เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ส่งเข้ามาจากคุณตุ๊ต๊ะครับ คุณตุ๊ต๊ะเล่าว่า.. เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แฟนผมได้ย้ายไปทำงานแถวถนนพระประแดง-สุขสวัสดิ์ชั่วคราว ผมจึงต้องย้ายไปพักกับแฟนด้วยเป็นเวลา 1 เดือนครับ ผมกับแฟนตัดสินใจจองห้องพักเป็นอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง มีทั้งหมด 7 ชั้น ผมได้ห้องพักอยู่ชั้น 4 ครับ

เช้าวันต่อมา ผมกับแฟนได้ขนของเข้ามาเก็บในห้อง ลักษณะห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านในฝั่งซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ฝั่งขวาเป็นระเบียง โดยระเบียงจะติดกันกับระเบียงของห้องข้างๆ พอดี พอเก็บของเสร็จ พวกเราก็จะออกไปหาข้าวกินกันข้างนอก ตอนออกจากห้องมา ผมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังไขกุญแจเข้าห้องข้างๆ พอดี ผมเลยไปแนะนำตัวกับเขา เผื่อว่ามีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษาขอความช่วยเหลือกันง่ายหน่อย ผู้ชายคนนั้นชื่อ พี่ท้อป (นามสมมติ) ครับ พี่ท้อปจะออกไปทำงานช่วงดึก แล้วกลับห้องมาตอนเช้าครับ ทุกๆ วันเวลาแฟนผมกลับมาจากที่ทำงานตอนกลางคืน ผมก็มักจะเห็นพี่ท้อปออกมายืนสูบบุหรี่ที่นอกระเบียงห้องของเขา แล้วก็ทักผมตลอดว่า ‘พี่จะไปทำงานแล้ว ฝากดูห้องให้พี่ด้วยล่ะ..’ ผมก็ตอบตกลงเสมอ เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ

จนพักหลังๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นพี่ท้อปออกมาสูบบุหรี่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าพี่เขาคงเลิกสูบแล้ว บางทีเวลาผมออกไปตากผ้าหรือล้างจานตรงระเบียง ก็จะได้ยินเสียงพี่เขาคุยโทรศัพท์ในห้อง แล้วก็มีน้ำเสียงเหมือนโมโหบวกกับเสียใจอยู่เสมอ คิดว่าพี่เขาคงทะเลาะกับแฟน แต่ผมไม่อยากไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เลยทำเหมือนไม่มีอะไร

จนกระทั่งปลายเดือนธันวาคม ที่ทำงานแฟนผมได้จัดทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ผมเองก็ไปกับแฟนด้วย.. จนเที่ยวเสร็จกลับมาถึงที่ห้อง เวลาตอนนั้นเที่ยงคืนกว่าๆ แฟนผมเพลียหลับไปก่อนแล้ว ส่วนผมกำลังเก็บกระเป๋าเอาเสื้อผ้าไปซัก แล้วผมก็เห็นพี่ท้อปออกมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงครับ ในใจก็คิดว่าทำไมพี่เขาไม่ไปทำงาน? และด้วยความที่ไม่ได้คุยกันนาน ผมเลยยืนคุยกับพี่เขา พี่เขาก็คุยกับผมปกตินะ แต่สีหน้าและน้ำเสียงดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ หน้าตาก็ดูซีดๆ นิ่งๆ หดหู่ยังไงบอกไม่ถูก พอคุยกันไปสักพัก ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมซื้อของมาฝากพี่เขาด้วย เลยเข้าไปเอาของฝากในห้อง แต่พอกลับออกมาที่ระเบียง พี่ท้อปเขาก็ไม่อยู่แล้ว ผมเลยเดินออกไปเคาะประตูห้อง แต่พี่ท้อปก็ไม่ได้ออกมาเปิดประตู ผมเลยแขวนของฝากไว้ที่ประตู หวังว่าพี่เขาจะออกมาเอา

พอตื่นเช้ามา ผมก็เห็นว่าของฝากยังแขวนไว้อยู่ที่หน้าห้องพี่ท้อปเหมือนเดิม ในใจก็คิดว่าพี่เขาคงยังไม่ตื่น เลยไม่ได้เอะใจอะไร.. ผมกับแฟนก็ลงไปหาอะไรกินกันข้างล่าง แล้วก็ไปเห็นคนมุงกันอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้นท์เต็มไปหมด พร้อมกับมีรถป่อเต็กตึ๊ง พอถามคนแถวนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาก็บอกว่ามีคนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เมื่อเช้ามีป้าแม่บ้านมาเจอศพคาอยู่บนต้นมะม่วง พอผมลองมองไปที่ศพ ผมนี่แทบวูบลงกับพื้นเลยครับ! ศพนั้นคือพี่ท้อป ที่ผมเพิ่งคุยกับเขาเมื่อคืน! และสิ่งที่ทำให้ผมเกือบเป็นลมอีกครั้ง คือเจ้าหน้าที่บอกว่าศพเสียชีวิตมา 2 วันแล้ว! เนื่องจากชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์จะปลูกต้นมะม่วงรอบตึก ถ้ามองจากชั้นบนลงมาจะไม่เห็นอะไรเลยนอกจากต้นไม้ พี่เขาโดดลงมาคาอยู่ตรงต้นมะม่วงพอดี เลยทำให้ไม่มีใครเห็น.. แล้ว..ที่ผมคุยด้วยเมื่อคืนนี้คือ.. นึกแล้วผมนี่ขนลุกซู่เลยครับ

หลังจากนั้นเพื่อนๆ ที่ทำงานของพี่ท้อปก็มาเก็บของในห้องพี่ท้อป เพื่อที่จะเอากลับบ้านพ่อแม่พี่เขาที่ต่างจังหวัด ผมเห็นผมเลยเข้าไปช่วย พร้อมกับถามพี่ๆ เขาว่า ‘ทำไมพี่ท้อปถึงฆ่าตัวตาย?’ พี่เขาก็บอกว่า ‘พี่ท้อปเขาจับได้ว่าแฟนเขาที่คบกันมา 9 ปี ไปมีคนอื่นมาสักพักแล้ว พอรู้ความจริง เขาก็รับไม่ได้ เลยกระโดดตึกฆ่าตัวตายน่ะสิ..’ คืนนั้นผมหลอนมากครับ แต่กลับเศร้าใจมากกว่า ทำอะไรไม่ถูกเลย ผมเดินออกไปนอกระเบียงก็นึกถึงตอนที่ได้คุยกับพี่เขา และในขณะนั้นเอง ผมก็ไปเห็นเศษกระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่งอยู่ตรงพื้นระเบียงห้องผม ในเศษกระดาษมีข้อความเขียนว่า ‘ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่คอยเฝ้าห้องให้พี่ทุกวันนะ.. ท้อป’ ผมนี่น้ำตาซึมเลยครับ

หลังจากที่เกิดเรื่อง ผมกับแฟนก็ได้ไปไหว้ศพพี่ท้อปกันที่วัด ก่อนที่จะเก็บของย้ายกลับไปบ้านเดิมที่ผมกับแฟนเคยอยู่ เพราะงานของแฟนผมที่นี่ก็ครบกำหนดแล้วพอดี หลังจากนั้นมา ผมก็ไม่ได้ไปที่อพาร์ทเม้นท์นั้นอีกเลย..

Story by คุณตุ๊ต๊ะ

ความคิดเห็น