เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณเลิฟครับ คุณเลิฟเล่าว่า.. ในชีวิตผม ได้เห็นคนถูกผีเข้า 3 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกก็ป้าลิ้มหาหน่อไม้จากเรื่อง ‘หน่อไม้ผีตายโหง’ ที่เคยเล่าให้ฟังคราวที่แล้ว ครั้งที่ 2 นี้เกิดขึ้นหลังบ้านผมเลยครับ บ้านที่นครสวรรค์ เรื่องราวจะเป็นยังไง ผมจะเล่าให้ฟัง..
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ป้าลิ้ม 10 กว่าปีได้ จนป้าลิ้มแกย้ายออกจากชุมชนไปแล้ว ผมเองก็โตขึ้นจนรู้อะไรเป็นอะไรแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า หลังบ้านผมเนี่ย มันเป็นซอยเล็กๆ ข้างในซอยจะเป็นบ้านไม้เก่าแก่ อยู่มานาน ก่อนที่พ่อแม่ผมจะมาสร้างบ้านอีก บ้านนี้เป็นของตระกูลทหารตำรวจ สืบทอดกันมาหลายรุ่น จนมารุ่นของ จ่าท้วม ชื่อจริงแกชื่ออะไรไม่ทราบ แต่คนแถวบ้านจะเรียกแกว่าจ่าท้วม เพราะตัวแกอ้วนกลมเหมือนมะขามข้อเดียว แกเป็นอดีตทหารเก่า แก่เกษียนก่อนกำหนด ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่าท้วมแกมีนิสัยแปลก ชอบเที่ยวป่า ล่าสัตว์ สมัยนั้นกฏหมายยังไม่เข้มงวด จ่าท้วมมักจะหายจากบ้านไปหลายวัน แล้วจะกลับมาพร้อมสัตว์แปลกๆ แกเอามาเลี้ยงบ้าง กินบ้าง ที่เห็นๆ ในบ้านแกมีกรงชะนี ลิงแปลกๆ นกยูง เก้ง ชะมด เยอะแยะมากมาย เหมือนบ้านแกเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อมๆ หลานชายจ่าท้วมแกเป็นเพื่อนกับผม วันดีคืนดีก็จะพาผมแอบเข้าไปในบ้าน ไปดูสัตว์แปลกๆ ที่จ่าท้วม (ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่) ชอบสะสม บนบ้านก็จะมีพวกปืนล่าสัตว์ เขากวาง กะโหลกสัตว์ แขวนเรียงรายกันเต็มไปหมด ดูแล้วน่าขนลุก
มีอยู่ช่วงหนึ่ง จ่าท้วมแกไปล่าสัตว์ บังเอิญทำอีท่าไหนไม่รู้ เพื่อนในกลุ่มเดียวกับแกดันยิงขาจ่าท้วมเข้าให้ โดยเค้าบอกว่าเห็นจ่าท้วมเป็นเก้ง เลยยิง.. อันนี้จริงเท็จประการใดไม่ขอออกความเห็น หลังจากวันนั้น จ่าท้วมก็กลายเป็นคนขาเป๋ เดินเหินไม่ปกติ แกเลยเลิกเข้าป่า แต่ตั้งแต่แกกลายเป็นคนขาเป๋ ดูเหมือนแกจะมีจิตใจที่โหดร้ายขึ้น แกเริ่มเอาไก่ชนมาเลี้ยง เลี้ยงไม่เลี้ยงเปล่า แกเล่นตีไก่ด้วย โดยเปิดบ้านแกนั่นแหละเป็นสนามตีไก่ชน มีคนคอเดียวกับแกแวะเวียนเอาไก่มาตีทุกวัน กิจการของจ่าท้วมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนแกต้องไปขอทหารเกณฑ์คนหนึ่งมาช่วยทำงานบ้าน คอยซื้อข้าวปลาอาหารส่งให้พวกเซียนพนันไก่ทั้งหลาย ว่ากันว่า เวลาไก่จ่าท้วมแพ้ แกจะไม่เอาไว้ แกจะจับมันหักคอตรงนั้นเลย แล้วให้เมียแกเอาไปแกงกิน แจกจ่ายคนแถวบ้านอย่างเอร็ดอร่อย แต่ผมไม่กล้ากินด้วยหรอกครับ สงสารไก่มัน.. แกทำแบบนี้อยู่เป็นปีๆ จนเรื่องถึงตำรวจ ตำรวจก็เข้ามาเตือนๆ แกอยู่บ่อยๆ จนสุดท้ายแกทนไม่ไหว เลยเลิกกิจการบ่อนไก่ชนไป แต่แกก็ยังเลี้ยงไก่ต่อไป ว่างๆ ก็เอาพวกมันมาตีกันเองแก้เครียด
