เรื่องนี้ส่งมาจากคุณแตงโมครับ คุณแตงโมเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อประมาณ 6-7 ปีมาแล้วค่ะ ตอนนั้นมีการเปิดสอบข้าราชการภาค ก. มีศูนย์สอบกระจายกันหลายที่ เราก็เลือกเอาศูนย์สอบที่ใกล้บ้าน (บ้านเราอยู่จังหัวดเลยค่ะ) นั่นก็คือจังหวัดพิษณุโลก ตอนไปสมัครสอบก็ต้องไปค้างที่พิษณุโลก 1 คืน เพื่อทำเรื่องสมัครสอบตอนเช้า ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไร แล้วเราก็กลับบ้านมา.. พอถึงวันก่อนสอบ เราต้องเดินทางด้วยรถโดยสารเพื่อไปพิษณุโลก ก่อนไปแม่เรานึกยังไงก็ไม่รู้ บอกเราให้ไหว้รูปคุณยาย กับคุณปู่ ที่เสียไปหลายปีแล้ว ให้บอกท่านว่าจะไปสอบ ขอให้เดินทางปลอดภัย เราก็ไม่อยากให้แม่คิดมาก ก็เลยทำตามที่แม่บอก เราไหว้รูปคุณยาย กับคุณปู่ พร้อมกับบอกว่า ‘ยาย ปู่ หนูจะไปสอบที่พิษณุโลกนะ ดูแลคุ้มครองหน่อยเด้อ’ หลังจากนั้นแม่ก็มาส่งเราขึ้นรถ โดยรถออกประมาณ 1 ทุ่ม

พอเราไปถึงพิษณุโลก ก็ประมาณ 4 ทุ่มเกือบ 5 ทุ่ม และด้วยความประมาทของเรา คิดว่าคนไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ ทำให้เราไม่ได้จองที่พัก ที่พักที่เคยมาพักตอนสมัครสอบก็เต็มหมด ไม่รู้จะทำไง เลยเดินไปที่วินมอเตอร์ไซค์แถวท่ารถโดยสาร เจอพี่ผู้หญิงขับวิน เลยถามว่า ‘พี่คะ พรุ่งนี้เช้าหนูจะไปสอบแถวนี้ พี่พอจะรู้จักที่พักใกล้ๆ ไหมคะ? พาหนูไปหน่อย..’ แกตอบกลับมา ‘มีๆ เป็นโรงแรม แต่เก่าหน่อยนะ แถวสถานีรถไฟ เดี๋ยวพี่พาไป’ เราก็โอเคขึ้นรถซ้อนท้ายไปเลย พี่เค้าดีมาก พาไปดูสถานที่สอบ และบอกเส้นทางว่าจะมายังไง ขึ้นรถยังไง แล้วค่อยพามาส่งโรงแรม

เมื่อถึงโรงแรมสิ่งแรกที่เราเห็นคือ มันเก่ามาก เก่าจริงๆ ค่ะ เราก็เอาวะ ทำยังไงได้ พลาดเองที่ไม่จองมา คงต้องยอมนอนเพราะพรุ่งนี้จะสอบแต่เช้า ก็ไปติดต่อขอห้องพัก ปรากฏว่าว่างอยู่ 1 ห้อง แต่เค้าบอกว่า ไม่มีทีวีนะ เราก็โอเค ไม่เป็นไร พอจ่ายค่าห้องเสร็จ ทางโรงแรมก็พาเราเดินไปที่ห้อง ขึ้นบันไดไปชั้น 2 พอสุดบันไดขั้นสุดท้าย ประตูห้องเราตรงกับบันไดพอดี เค้าก็ไขกุญแจให้ พร้อมกับเปิดไฟ เมื่อเปิดไฟเห็นสภาพห้องคือเก่ามาก ฝ้าเป็นคราบเหลืองๆ สีห้องทึมๆ และที่สำคัญ หน้าต่างตรงกับประตูอีกต่างหาก ดีหน่อยที่มีผ้าม่านปิดไว้ ตอนนั้นในใจเราเริ่มหวั่นๆ พนักงานโรงแรมก็เดินกลับไปแล้ว เราเข้าห้องปิดประตูอยู่ห้องคนเดียว ดูนาฬิกา 5 ทุ่มกว่าๆ ความรู้สึกคือไม่อยากอยู่ในห้องเลย รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว เลยเดินออกไปแถวตลาดรถไฟ ไปหาอะไรกิน และโทรบอกแม่ กับแฟนว่าถึงที่พักแล้ว

