เรื่องนี้ส่งมาจากคุณสองครับ คุณสองเล่าว่า.. เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของเราเองค่ะ ต้องเกริ่นก่อนว่าสมัยเราเด็กๆ ตั้งแต่จำความได้ เราจะชอบขลุกตัวอยู่ในห้องพระ อ่านหนังสือธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิคนเดียว ไม่ค่อยได้ไปเล่นกับเพื่อนสักเท่าไร ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ค่อยปกติสำหรับเด็กในวัยนั้น พอช่วง ม.ปลาย เราก็ห่างจากการทำแบบนี้ไปพักหนึ่ง
จนมาวันหนึ่งหลังเลิกเรียน เรารู้สึกง่วงนอนมาก กลับมาถึงก็นอนเลย แล้วเราก็ฝันว่าอยู่ในเหตุการณ์เหมือนมีการรบกัน เราพยายามจะหนี แต่เหมือนจะหนีไม่พ้น กำลังจะถูกจับตัว แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นทหารมาช่วยเราไว้ แปลกตรงที่เราเห็นทุกอย่างชัดมาก รูปร่าง ผิวพรรณ เสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้น แม้แต่การสัมผัสที่รู้สึกเหมือนจริง มีแค่หน้าของเขาที่มันมัวๆ พยายามมองแต่ก็มองไม่รู้เรื่อง เขาพาเราหนีจนมาถึงที่ปลอดภัย เขาหันมาบอกเราว่า ‘ทำไมถึงทิ้งการปฏิบัติธรรม?’ เราก็งงๆ แต่สุดท้ายในฝันเขาตาย เรารอด.. พอตื่นเราก็คิดว่าเป็นแค่ความฝันเพ้อเจ้อ ไม่ได้คิดอะไร เราก็ยังคงห่างจากการทำสมาธิเหมือนเดิม แต่หลังจากนั้นเราก็ฝันแบบเดิมๆ แค่เปลี่ยนสถานการณ์ แต่ทุกครั้งคือเราจะอยู่ในอันตราย ผู้ชายคนนี้ก็จะมาช่วยเราตลอด สุดท้ายเขาตาย เรารอด ที่สำคัญเราฝันเห็นเขาเป็นทหารทุกครั้ง จนเราเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ปกติละ เพราะเราฝันแบบนี้เป็นปี ถึงจะไม่ได้ฝันทุกวัน แต่ก็ถือว่าบ่อยมาก
จากนั้นเราก็ลองกลับมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำเรื่อยมา จนวันหนึ่งเราฝันอีกค่ะ แต่คราวนี้เราเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นชัดเจนเลย เราเริ่มรู้สึกรักผู้ชายคนนี้ และรักมากขึ้น จนวันที่พีคสุด ความฝันครั้งนั้นเราจำได้ไม่ลืม และยังคงรู้สึกได้จนถึงวันนี้ ในฝันเราไม่ได้หนีอะไร เรายืนอยู่ตรงท่าเรือ ผู้ชายคนนั้นแต่งชุดทหารเต็มยศ มีเรือรบลำใหญ่อยู่ เขามาบอกลา บอกว่าเขาต้องไปแล้วนะ ให้ดูแลตัวเองดีๆ เขาคงมาช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว แต่เราไม่ยอม พอเขาขึ้นเรือไปเราก็กระโดดตามขึ้นไปร้องไห้ฟูมฟาย จะไปกับเขาให้ได้ เขาน้ำตาไหลกอดเราแน่น แล้วบอกเราว่าเราไปไม่ได้ เขาไปแค่คนเดียว เราก็กอดเขาไม่ยอมปล่อย พอเรือจะออก เขาผลักเรากระเด็นขึ้นฝั่ง แล้วเรือก็ออกไป เขายืนโบกมือน้ำตาไหล เราร้องไห้เหมือนใจจะขาด จนสะดุ้งตื่นขึ้นมาน้ำตาไหลพราก มานั่งร้องไห้ต่อเหมือนเป็นเรื่องจริง.. เราร้องไห้แบบนั้นอยู่หลายวัน พยายามสวดมนต์ นั่งสมาธิเพื่อขอให้ฝันเห็นเขาอีก แต่ก็ไม่เคยฝันอีกเลย..
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนเราลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เรามีครอบครัว มีลูก จนกระทั่งเราเลิกกับสามี ช่วงเลิกใหม่ๆ เราค่อนข้างอาการแย่มาก เพื่อนเราเลยพาไปเปิดหูเปิดตา มันชวนไปวัดพระแก้วค่ะ พอออกจากวัด เรากับเพื่อนก็เดินจะไปหน้า ม.ธรรมศาสตร์กัน ตอนเราเดินผ่านท่าราชตรงสโมสรของทหารเรือ อยู่ๆ เราก็รู้สึกวูบๆ เหมือนมองไม่เห็นใครเลย แต่เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินสวนมา เขาใส่ชุดทหารเรือ เราสบตากับเขาแล้วรู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก เขายิ้มให้ เราตกหลุมรักทันทีที่เห็น เขาเดินผ่านเราไป แต่เราได้ยินเสียงเขาพูดว่า ‘บอกให้ดูแลตัวเองดีๆ’ เขาเดินเข้าไปทางสโมสร เรายังหันไปมองเขาจนลับตา รู้สึกตัวอีกที คือเพื่อนตีแขนถามว่าเราเป็นอะไร? เราเลยบอกว่าทหารคนเมื่อกี้เราคุ้นหน้ามากเลย เพื่อนบอก ‘ทหารที่ไหนวะ? กูเห็นมึงยืนนิ่งๆ แล้วน้ำตาไหล กูนึกว่ามึงเครียด แล้วก็ไม่มีทหารหรือใครเดินผ่านมาเลยนะ’ มันยังคิดว่าเราเครียดจนหลอน แต่เรามั่นใจว่าเราไม่ได้หลอนแน่ๆ ค่ะ
พอกลับมาถึงบ้าน เราถึงนึกขึ้นได้ว่าเขาคือผู้ชายที่เราเคยฝันถึงเมื่อตอน ม.ปลาย เราเลยพยายามอีกครั้งที่จะขอให้ฝันถึง แต่เราก็ไม่เคยได้ฝันหรือเห็นเขาอีกเลย..
‘อยากให้รู้ว่า..คุณยังอยู่ในใจเสมอ’
Story by คุณสอง