เรื่องนี้ส่งมาจากคุณเคนครับ คุณเคนเล่าว่า.. อยากลองมาเล่าประสบการณ์สยองของตัวเองให้ฟังบ้างครับ ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้วครับ เนื่องจากผมมักจะเห็นอะไรพวกนี้อยู่เสมอ แต่ผมก็ไม่ได้กลัวอะไรนะ เห็นก็เห็น ก็เฉยๆ อาจจะเรียกว่าชินก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่นะครับ เรื่องที่จะเล่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2561 นี่เอง คือผมได้มีโอกาสเข้าทำงานที่ใหม่แถวๆ ดินแดง แต่ผมจะต้องไปฝึกงานที่จังหวัดอุบลราชธานีก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งผมก็ยินดีครับ.. ไปถึงที่นั่น เข้าที่พักเมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่พักจะเป็นบ้านพนักงาน 2 ชั้น อยู่ด้านหลังคลังสินค้าของบริษัท ผมได้อยู่ชั้น 2 ห้อง 8 ซึ่งเป็นห้องในสุด ลึกสุด
เข้าไปวันแรกคืนแรก ผมก็เจอเลยครับ มองออกไปนอกหน้าต่างหน้าห้อง เห็นเป็นผู้หญิงผมยาว ขาว ใส่ชุดคลุมสีดำ หน้าตาสวย เธออยู่ที่ด้านนอกของระเบียงหน้าห้องผมครับ ด้วยความที่ผมก็ไม่ได้กลัวอะไร ผมก็ลองไปชะเง้อมองดู ปรากฏว่าตรงนั้นมันไม่มีอะไรให้ยืนเลยครับ ว่างเปล่า ผมเห็นเธอลอยอยู่แบบไม่มีขา แบบลอยเอาดื้อๆ เลย สูงจากพื้นราว 10 เมตรได้ พอผมเห็นแบบนั้นก็รีบหันกลับไป ทำทีไปเก็บข้าวของในห้องตามปกติครับ.. ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ใหญ่เตือนผมตลอดครับว่า ‘เข้าเบญจเพสทำไรก็ระวังๆ หน่อย เห็นอะไรก็ต้องไหว้..’ ซึ่งผมก็เชื่อนะครับ แต่ลืมทำ เพราะผมคิดว่าตัวผมเบญจเพสไปตั้งแต่อายุ 24 แล้ว เพราะช่วงนั้นโดนเยอะมากๆ ครับ รถล้มเกือบ 10 ครั้ง เป็นแผลเป็นตามตัวเยอะมาก ไหนจะตกงาน เงินไม่มี บ้านถูกตัดไฟ ต้องอยู่แบบไม่มีไฟฟ้าเป็นเดือน ซึ่งผมก็คิดเอาเองว่าผมคงผ่านเรื่องแย่ๆ ไปแล้วล่ะ แต่ยังครับ..
หลังจากวันที่ย้ายเข้าที่พักเสร็จ รุ่งขึ้นผมก็ไปทำงานตามปกติ ทำงานได้ 3-4 วัน ก็พอรู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานพอสมควร เลยนัดกันมานั่งเล่นที่ห้องผม เลิกงานกินข้าวเสร็จก็รวมตัวมา มีทั้งหมด 4 คนรวมผมด้วย ก็ดูหนัง นั่งคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนประมาณเกือบๆ เที่ยงคืน เพื่อนๆ กลับไปหมดแล้ว ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าตากผ้าเอาไว้ก็เลยเดินไปเอา ตอนเดินลงมาตรงที่พักบันได ผมก็ลื่นตกบันไดลงไปข้างล่าง ก้นกระแทก เด้งๆ ไปจนถึงข้างล่าง จากนั้นผมก็รู้สึกตัววูบๆ วาบๆ มันออกจะงงๆ ครับ รู้สึกปวดหลัง ปวดแขนข้างซ้ายมากจนขยับไม่ได้ พยายามตะโกนๆ ให้คนช่วยก็ไม่มีแรง เลยพยายามหยิบมือถือให้กระเป๋ากางเกงมาโทรหาญาติ เพื่อที่จะขอเบอร์หน่วยกู้ภัย พอได้มาก็ไม่รอช้ารีบโทรเลยครับ
จนเจ้าหน้าที่มาถึง ก็แบกผมขึ้นรถไปโรงพยาบาลใกล้ๆ พอถึงโรงพยาบาล ก็รีบเข้าแผนกฉุกเฉินเช็คอาการ ปรากฏว่ากระดูกแขนแตกหัก และทิ่มออกมาจนใช้งานไม่ได้ กระดูกก้นกบร้าว และรอยฟกช้ำต่างๆ เอ็กซเรย์อยู่ตั้ง 3 รอบ สุดท้ายก็เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เข้าเฝือกหลัง.. พี่ๆ เพื่อนๆ พนักงานก็มาเยี่ยม ถามว่าเกิดอะไรขึ้น? ไอ้เราก็เล่าตามที่จำได้ จน HR มาเยี่ยม ก็มามาไถ่ และบอกผมว่า ‘คุณไม่ได้ตกบันไดตามที่บอกนะ เพราะเช็คจากกล้องวงจรปิดของหอแล้ว..’ ผมก็งงสิครับ เขาถามผมว่าผมมีอาการโรคซึมเศร้าหรือเปล่า? ผมก็ปฏิเสธสิครับ จนเขาเล่าให้ฟังว่า ผมกระโดดจากระเบียงหน้าห้องลงมาเอง คือเดินออกมาจากห้อง ใส่รองเท้า และยืนมองรอบๆ ระเบียงครู่หนึ่ง แล้วหันกลับไปถอดรองเท้า ก่อนจะขึ้นไปยืนบนราวระเบียง แล้วกระโดดลงไป ซึ่งภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดคือ ผมกระโดดเหมือนกระโดดน้ำน่ะครับ เอาหัวพุ่งลง จนคนที่ดูภาพจากกล้องไม่มีคนเชื่อเลยว่าผมจะรอดได้ แต่ผมกลับบาดเจ็บหนักเพียงแขน และก้น.. พอผมได้เห็นภาพตัวเองเท่านั้นล่ะ ในหัวผมก็จำได้ทันทีเลยว่าผมเห็นผู้หญิงคนนั้นเรียกไป ก็เลยถึงบางอ้อ เพราะผมก็ไม่ได้ไหว้ ได้อะไรเลย
หลังจากผมออกจากโรงพยาบาล ผมก็รีบไปไหว้ ไปทำบุญต่างๆ นานา ส่วนบริษัทก็ย้ายห้องให้ไปอยู่ชั้นล่าง พอผมย้ายของเข้าห้องใหม่เสร็จ กำลังจะเดินออกไปกินข้าวข้างๆ คลังสินค้า อยู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดข้ึนมาว่า ‘มึงจะเอาอีกบ่?’ คือเป็นภาษาอีสานครับ ผมก็ได้แต่ตอบไปในใจว่า ‘พอแล้ว แค่นี้กูก็เจ็บจะแย่แล้ว..’ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอกับเธอคนนั้นอีกเลย ปัจจุบัน แขนผมก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ปกติเต็ม 100 เลยครับ แต่เดินได้แล้ว ต้องขอขอบคุณพี่ๆ หน่วยกู้ภัยคืนนั้นมากเลยครับ
Story by คุณเคน