จนกินอะไรเสร็จประมาณเที่ยงคืนได้ ก็สินใจกลับห้อง พอถึงห้อง มีความรู้สึกว่าต้องเจอดีแน่ๆ คืนนี้ ด้วยความกลัว เลยทำทุกอย่างที่คนบอกว่ากันผีได้ สวดมนต์ก่อนนอน เอากระเป๋ามาวางบนเตียงส่วนที่ว่าง คืนนั้นเราไม่ปิดไฟนอนนะคะ นอนเล่นไปมาบนเตียง แล้วไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆ มากระซิบที่ข้างหูว่า ‘ตื่น! ระวังตัวด้วยลูก เดี๋ยวจะมีผู้หญิงเดินทะลุประตูเข้ามา..’ สิ้นเสียงพูดไม่นาน เราก็ได้ยินเสียงประตูดัง ‘กึกๆ’ เรานอนตะแคงหันหน้าไปทางประตูพอดี เราเห็นผู้หญิงใส่เสื้อแขนกระบอก นุ่งผ้าซิ่น ผมยาวถึงสะโพก ลอยทะลุประตูเข้ามา ผ่านหน้าเราไปที่ปลายเตียง ก่อนจะหันมาหาเรา!! หลังจากนั้นเธอก็คลานขึ้นมาบนเตียง มานอนข้างๆ เรา ตอนนั้นเราหันตะแคงอยู่ เธอค่อยๆ เอื้อมมือมาพลิกเราจนเป็นท่านอนหงาย ตอนนั้นเราขยับตัวไม่ได้เลย ได้แต่พยายามสวดมนต์ในใจ แต่ก็สวดไม่ได้ หน้าของผู้หญิงคนนั้นค่อยๆ เข้ามาแนบอยู่กับหน้าเรา เธอสวยมาก แต่ไม่มีดวงตา! ดวงตาของเธอมันดำไปหมด เราไม่รู้จะทำยังไง พยายามที่จะสวดมนต์ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เรากัดปากตัวเองจนเลือดออก เพื่อที่พยายามจะสวดมนต์ แต่ไม่เป็นผล สวดยังไงก็สวดไม่ได้ แล้วเราก็ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดว่า ‘อย่าพยายามเลย มาอยู่ด้วยกันที่นี่เถอะ..’ เสียงนั้นเย็นยะเยือก ชวนขนลุกมากๆ ไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากนั้นเธอก็แสยะยิ้ม และหัวเราะออกมาเสียงดัง น่ากลัวมากๆๆๆๆ

ตอนนั้นเราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว สวดมนต์ก็ไม่ได้ พยายามดิ้นก็ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นยิ่งหายใจไม่ออก จนเราเริ่มหมดแรง เราเลยปล่อยละ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนั้นในสมองคิดว่า ‘เราจะต้องตายเหรอ? ไม่นะ..ยังตายไม่ได้’ เราเลยนึกถึงพ่อแม่ ระลึกถึงพระคุณของท่านทั้งสอง ขณะที่กำลังนึกถึงพ่อแม่ อยู่ดีๆ ก็มีแสงสว่างจ้าส่องมาจากทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดอยู่ และดึงผู้หญิงคนนั้นออกไปจากเรา.. ทีนี้เราเริ่มขยับตัวได้แล้ว เลยรีบลุกขึ้นนั่ง ตั้งสติ ว่าเราฝันไปเหรอ? แต่ไม่ใช่.. เรารู้สึกตัวตลอดนะ เรารีบลุกไปดูกระจก เรากัดปากตัวเองจนเลือดออก หยิบนาฬิกามาดู ตอนนั้น 6 โมงเช้าพอดี เราเลยโทรหาแม่ บอกแม่ว่าโดนผีอำ แม่บอกให้รีบแต่งตัวออกมาเลย พอวางสายจากแม่ เราก็โทรหาแฟน บอกห้ามวางสาย ให้คุยเป็นเพื่อนจนกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พอเราแต่งตัวเสร็จ นึกยังไงก็ไม่รู้ เราเดินไปเปิดผ้าม่านหน้าต่างดู พอมองลงไปข้างล่างเท่านั้นล่ะ สิ่งที่เห็นคือเป็นเหมือนศาลตายายเก่าๆ อยู่ตรงกับหน้าต่างเราพอดีเลย เรารีบเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมทันที แล้วไปนั่งเล่นตรงสถานที่สอบยังดีกว่า

พอกลับมาถึงบ้าน เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่บอกว่าเรา ‘อาจเพราะไปนอนตรงทางผีผ่านพอดี แล้วเสียงคนแก่ที่มาช่วย มาเตือน อาจจะเป็นเสียงคุณยายของเรานั่นเอง..’ หลังจากนั้นเราก็ไปทำบุญให้กับยาย ปู่ และผู้หญิงคนนั้นเรื่อยๆ ค่ะ

Story by คุณแตงโม

ความคิดเห็น