆ เรากลับไม่เห็นคนกลุ่มนั้นแล้ว ทั้งๆ ที่ไฟหน้ารถก็สว่างพอที่จะมองเห็น เรากับอาเลยหันหลังไปดูให้แน่ใจอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครยืนตรงนั้นเลย.. ระหว่างนั้นเราได้ยินเสียงแม่เรา อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า ‘รถคันนี้คนเต็มแล้ว มีพระคุ้มครองด้วย ต่างคนต่างอยู่กันเถอะนะ..’ เรากับอาก็เลยหันกลับมา แล้วก็ต้องช็อคสุดขีดกับภาพที่เห็นค่ะ! เพราะที่ด้านนอกหน้าต่างฝั่งแม่เรานั้น มีชายใส่เสื้อสีน้ำเงินกำลังมองเข้ามา ในลักษณะเอามือหนึ่งทาบกระจกหน้าต่าง อีกมือหนึ่งป้องสายตาส่องเข้ามาในรถ ทั้งๆ ที่รถวิ่งอยู่ ภาพนั้นช็อคมากกกค่ะ! ทุกคนเงียบหมดด้วยความอึ้ง สรุปคือทุกคนในรถเห็นกันหมด รวมถึงพ่อเราด้วย แต่พ่อก็มีสติดีมาก ขับรถต่อไปแบบปกติเลย จนผ่านไปสักระยะหนึ่งเขาถึงได้หายไปเองค่ะ..
Story by คุณพร (นามสมมติ)