เรื่องนี้ส่งมาจากคุณพี (นามสมมติ) ครับ คุณพีเล่าว่า.. เราเป็นคนเห็นผีมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง อย่างมีครั้งหนึ่งที่เราจำความได้แล้ว กลางวันแสกๆ เรานอนกับพ่อ คือพ่อหลับแล้ว แต่เรายังไม่หลับ แล้วพ่อก็ไม่ได้ปิดประตูห้อง คือแง้มๆ เอาไว้ เรามองผ่านประตูออกไปเห็นยายแก่ๆ นั่งบนทีวี คือแบบนั่งอยู่บนทีวีเลยนะ ทีวีตั้งอยู่บนโต๊ะแล้วยายก็นั่งบนทีวีน่ะค่ะ นั่งหมุนไปหมุนมา พอแกเห็นเรามอง แกก็หันมายิ้มให้ ลักษณะคือใส่ผ้าถุงกับเสื้อแม่ไก่สีส้ม ไม่ได้น่ากลัวอะไร ยิ้มแบบคนแก่ๆ ไม่มีฟัน แบบเอ็นดูน่ะค่ะ เราเลยชี้ไปและถามพ่อว่า ‘พ่อ..ยายคนนั้นเข้ามาในบ้านเราได้ยังไง?’ พ่อก็งัวเงียบอกเราว่าไม่มีใครสักหน่อย แล้วพ่อก็ลุกไปปิดประตูห้อง.. อีกอย่าง เราเป็นคนมีเซ้นส์แบบเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าค่ะ เคยช่วยชีวิตเพื่อน และชีวิตตัวเองมาแล้ว อย่างเช่น เราเห็นภาพเพื่อนคนหนึ่งจะขับรถไป แล้วมีรถมาชนตาย ตรงสถานที่ตรงไหนๆ เราก็โทรบอกเพื่อน แต่ตอนนั้นมันไม่เชื่อ เราบอกให้มันเปลี่ยนให้แฟนมันขับแทน แล้วให้ใช้เส้นทางอื่น ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงหลังวางสาย มันโทรมาว่า จริงด้วย! มีคนประสบอุบัติเหตุ รถคันนั้นขับแซงไปก่อนที่มันจะตัดสินใจเลี้ยวเข้าปั๊ม คือเห็นคาตาพอดี มันบอกดีนะที่บอกมันก่อน ถึงจะไม่ค่อยเชื่อ แต่มันก็จะเลี้ยวเข้าปั๊มเพื่อเปลี่ยนให้แฟนขับ.. แล้วก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกหลายๆ ครั้ง ทั้งที่เกี่ยวกับตัวเรา และเพื่อนๆ แต่ที่ว่ามานี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่านะคะ แค่เกริ่นๆ
เรื่องแรกที่จะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเก่าของพ่อที่กรุงเทพฯ หลายๆ คนคงเคยได้ยินอาถรรพ์เกี่ยวกับเลขที่บ้าน ใครเชื่อไม่เชื่อไม่รู้ แต่บ้านเราเชื่อทุกคนค่ะ พ่อเราไปซื้อบ้านที่โครงการหนึ่ง เหลือแค่หลังสุดท้าย เลขที่บ้านรวมกันแล้วได้เลข 8 ซึ่งตามตำรา บ้านเลข 8 เป็นบ้านที่มีเจ้าที่แรง เขาจะคอยปกปักษ์รักษาบ้าน และคนในบ้าน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็อาจจะมาหลอกเราด้วย ลักษณะของบ้านจะคล้ายๆ โฮมออฟฟิศ มี 5 ชั้น 3 ห้องนอน ตอนนั้นเรายังเด็ก ประมาณ ป.2 เรากับน้องชายเลือกนอนห้องชั้นบนสุดคนละเตียง พ่อกับแม่ก็จัดโซนให้แยกกัน แต่อยู่ในห้องเดียวกัน ชั้นล่างพ่อทำเป็นออฟฟิศทำงาน เดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องกินข้าว