เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเอิงครับ คุณเอิงเล่าว่า.. เราเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แผนก ICU แน่นอนว่าทุกๆ วันจะต้องวนเวียนอยู่กับความเจ็บป่วย และความตาย ชีวิตการทำงานของเรา อยู่กับช่วงเวลาสุดท้ายของคนบ่อยมาก เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา และเหล่าเพื่อนๆ พยาบาลเลยค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น เรายังไม่ชินสักที.. เหตุการณ์ที่จะเล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ประมาณช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมานี่เอง เป็นช่วงที่ผู้คนทยอยกลับมาจากบ้านเกิด การจราจรติดขัด และแน่นอนว่าเคสที่ส่งเข้ามา ICU นั้น กว่า 80 เปอร์เซ็นมาจากอุบัติเหตุทั้งนั้น และเป็นช่วงที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้นตามค่ะ
ที่ทำงานเราจะแบ่งเวรเป็น 2 ช่วง คือกะเช้า และกะดึก วันนั้นเราอยู่กะเช้า งานค่อนข้างวุ่นวาย เคสคนไข้ล้นมือ กว่าจะเคลียร์งานเสร็จได้เราก็แทบหมดแรง แต่เราก็ยังต้องอยู่ stand by ช่วยกะดึกต่ออีก หรือเรียกกันว่าเวร On Call (โทรตามตัว) ค่ะ โดยปกติแล้วเราจะกลับไปพักที่ห้องของเราเองซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่วันนั้นเนื่องจากว่าเวรเช้าค่อนข้างยุ่งมาก เลยดูดพลังงานเราไปมากมาย ประกอบกับจำนวนคนไข้ที่มาเรื่อยๆ มีแนวโน้มสูงว่าเราจะถูกตามมาช่วยเวรดึก เราจึงเลือกที่จะไปนอนพักที่ห้องพักเจ้าหน้าที่แทน ห้องพักที่ว่านี้จะอยู่ในแผนก ICU แต่อยู่ลึกเข้าไปด้านในสุด มีประตู 2 ชั้น ดังนั้นภายในห้องจึงปราศจากเสียงรบกวนจากข้างนอก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ประมาณ 2 ทุ่ม เราก็เข้าไปนอนพักที่ห้องนั้นคนเดียว เราจะเป็นคนนอนหลับยาก ถ้าไม่ใช่เตียงนอนของตัวเอง แต่เนื่องจากวันนั้นค่อนข้างเหนื่อย เราจึงพอจะเคลิ้มๆ หลับไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับหลับสนิทซะทีเดียว.. เวลาล่วงเลยไปเท่าไรไม่รู้ จังหวะที่เราพลิกตะแคงตัวหันหน้าเข้าหาผนัง เราก็ได้ยินเสียงประตูเลื่อนเปิด ‘ครืด’ คือปกติจะไม่ล็อคประตูอยู่แล้ว เราก็เข้าใจว่าคงเป็นคนในเวรดึกมาตามเราแน่ๆ เลย แต่พอหันไปดู กลับเจอคนไข้ผู้ชายวัยรุ่น ใบหน้าปิดผ้าก๊อซเต็มไปหมด เราตกใจมาก คิดว่าคนไข้คงงงหรือสับสน แล้วลงจากเตียงมา แต่อีกใจก็คิดว่าทำไมถึงเดินมาถึงในห้องพักเจ้าหน้าที่ได้? เราจึงลุกขึ้นมานั่งและถามไปว่า ‘มีอะไรหรือเปล่าคะ?’ คนไข้คนนั้นตอบกลับว่า ‘อยากกลับบ้าน..’ เราจึงตอบไปว่า ‘จะกลับได้ยังไง หมอให้นอนรักษาตัว คงยังไม่ให้กลับหรอก แล้วมาจากเตียงไหนล่ะ เดี๋ยวจะไปส่งกลับเตียง’ คนไข้ตอบว่า ‘มาจากเตียงใกล้เคาท์เตอร์พยาบาล..’ เราก็ยิ่งแปลกใจว่าคนไข้จะเดินมาได้ยังไง เนื่องจากเตียงที่ใกล้เคาท์เตอร์พยาบาลนั้น มักจะให้คนไข้ที่อาการสาหัส และใส่ท่อช่วยหายใจนอน..
ตอนนั้นเราลุกขึ้นมายืนพูดกับคนไข้ เราก็บอกอีกว่าเราจะไปส่งกลับเตียง แต่คนไข้ก็ยืนยันว่า ‘หมอให้กลับแล้ว แต่ผมกลับไม่ได้..’ เราเถียงกลับไปว่า ‘ดูอาการหนักแบบนี้ หมอจะให้กลับได้ยังไง เพิ่งมาไม่ใช่เหรอ? มานี่จะพากลับเตียง..’ แต่คนไข้ก็ยังตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ‘หมอให้กลับแล้วจริงๆ เพราะผมตายแล้ว.. แต่ตอนนี้ผมออกไปไม่ได้..’ พอได้ยินแบบนั้นเรานี่สติแตกเลยค่ะ รู้เลยว่าโดนเข้าให้แล้ว ตอนนั้นเราหันไปที่เตียงนอนเรา กลับพบว่าตัวเราเองยังนอนอยู่ ไม่ได้ลุกขึ้นมาแบบที่เข้าใจเลย เราพยายามดิ้นหรือส่งเสียงร้องแต่เสียงมันไม่ออก อาการเหมือนโดนผีอำ.. สักพักเราก็หลุด และลุกขึ้นมาบนเตียง พอได้สติ เรารีบวิ่งออกมาตรงเคาท์เตอร์พยาบาลทันที ตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 พอดี เราถามพยาบาลในเวรว่า ‘มีรับเคสใหม่หรือเปล่า?’ ปรากฏว่ามีจริงๆ ค่ะ เป็นวัยรุ่นผู้ชาย ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน แต่เสียชีวิตไปแล้วสักพัก.. เท่านั้นล่ะค่ะ เรานี่ขนลุกซู่เลย ไม่กล้าถามต่อเลยว่าลักษณะคนไข้วัยรุ่นเป็นอย่างไร? เพราะอยากจะเข้าใจว่าเรานอนฝันไปเอง มันคงจะดีกว่าน่ะค่ะ..
Story by คุณเอิง