เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณกิ่งครับ คุณกิ่งเล่าว่า.. เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกๆ ที่เค้าเคยเจอมาในสมัยเด็กค่ะ ย้อนกลับไปสมัยเค้าเรียนอยู่ชั้นประถม วันนั้นเป็นวันที่เค้าเป็นเวรทำความสะอาด ก็เลยออกจากโรงเรียนช้า ขากลับก็ปั่นจักรยานกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ด้วยความที่กลับช้าประตูหน้าโรงเรียนมันปิดแล้ว ก็เลยต้องไปออกทางด้านหลังโรงเรียนแทน ด้านหลังโรงเรียนจะเป็นถนนลูกรังยาวออกไปจนถึงหลังตลาดสด สองข้างทางนี่จะเป็นป่าทึบเลยล่ะ เค้ากับเพื่อนก็ปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ คนละคัน อยู่ๆ เพื่อนมันก็ตะโกนร้องว่า ‘วัวๆๆ’ พอเค้าหันไปมองก็เห็นเป็นวัวตัวใหญ่เดินออกมาจากข้างทาง และจำได้ว่าเห็นผู้ชายตัวดำๆ ยืนอยู่ข้างวัวตัวนั้นด้วย แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นค่ะ วัวตัวนั้นวิ่งพุ่งเข้ามาชนเค้ากระเด็นไปไกลประมาณ 5 เมตรได้ แล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัดเลยค่ะ..
เค้าฟื้นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว แม่เค้าตกใจมากถึงกับร้องไห้เลย เค้าก็ถามแม่ว่าร้องไห้ทำไม? แม่บอกว่าเค้าน่ะหมดสติไป 3 วันแล้ว ทั้งที่บนตัวไม่มีแผลสาหัสอะไรเลย ภายในก็ไม่ได้บอบช้ำ แต่ที่เป็นหนักคือตรงบริเวณรอบๆ ดวงตาข้างซ้าย แม่บอกว่าหน้าเค้าไถลไปกับถนน แผลมันเหวอะหวะมาก แต่โชคดีที่ตาไม่บอด เค้าฟังแล้วก็ตกใจมาก ก็เลยเล่าให้แม่ฟังว่า ‘หนูถูกวัววิ่งมาชนอย่างแรง แต่เจ้าของวัวผู้ชายตัวดำๆ ไม่รู้ทำไมถึงปล่อยให้วัววิ่งออกมาได้ ไม่ดูแลวัวตัวเองให้ดีๆ’ แม่ได้ฟังก็ทำหน้างง ถามเค้าว่า ‘ตาฝาดไปหรือเปล่าลูก? ชาวบ้านบอกว่าวัวตัวนั้นไม่มีเจ้าของนะ เจ้าของเขาเสียไปแล้ว ญาติเขาก็ไม่มี ชาวบ้านไม่รู้จะเอาวัวตัวนั้นไปไว้ที่ไหน กลัวคนจะมาเอาไปฆ่า เลยผูกไว้ในป่าหลังโรงเรียนนั่นล่ะ ไม่เข้าใจว่าหลุดมาได้ยังไง?’ เพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมมันก็บอกว่า ตอนนั้นมีแต่วัว ไม่มีใครยืนตรงนั้นเลยนะ..
อีกอย่างที่น่าแปลกคือ วันที่เค้าถูกวัวชนคือวันศุกร์ เค้าฟื้นมาวันอังคาร พอวันพฤหัสหมอลองแกะผ้าปิดแผลออก ผลคือแผลมันแทบจะหายหมดแล้ว ทั้งหมอทั้งแม่ตกใจมาก เพราะแผลมันเหวอะหวะ ยังกลัวว่าจะเป็นแผลเป็นเลย ไม่น่าจะหายเร็วขนาดนี้ และเค้าก็ไม่เคยรู้สึกเจ็บแผลเลยสักนิดด้วยนี่สิ..
พอหลังจากนั้นมา ก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับเค้า อย่างเช่นได้ยินคนเรียกชื่อ มันแว่วมากับลมเลย แต่เค้าก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ.. พอเริ่มโตขึ้นเข้า ม.1 ต้องไปเข้าค่ายลูกเสือ เป็นค่ายทหารที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ก็จะมีเข้าฐาน มีฐานหนึ่งที่ต้องเอาผ้าพันคอมาปิดตา แล้วเดินเกาะไหล่กันเป็นแถวเข้าไปในป่าเวลากลางคืนเพื่อหาด่านให้เจอ แบ่งเป็นชุดละ 4 หมู่ หัวหน้าหมู่ที่ 1 จะมีทหารเดินนำ มีแค่นายหมู่เท่านั้นที่สามารถเปิดตา และถือเทียนนำทางได้คนเดียว ส่วนทุกคนในหมู่ต้องปิดตาหมด
โดยเค้าอยู่หมู่ที่ 4 เลยเดินรั้งท้ายหมู่อื่น อีกอย่าง เค้าเป็นรองนายหมู่เลยได้อยู่ด้านหลังสุดเลย.. ช่วงแรกก็เกาะกันไปตามปกติ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หัวแถวหยุดเพราะเดินมาเจอชุดอื่น เนื่องจากแต่ละด่านคงใช้เวลานาน พวกเราเลยต้องยืนรอ ทีนี้เพื่อนมันก็เริ่มแอบเอาผ้าปิดตาออก เค้าก็เลยเอาออกบ้าง ทีนี้หางตาข้างซ้ายเค้าเห็นอะไรบางอย่างเข้า เลยหันไปมองตรงๆ แล้วพยายามเพ่งดูอยู่อย่างนั้นว่ามันคืออะไรกันแน่? พอสายตาเริ่มชินกับความมืด ก็ชัดเลยว่าเป็นคนแน่ๆ เห็นเป็นรูปร่างผู้ชายมีตาจมูกปากชัดเจน ในใจคิดว่าคงเป็นทหารจะคอยมาแกล้งแน่ๆ เลยสะกิดเพื่อนแล้วบอกว่า ‘มึงๆ มีทหารอยู่ในพงหญ้าข้างซ้ายว่ะ เขาจะเห็นไหมวะ ว่าเราเอาผ้าปิดตาออก?’ ระหว่างที่พูดกัน เค้าก็ยังคงจ้องเงานั้นอยู่ตลอด เพื่อนมันก็หันไปมองตามแล้วตีหัวเค้าบอก ‘อีบ้า! ไม่เห็นมี กูตกใจหมด อย่ามาแกล้งกูแบบนี้อีกนะ!’ แล้วเค้าก็เลยหันไปมองอีกที แต่คราวนี้กลับไม่เห็นแล้วค่ะ แต่มารู้สึกตัวอีกที คือเงานั้นมายืนอยู่ด้านหลังเค้าแล้ว! ตอนนั้นนี่ขนลุกวาบไปหมด ไม่กล้าหันไปมองชัดๆ เห็นแต่ว่าเป็นขาคนที่ไม่ใส่รองเท้ายืนอยู่ด้านหลัง เท่านั้นล่ะ เค้าวิ่งไปแทรกข้างหน้านายหมู่ จนทำกิจกรรมเสร็จกลับเข้าที่พักเลย แต่เค้าก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเลยค่ะ.. และนี่ก็คือเรื่องแปลกๆ ที่เค้าเคยเจอมา
Story by คุณกิ่ง