ต่อด้วยห้องครัว ชั้น 2 เป็นห้องนั่งเล่น มีมินิเทียเตอร์ และเป็นคลังเก็บแผ่นหนัง กับหนังสือการ์ตูนของพ่อค่ะ.. คืนแรกที่ขึ้นบ้านใหม่ เราฝันเห็นเด็กผู้ชายมาชวนเราให้ลงไปเล่นข้างล่าง คือดึงแขนเรา เราไม่ไปก็ยังดึงๆ จนเราร้องสะดุ้งตกใจตื่น พอตื่นมา เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หลังพัดลม เรากลัวมากเลยร้อง ‘กรี๊ดดดด!!!’ พ่อกับแม่ก็ขึ้นมาดู เราก็เล่าให้ฟังว่าฝันอะไรเห็นอะไร พอรุ่งเช้าเลยต้องทำบุญบ้านกันเลย ทำบุญกับเจ้าที่ของหมู่บ้านด้วย แต่ตลอดเวลาที่อยู่บ้านนี้ พ่อกับแม่มักจะได้ยินเสียงคนเดินไปมาในบ้านบ้าง เสียงเคาะประตูบ้าง
จนเวลาผ่านไป พ่อกับแม่เราหย่ากัน เราย้ายออกไปอยู่กับแม่ที่ภาคใต้ พอช่วงโรงเรียนปิดเทอมก็จะกลับไปหาพ่อ ตอนนั้นเราอยู่ ม.1 แล้ว คืนนั้น เรากับน้องชายไม่มีไรทำ เลยว่าจะเปิดหนังดูสักเรื่อง เลยชวนน้องไปชั้น 2 หาหนังดูกัน น้องเป็นคนไปรื้อแผ่นหนัง แล้วคอยถามเราว่าจะดูเรื่องนี้ไหมๆ ตอนนั้นเรายืนอยู่ที่หน้าบันได สายตาตรงกับผ้าม่านพอดี ผ้าม่านมันแง้มๆ อยู่แบบปิดไม่สนิท เรามองไปแรกๆ ไม่มีอะไร แต่มันเหมือนมีไรดลใจให้เรามองไปอีกครั้ง คราวนี้เห็นเป็นหน้าผู้หญิงแก่อยู่หลังม่านค่ะ!! ในช่องที่ปิดไม่สนิท เห็นแค่ครึ่งหน้า คือขาวไปหมดทุกอย่าง หน้าขาว ผมขาว ตาก็ขาว! เขามองจ้องเราแล้วยิ้มให้เรา เราตอนนั้นคือยืนแข็งทื่อ เกร็งไปหมด เลยหลับตานับ 1-10 ในใจแล้วลองลืมตาดูอีกที คิดว่าจะหายไปเหมือนในหนัง แค่ไม่ค่ะ! เขาเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ หน้าใกล้มาก มากจนสุดท้ายคือปลายจมูกแทบชนกัน ถึงตรงนี้เราร้อง ‘กรี๊ดดดดดดดด’ ลั่น แล้ววิ่งขึ้นไปห้องพ่อ ไปขอพระพ่อ พ่อก็เลยให้เรามาคล้องคอไว้องค์นึง พ่อก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะรู้ๆ กันอยู่.. จนตอนเช้าเราเล่าให้พ่อฟัง พ่อบอก ‘เขาแค่มาหยอก..’ เรานี่แบบ หยอกแบบนี้หัวใจวายตายได้เลยนะ!
เรื่องที่สอง ตอนนั้นเรา ม.5 อายุ 17 ปี คือตั้งแต่พ่อแม่หย่ากัน เราก็ย้ายไปอยู่ภาคใต้เป็นหลัก แล้วเด็กใต้จะขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำใบกระท่อม สมัยนั้นเรามีแฟน แล้วเราไม่กินไม่ชอบ แต่ก็ตามแฟนกับเพื่อนๆ เค้าไปด้วย วันนั้นไม่มีที่กินกัน พวกนี้เลยไปกินกันในป่า เราก็ไปด้วย มันมีทางน้ำไหลเป็นแอ่งอยู่ต่ำลงไปกว่าพื้น เพื่อนในกลุ่มคนนึงเสนอให้ลงไปนั่งกินกันตรงนั้น จะได้ไม่มีใครเห็น ทุกคนก็โอเค.. เริ่มทำภารกิจก่อไฟ เวลาตอนนั้นราว 2 ทุ่ม มืดมาก ไม่มีแสงอะไรเลย