จนมาช่วงหลังๆ แกเริ่มป่วยหนัก ไปไหนไม่ได้ ทีนี้อารมณ์แกยิ่งแปรปรวนหนักขึ้น วันดีคืนดีก็เอาปืนยิงขึ้นฟ้า แต่ไม่มีใครกล้าไปว่าแกเพราะว่ากลัว.. มีอยู่วันหนึ่ง ทหารเกณฑ์ที่ชื่อ พี่โจ้ แกลืมปิดประตูรั้วบ้าน เก้งที่เลี้ยงไว้หนีออกไปถนน กว่าจะตามจับกลับมาได้เล่นเอาเหนื่อย พอจับมาได้ จ่าท้วมก็ใช้ไม้หน้าสามอันใหญ่ ทุบหัวเก้งตัวนั้นจนมันลงไปดิ้นพลัดๆๆ แกตีซ้ำไปอีก 3 ที เก้งก็นิ่งไป ยังไม่หนำใจแก แกเอาไม้นั่นฟาดไปที่พี่โจ้ด้วย แล้วแหกปากด่าต่างๆ นานาด้วยความโมโห แกยังพาลไม่เลิก เดินขึ้นบ้านไปหยิบเอาปืนลงมา ไล่ยิงสัตว์ป่าที่เลี้ยงไว้ในบ้านตายหมดภายในวันเดียว ผมนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงปืนหลายนัด ‘ตูมๆๆๆ’ ลูกโม่ แมคนั่ม แผดเสียงไม่หยุด ชาวบ้านไม่มีใครกล้าพูดอะไร ผมได้แต่คิดในใจ สักวันจ่าท้วมจะได้รับผลกรรมแน่นอน
ไม่ถึงปี อาการจ่าท้วมเริ่มหนัก หมอหมดทางรักษา บอกให้แกมานอนอยู่บ้านเพื่อให้ครอบครัวดูใจ ผมจำได้ว่า วันนั้นช่วงหัวค่ำ ผมล้างจานอยู่หลังบ้าน ก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากบ้านจ่าท้วม เป็นเสียงเหมือนสัตว์ร้อง บางทีก็เป็นเสียงชะนี ‘ผัวๆๆๆๆ’ บางทีก็เสียงลิง เสียงไก่ขัน พวกลูกๆ หลานๆ แกวิ่งเข้าออกบ้านกันวุ่น ด้วยความอยากรู้ ผมก็เดินออกไปมองดูที่นอกรั้วบ้านแก ข้างในบ้านเห็นเมียแกกำลังนั่งข้างๆ จ่าท้วมนอนบนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน เมียแกพยายามจับกดตัวจ่าท้วมไว้ ด้วยความอยากรู้อีก ผมก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปดู ถือวิสาสะเปิดประตูรั้วเดินเข้าไป เห็นเพื่อนผมยืนตัวแข็งอยู่ เลยเข้าไปถาม ‘ปู่เป็นอะไร?’ เพื่อนบอก ไม่รู้สิ อยู่ดีๆ ปู่ก็ชัก แล้วก็ร้องเสียงแปลกๆ
จ่าท้วมยังไม่เลิกร้องเป็นเสียงสัตว์ ยังคงแหกปากร้องต่อไปไม่หยุด แถมแกยังเอามือสองข้างของแกทำเป็นมะเหง็ก แล้วเอามาชนกันดัง ‘โป๊กๆๆ’ จนมือแตกเลือดไหลออกมา ทั้งเมียทั้งลูกแกพยายามดึงมือแกออก ไม่ให้ทำ แกก็แหกปากด่า ‘ปล่อยกู ปล่อยกู กูจะตีไก่!!’ แกพูดแบบนี้ไม่หยุด จนแม่ผมรู้ว่าผมมาแอบดู เลยรีบเรียกให้ออกมาจากบ้านจ่าท้วม ขณะที่ผมกำลังเดินกลับบ้านกับแม่ อยู่ดีๆ มันก็มีลมแรง เป็นลมหมุนเหมือนพายุหมุนลูกย่อมๆ พัดอยู่ที่หน้ารั้วบ้านจ่าท้วม แล้วตอนนั้นเอง เสียงจ่าท้วมก็ตะโกนออกมา ‘กูไม่ไป กูไม่ไป!!’ แกพูดอยู่อย่างนี้ตลอด สร้างความเวทนาแก่ชาวบ้านแถวนั้นที่เปิดบ้านออกมาดู
รุ่งเช้า ก็ได้ข่าวว่าจ่าท้วมตายแล้ว ตายเมื่อคืนนี้เอง หลังจากงานศพจ่าท้วมผ่านไป เหตุการณ์แปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น เมียแกเองมาเล่าให้แม่ผมฟังว่า เดินขึ้นบ้าน เห็นจ่าท้วมยืนจังก้าท้าวสะเอวอยู่บนหัวบันได เหลนจ่าท้วม เด็กน้อยตัวเล็กๆ เพิ่งหัดพูด ก็มักพูดว่า ‘ทวด.. ทวดนอนบนเตียง เลือดไหลเต็มเลย’ จนคนในบ้านต้องบอกห้ามพูด เหตุการณ์ที่คนในบ้านเห็นผีจ่าท้วมร่ำลือกันปากต่อปาก ชาวบ้านเค้าว่ากันว่า จ่าแกคงเป็นผีหวงบ้าน เพราะสมัยมีชีวิต แกก็เป็นคนใจร้ายหวงข้าวของอยู่แล้ว พอตายไปก็คงไม่อยากไปไหนหรอก..
