เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณหาญ ใจสิงห์ครับ คุณหาญเล่าว่า.. เรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดมาจากน้องคนหนึ่งที่ชื่อว่า ต๋อง ครับ ต๋องเป็นคนจังหวัดนครพนม เพิ่งจะเข้ามาทำงาน พอได้รู้จักกันน้องเลยเล่าเรื่องราวสมัยที่ยังอยู่บ้านนอกให้ผมฟัง ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่ต๋องยังอยู่บ้านที่นครพนม ต๋องมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ ไผ่ เป็นคนหน้าตาดี ผู้บ่าวไทบ้านลูกเกษตรกรขนานแท้ เก่งทุกๆ อย่าง ทำไร่ทำนาได้หมด รับจ้างเกี่ยวข้าวด้วย จนวันหนึ่ง ไผ่ไปรับจ้างเกี่ยวข้าวที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน ภรรยาผู้ใหญ่บ้านชื่อว่า พัชรา ก็มาคอยส่งข้าวส่งน้ำให้ไผ่ จนทั้งคู่แอบคบหากัน พัชราไปซื้อโทรศัพท์มาให้ไผ่เพื่อไว้คุยกัน ทุกอย่างนั้นอยู่ในสายตาของต๋อง ที่คอยเตือนตลอดว่าอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเคยมีข่าวว่าพัชราไปเล่นกับผู้ชายแล้วผู้ใหญ่บ้านจับได้ ส่งคนมาทำร้ายจนเกือบตาย แต่แล้วเรื่องก็ไปถึงหูผู้ใหญ่บ้านจนได้..
ไผ่ถูกซ้อมปางตาย ส่วนพัชราถูกผู้ใหญ่บอกให้โทรไปบอกเลิกกับไผ่ ทำให้ไผ่เสียใจมาก คิดจะผูกคอตายเลยทีเดียว แต่ต๋องกับญาติๆ ไปช่วยไว้ได้ทัน แล้วไม่นาน พัชราก็กลับมาให้ความหวังไผ่ บอกว่าที่ทำไปเพราะสามีบังคับ ด้วยรักจริง ไผ่ก็ใจอ่อนยอมกลับไปคบกันอีกครั้ง แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ที่ว่าไผ่หายตัวไป ไม่มีใครเจอมาเป็นอาทิตย์ ต๋องก็เช่นกัน แต่ก็คิดว่ามันคงจะไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่างหมู่บ้านใกล้ๆ คืนหนึ่งต๋องออกไปวางเบ็ดริมคันนา แล้วไปนอนเล่นอยู่ที่เถียงนาน้อย กำลังยกเหล้าขาวแกล้มหมูปิ้งอย่างมีความสุข อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเดินมาที่เถียงใกล้เข้ามาๆ หันไปดูจึงได้เห็นว่าเป็นไผ่ที่สายตาเศร้าหมองเหมือนจะร้องไห้ ต๋องรีบวางแก้วแล้วเรียกไผ่มานั่งคุยกัน ไผ่เล่าให้ฟังว่าถูกผู้ใหญ่บ้านส่งคนมาทำร้าย ต้องหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าไผ่ได้เป็นอาทิตย์แล้ว ต๋องก็ตกใจถามว่าไผ่อยู่ได้ยังไง? ไผ่หันมาบอกอยู่ได้แล้วกัน.. ขณะคุยกันนั้น ต๋องก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ฉุนขึ้นมาจากตัวไผ่ ถามว่ามึงไปทำอะไรมาเหม็นจังวะ? ไผ่ชี้นิ้วไปที่กับแกล้มเหล้าของต๋อง บอกว่านี่ล่ะมั้ง คงจะปิ้งนานไป แล้วไผ่ก็บอกว่าใกล้จะเช้าแล้ว ต้องกลับเข้าไปในป่าไผ่ก่อน เดี๋ยวคนของผู้ใหญ่บ้านจะมาเจอ แล้วคืนพรุ่งนี้ให้ต๋องมาหาอีก เอากับข้าวมาให้ด้วย ต๋องก็รับคำแล้วเมาหลับไป..
ตื่นมาตอนสายๆ ต๋องก็เก็บเบ็ดที่ปักไว้ เดินผ่านบ้านไผ่คิดว่าจะบอกญาติมันดีไหม? แต่ตัดสินใจไม่บอก เพราะกลัวว่าไผ่จะเป็นอันตราย คืนนั้น ต๋องก็ไปที่เถียงนาอีก พร้อมกับข้าวที่ไผ่ชอบ ต๋องมองดูไผ่ที่กำลังกินข้าวอย่างหิวโหย พร้อมกับถามว่า มึงอยู่ตรงไหนในป่าไผ่วะ พาไปดูหน่อย เดี๋ยวตอนกลางวันได้จะมาหา ไผ่หยุดกินแล้วหันมามองหน้าต๋อง ถามว่าแน่ใจนะว่าจะไปดู? ทั้งสองคนเดินเข้าไปในป่าไผ่ลึกพอสมควร เวลาตี 2 ของคืนเดือนหงาย ทำให้มองเห็นอะไรๆ ค่อนข้างชัด ไผ่พาต๋องเดินมาหยุดตรงกองขี้เถ้ากองใหญ่ ต๋องถามว่าไหนเพิงอะไรไม่เห็นมี ไผ่หันกลับมาบอกว่า ‘กูอยู่ในกองฟืนนี่ล่ะเพื่อน คนของผู้ใหญ่บ้านอุ้มกูมาฆ่าแล้วเผากูตรงนี้..’ ไผ่พูดไปพร้อมกับที่ร่างกายค่อยๆ ดำไหม้เกรียม ตาเหลือกถลน จนต๋องต้องวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต มาสลบอยู่ที่ตรงคันนา
พอตื่นขึ้นมา ก็รีบไปบอกญาติๆ ของไผ่ให้ไปดู ปรากฏว่าเจอโครงกระดูกคนอยู่ในกองฟืนนั้นจริงๆ ที่ยืนยันได้เป็นไผ่ คือเหรียญพระที่ไผ่ใส่เป็นประจำซึ่งเจออยู่ในนั้น ต๋องได้แต่เสียใจ เพราะไผ่ก็เหมือนคนอ่อนไหว รักใครรักจริง แล้วเขามาหลอกอะไรกี่ครั้งก็เชื่อ เหมือนคนที่มีหัวใจไม้ลำปอ หวั่นไหวกับความรู้สึกจนต้องเสียใจซ้ำๆ พร้อมกับจุดจบอันน่าเวทนา ส่วนผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ถูกเอาผิดใดๆ เพราะไม่มีพยานรู้เห็น.. เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ครับ
Story by คุณหาญ ใจสิงห์