นอกจากไฟที่ก่อกับแสงแฟลชมือถือของเราเครื่องเดียว เราแขวนกระเป๋ากับเสื้อแจ็คเก็ตของแต่ละคนไว้บนกิ่งไม้ที่มันเอนลงมา เราซึ่งไม่กินก็นั่งเล่นเฟสรอให้พวกแฟนกินกัน.. เวลาล่วงเลยไปจนถึง 3 ทุ่มกว่า อยู่ๆ พวกเสื้อกับกระเป๋าที่แขวนไว้ก็หล่นลงมา หล่นทั้งๆ ที่ไม่มีลม กิ่งไม้ก็ไม่ได้หัก ความรู้สึกของเราบอกเลยว่าใช่แน่ๆ เราไม่กล้าหันไปมอง นั่งกอดเข่าก้มหน้า จนแฟนเราเรียก เราก็เลยต้องเงยหน้าไปมองแฟน แต่สายตาเรามองผ่านไหล่แฟนไปเห็นหลังพุ่มไม้ ระยะสายตาองศาเดียวกับที่แฟนยืนอยู่ แต่อยู่ถัดไปด้านหลังประมาณ 3 ก้าว มีผู้หญิงชุดดำหน้าซีด ตัวเปียกซก ยืนมองเราอยู่!! เรานี่แบบช็อคไปเลย เพื่อนแฟนมาสะกิดเรา แล้วถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? เราก็บอกว่าไม่ได้เป็น เค้าว่าเห็นอยู่ๆ เราก็นิ่งไป เราเลยบอกทุกคนว่าเราจะกลับแล้ว ใครไม่กลับก็ตามใจ แล้วเราก็ลุกเดินไป จนแฟนเราต้องตามออกมา
แฟนเราสตาร์ทมอเตอร์ไซค์แล้วพาเราซ้อนกลับก่อน ขี่มาเรื่อยๆ ตอนนั้นเรารู้สึกเพลียมาก เลยเอาคางวางบนไหล่ซ้ายแฟน แล้วสายตาก็ดันเหลือบไปมองกระจกข้าง เท่านั้นล่ะค่ะ เห็นเต็มๆ ตา! ผีผู้หญิงตนนั้นตามเรามาด้วย นั่งซ้อนท้ายมา! ผมคือเปียกแบบเหมือนเวลาที่เราสระผมแล้วยังไม่เช็ด น้ำนี่หยดตรงไหล่เรา เราตัวแข็งทื่อไปหมด พยายามเขยิบเข้าหาแฟน ผีตนนั้นก็ยิ่งเบียดเข้ามาใกล้ จนเราไม่ไหวแล้ว แต่แปลกที่ความรู้สึกมันทั้งเศร้า ทั้งหดหู่ ทั้งกลัว จนเราก้มหน้าแล้วร้องไห้ แฟนก็ตกใจถามว่าเป็นอะไร มีอะไร? เรารับรู้ทุกอย่าง แต่มันพูดไม่ออก ได้แต่ร้อง จนสุดท้ายแฟนพาเราไปบ้านของรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่แม่เขาเป็นประมาณแบบร่างทรง พอเข้าบ้านเขา ก็โล่งใจไปเปราะนึง แต่ยังรู้สึกเศร้าๆ หวิวๆ ปนขนลุกอยู่ตลอดเวลา แม่ของรุ่นพี่ถามว่า ไปทำอะไรที่ไหนกันมา มีผีพรายตามมา ตอนนี้เขาเข้าบ้านไม่ได้ แต่ยืนรอเราอยู่หน้าบ้าน เราได้ยินแบบนั้นก็ร้องใหญ่เลย แล้วแม่เขาก็สวดมนต์ กับให้เรากินน้ำมนต์ แล้วก็สั่งว่าให้เราค้างที่บ้านเขา ห้ามออกไปข้างนอก และห้ามลุกไปเข้าห้องน้ำหลังเที่ยงคืน ใครเรียกก็อย่าไปสนใจ ดวงเราตก เขาจะมาเอาเราไป เราเลยโทรไปเล่าให้แม่ฟัง แม่เราก็อนุญาตให้เราค้างที่นั่น แม่ของรุ่นพี่ก็ทำพิธีอะไรบางอย่างให้เราในคืนนั้น แล้ววันรุ่งขึ้น แม่เราก็พาเราไปทำบุญโลงศพต่ออีกด้วย จนแน่ใจว่าเขาไม่ตามเราแล้วค่ะ
* ยังมีเรื่องที่สามแต่ค่อนข้างยาวววว แอดขอแยกไปต่อครั้งหน้านาจา..
Story by คุณพี (นามสมมติ)