จนวันหนึ่ง พี่โจ้ ทหารรับใช้แกโดนผีเข้า และผีตนนั้นก็คือจ่าท้วมเอง ไอ้ผมก็ดันเสือกแอบไปดูด้วย ตอนพี่โจ้โดนเข้า ตอนนั้นพี่โจ้ตาขวางแบบชัดเจนเลย คำพูดคำจาเหมือนจ่าท้วมไม่มีผิด ผีในร่างพี่โจ้เรียกเมียแกมา แล้วพูดสั่งประมาณว่า ‘กูจะไปแล้ว เค้าจะมาพากูไปแล้ว มึงห้ามขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด ของกูทุกชิ้นห้ามขาย ห้ามเอาไปไว้ที่วัด ให้มันอยู่เหมือนเดิมทุกชิ้น ไม่อย่างนั้น กูจะมาฆ่าให้หมด!’ พูดแค่นี้ก็มีลมหมุน แบบเดียวกับตอนที่จ่าท้วมใกล้ตายเลย ลมพัดหมุนวนอยู่หน้ารั้วบ้านอีกแล้ว จากนั้นพี่โจ้ก็ฟุบลงไป แล้วลมหมุนก็ค่อยๆ สลายไป.. ผมสาบานได้เลยว่า เหตุการณ์นี้มีคนเห็นกันหลายคน หลังจากวันนั้น พี่โจ้ก็ขอลากลับกรม ไม่อยู่ที่บ้านจ่าท้วมอีกแล้ว
ต่อมาไม่นาน เมื่อขาดเสาหลัก ครอบครัวจ่าท้วมก็เริ่มไม่มีเงิน เมียแกก็ค่อยๆ ทยอยขายสมบัติผัวแกทีละชิ้นสองชิ้น จนในที่สุดก็ต้องขายบ้าน แล้วย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ลูกหลานแกก็กระจัดกระจายไปคนละทาง.. แต่เชื่อไหมครับ? เหมือนคำขู่อาฆาตของจ่าท้วมจะเป็นจริง ผมได้รับข่าวว่าลูกหลานจ่าท้วมแกมีอันเป็นไปทีละคนสองคน ด้วยอุบัติเหตุบ้าง โดนฆ่าบ้าง เจ็บป่วยด้วยโรคประหลาดๆ บ้าง แม้กระทั่งเมียแกก็ไม่เว้น ตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจ่าท้วมเลยต้องสิ้นสุดลงแค่นั้น เหมือนพวกสัตว์ป่าที่แกยิงตายหมดภายในวันเดียว
แต่.. เหตุการณ์ยังจบแค่นั้นครับ บ้านหลังนั้นมีคนมาซื้อต่อไป เจ้าของใหม่ก็รื้อบ้านไม้จ่าท้วมทิ้ง สร้างเป็นบ้านปูนสวยเชียว แต่เชื่อไหมครับ ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนั้นได้ ผีจ่าท้วมยังคงหวงที่ ตามหลอกหลอนเจ้าของใหม่ไม่สิ้นสุด บ้านหลังนี้ถูกเปลี่ยนเจ้าของมาถึง 3 คน ถ้าไม่โดนผีหลอก ก็ต้องมีเหตุให้บ้านร้อน ใครไปอยู่ก็ต้องทะเลาะกันอยู่กันไม่ได้ อย่างล่าสุดเมื่อ 5 ปีก่อนนี่เอง สองผัวเมียจากไหนไม่รู้มาซื้อ อยู่ยังไม่ถึงปี ทะเลาะกันทุกวัน จนอยู่กันไม่ได้ ต้องปิดบ้านไว้อย่างนั้น แล้วกลับไปอยู่บ้านเก่าบ้านพ่อแม่เค้า.. ทุกวันนี้ อดีตบ้านจ่าท้วมกลายเป็นบ้านร้าง ไม่มีใครกล้าไปอยู่ เคยประกาศขายก็ไม่มีใครซื้อ เพราะคนแถวนี้รู้ประวัติดี จนเวลาผ่านไป ต้นไม้ในบ้านรกครึ้ม กลายเป็นบ้านผีโดยปริยาย วันดีคืนดีก็จะมีลมหมุนประหลาด พัดเข้าออกบ้านหลังนี้ ชาวบ้านเค้าว่ากันว่า จ่าท้วมคงกลับมาดูบ้าน เอากะเค้าสิ ตายแล้วยังจะหวงของ เฮ้อ.. ผีอะไรไม่รู้จักปลง
Story by คุณเลิฟ