เรื่องนี้ส่งมาจากคุณต้น บางปะแก้วครับ คุณต้นเล่าว่า.. เรื่องของผมอาจจะไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่อยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ได้รับฟังกันครับ สมัยผมเรียนอยู่ชั้น ม.4 ก็ราวๆ 10 ปีที่แล้ว ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน ชื่อ ยีนส์ กับ อ๊อฟ วันหนึ่งหลังจากที่พวกผมแข่งกีฬาสีภายในโรงเรียนด้วยกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน จนถึงช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ผมก็ได้รับข่าวจากยีนส์ว่า อ๊อฟ ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์คว่ำ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผมก็เลยรีบขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับยีนส์ เพื่อที่จะพากันไปเยี่ยมอ๊อฟที่โรงพยาบาล

หลังจากที่เยี่ยมอ๊อฟแล้ว ผมก็ขี่รถไปส่งยีนส์ที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนได้แล้ว ต้องขอบอกก่อนว่า ทางไปบ้านยีนส์นั้นค่อนข้างเปลี่ยว เพราะเป็นทางบายพาสต่างจังหวัด ซึ่งพอไปถึงบ้านยีนส์ มันก็บอกผมว่า ดึกแล้วให้ผมค้างที่บ้านมันก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้ แต่ยังไงผมก็ต้องกลับอยู่ดี เพราะพ่อผมบังคับให้กลับบ้านทุกวัน ยีนส์มันเลยบอกกับผมว่า ‘มึงขับรถกลับบ้านดึกๆ คนเดียว ถ้ามีใครโบกให้จอด ก็ไม่ต้องไปจอดรับนะ ให้ขับเลยไปเลย..’ ในใจผมก็คิดว่ามันคงจะเป็นห่วงผมเรื่องโจร เพราะช่วงนั้นมีข่าวบ่อยๆ ผมก็เลยเออๆ รับปากมันไป

แล้วช่วงกลางทางที่ผมขี่รถกลับนั้น สายตาผมก็มองไปเห็นกลุ่มคนเป็นเงาดำๆ อยู่ข้างหน้าไกลๆ ประมาณ 10-20 คนได้ กำลังเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนขี่ไปถึง ณ จุดที่ผมเห็นกลุ่มคนเมื่อสักครู่ ด้วยความที่อยากรู้ ผมเลยมองตามไป ปรากฏว่าอีกฟากหนึ่งที่ผมเห็นกลุ่มเงาดำๆ ข้ามไปนั้น กลับเป็นป่ารกทึบ ไม่มีบ้าน หรืออะไรเลย.. แล้วกลุ่มคนเมื่อกี้เขาหายไปไหนกันล่ะ? ผมเริ่มใจคอไม่ดีละ รีบขี่รถโดยหักกระจกข้างหันออก เพราะไม่อยากจะมองกลับด้านหลัง แล้วรีบเร่งกลับบ้านอย่างไวที่สุด

พอตื่นเช้ามา ผมก็ต้องขี่รถไปรับยีนส์ที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนทุกเช้าอยู่แล้ว ก็ไปเส้นทางเดิมนั่นล่ะครับ และผมสังเกตเห็นตรงจุดที่ผมเห็นเงากลุ่มคนดำๆ เมื่อคืนนั้น มันมีศาลไม้เก่าๆ ตั้งไว้อยู่เยอะแยะไปหมด ซึ่งโดนป่าหญ้าบังไปส่วนหนึ่ง ผมเลยถามยีนส์ว่า ตกลงที่ผมเห็นเมื่อคืนมันคืออะไร? คำตอบที่ได้คือ ‘เขาตั้งศาลไว้ให้คนตาย เพราะตรงนั้นมันเป็นโค้งร้อยศพ ดึกๆ ใครผ่านมาก็เจอทั้งนั้นล่ะ..’

Story by ต้น บางปะแก้ว

ความคิดเห็น