เรื่องนี้ส่งมาจากคุณยุ้ยครับ คุณยุ้ยเล่าว่า.. ตอน ม.3 เราเป็นเด็กกิจกรรมที่โรงเรียน ครูก็จะเรียกให้ทำกิจกรรมบ่อยๆ ค่ะ เรียกว่าแทบจะทุกงานต้องมีเรา ทั้งงานร้องเพลง งานวันครู อะไรแบบนี้ เช้าวันหนึ่ง ครูทักมาในไลน์กลุ่มว่า ทางโรงเรียนจะส่งชุดการแสดงละครธรรมะเข้าประกวดนะ และแน่นอนว่าเราคือหนึ่งในนั้น
พวกเราต้องซ้อมล่วงหน้าเป็นเดือน แต่เหตุสยองมันเกิดขึ้นในคืนก่อนวันที่จะไปแข่งค่ะ คืนนั้น นักแสดงต้องมาซ้อมใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายที่โรงเรียน แล้วก็นอนค้างที่โรงเรียนเลย เพื่อจะตื่นมาแต่งหน้า แต่งตัว ทำผมในตอนเช้าตรู่.. เราซ้อมกันเสร็จรอบสุดท้ายก็ 4 ทุ่มกว่าแล้ว ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เตรียมจะเข้านอน เพื่อนคนหนึ่งก็ดันคิดอะไรขึ้นมาไม่รู้ ปากพล่อยพูดออกมาว่า ‘แม่ง บรรยากาศตอนดึกๆ ที่โรงเรียนนี่ทั้งมืด ทั้งเงียบเลยเนอะ หลอนดีชิบหาย ไม่ใช่ว่าจะมีใครมานอนด้วยนะ แต่ก็มาเถอะ อยู่กันเยอะไม่กลัวหรอก อยากเจอว่ะ!’ พูดไปมันก็ขำไปแบบไม่คิดอะไร ..แต่คนอื่นๆ นี่สิ แทบไม่กล้าจะลุกไปฉี่เลยค่ะ นอนต่างที่อยู่แล้ว ยังจะต้องมาหลอนกับคำพูดของมันอีก มันน่าไหมล่ะ?
ประมาณตี 2 ไอ้เพื่อนคนที่พูดนั่นล่ะ มันเกิดปวดฉี่ขึ้นมา มันก็เรียกทุกคน แต่ไม่มีใครกล้าไปกับมันสักคน จนมันทนไม่ไหวต้องลุกออกไปคนเดียว.. ไม่กี่อึดใจ มันวิ่งผลักประตูโวกเวกโวยวายน้ำตาไหล พร้อมกับเปิดไฟทั่วห้องประชุมตะโกนว่า ‘ช่วยด้วยๆ ครูช่วยหนูด้วย!!!!’ มันร้องไห้แบบจริงจังมาก พูดแต่คำว่า ‘ขอโทษๆ ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว..’ ครูก็ปลอบมันจนมันดีขึ้น
พอตอนเช้ามันมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนตอนมันเดินไปเข้าห้องน้ำ จะต้องผ่านห้องพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียน จะมีหุ่นเก่าๆ ใส่ชุดไทย รูปภาพศิษย์เก่า อาจารย์เก่า ที่เป็นรูปภาพขาวดำเต็มไปหมด ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนแอบมองผ่านกระจกด้านในห้องนั้น แต่ด้วยความที่ปวดฉี่มาก เลยไม่ได้สนใจอะไร รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่ทำธุระอยู่ ก็มีใครไม่รู้มาเคาะประตูห้องน้ำ ‘ปั้ง! ปั้ง!’ เสียงดังมากกก แล้วก็มีเสียงหัวเราะคิกคักตาม มันเลยตะโกนไปว่า ‘ไม่ต้องมาแกล้งกูเลย แป๊บนึง กูใส่กางเกงแล้ว..’ แล้วเสียงเคาะก็ดังอีก แต่คือแบบดังกว่าเดิมมากกกกก เหมือนแบบโมโห และเคาะหลายครั้งรัวๆ ‘ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!’ แต่คราวนี้ไม่มีเสียงหัวเราะ มันก็รีบเปิดประตูออกมาทันที แต่สิ่งที่เห็นคือว่างเปล่า..
มันคิดในใจว่าต้องมีใครแกล้งแน่ๆ มันเดินอย่างไวกะจะรีบขึ้นมาด่าพวกเรา แต่มันก็ต้องสะดุดกับเสียงบางอย่างที่ดังไล่หลังมา พอหันหลังไปเท่านั้นล่ะ สติแทบหลุด เห็นเป็นเด็ก 3-4 คน สภาพคือเลือดเต็มตัว แผลเหวอะหวะไปหมด วิ่งเข้ามาจับแขนมัน จ้องหน้ามันแล้วพูดว่า ‘พี่อยากเจอหนูเหรอ?’ แล้วก็หัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน มันบอกว่าเป็นอารมณ์ที่จะร้องก็ร้องไม่ออก จะวิ่งก็วิ่งไม่ไป มันรวบรวมสติหันกลับ กำลังจะก้าวขาวิ่ง แต่มันก็ต้องชะงักอีกครั้ง มันเห็นหุ่นในห้องพิพิธภัณฑ์ เอาหน้ามาแนบกระจกแล้วแสยะยิ้มให้ เป็นภาพที่สยองมาก ทุกคนที่ฟังมันเล่าต่างขนลุกชันไปตามๆ กัน มันดึงสติรวบรวมความกล้าวิ่งรวดเดียวจนมาถึงห้องประชุมที่นอนนั่นล่ะค่ะ แถมยังบอกอีกว่า ตอนวิ่งยังได้ยินเสียงวิ่งไล่หลังมาตลอด แต่มันไม่กล้าหันไปดูแล้ว.. ครูรับรู้เรื่อง เลยให้จุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทางของโรงเรียน แล้วหลังจากนั้นมันก็ไม่เคยเห็นหรือเจออะไรที่โรงเรียนอีกเลยค่ะ
Story by คุณยุ้ย