เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณ Napaporn Komsin ( จากเรื่องที่ 665 เล่นซ่อนหาในบ้านลิเก ) ครับ คุณ Napaporn เล่าว่า.. เรามีพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เป็นลูกของป้า ชื่อ พี่จอม (นามสมมติ) ตอนนั้นพี่จอมอายุ 19 ย่าง 20 พี่จอมเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ขยันขันแข็ง ตอนนั้นพี่จอมเองเรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่ช่วงปิดเทอม พี่จอมจะกลับมาอยู่บ้าน และหางานทำ ทุกๆ เช้าพี่จอมจะออกไปทำงาน แล้วกลางวันจะกลับมาทานข้าวที่บ้าน เพราะอยู่ใกล้ๆ
วันนั้นก็เป็นอีกวันที่พี่จอมออกไปทำงานแล้วกลับมาทานข้าวกลางวัน เรากำลังเล่นอยู่หน้าบ้าน พี่จอมก็ทักเราปกติ พอพี่จอมทานข้าวเสร็จก็ไปทำงานต่อ แต่ก่อนออกไป ยายเราได้ทักพี่จอมว่า ‘จอมเป็นอะไรหรือเปล่าลูก เครียดอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าดูหมองๆ’ พี่จอมก็ตอบว่าเปล่าครับ แล้วก็ไปทำงานต่อ โดยที่เราและทุกคนไม่รู้เลยว่า นั่นคือการที่เราจะได้เจอ และได้คุยกับพี่จอมเป็นครั้งสุดท้าย..
ช่วงเวลาเกือบบ่าย 3 ของวันนั้น คุณลุง (พ่อของพี่จอม) ก็ขับรถเข้ามาที่บ้านแล้วบอกทุกคนว่า ‘จอมเสียแล้ว!’ พวกเราทั้งอึ้ง ทั้งงง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ลุงบอกว่า พี่จอมลงไปซ่อมสายไฟที่อยู่ตรงขอบบ่อปลาในไร่ที่เขาทำงานอยู่ แล้วเจ้าของบ่อยังไม่ได้ตัดกระแสไฟ เท้าของพี่จอมจุ่มลงไปในบ่อเลยทำให้ถูกไฟช็อตเสียชีวิต.. พวกเราร้องไห้หนักมาก ไม่คิดว่าคนดีๆ เเบบพี่จอมจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้
พวกเราก็ตั้งสวดศพพี่จอมไว้ที่วัด ช่วงนั้นเป็นเดือนเมษายน เราปิดเทอมพอดี เรากับพี่อีกคนก็นอนเฝ้าอยู่หน้าโลงศพ คอยดูธูปใหญ่ เผื่อเวลาดับจะได้จุดดอกใหม่ทัน.. จนคืนสุดท้าย เราเป็นคนเอาข้าวไปให้พี่จอม เราก็เคาะโลงบอกว่า ‘หนูเอาของที่พี่ชอบมาให้แล้วนะ คิดถึงจัง เวลามีปัญหาหนูไม่รู้จะไปคุยกับใครเลยทีนี้..’ คืนนั้นพอพระสวดเสร็จ เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินกลับบ้าน วัดกับบ้านเนี่ยอยู่ห่างกันแค่ 200 เมตร ระหว่างทางที่เดินกลับ เราได้กลิ่นธูปตามมาตลอดจนถึงหน้าบ้าน พออยู่หน้าบ้านเราเลยพูดว่า ‘ขอบคุณนะ ที่เดินมาเป็นเพื่อนหนู..’ จากนั้นกลิ่นธูปก็กลายเป็นกลิ่นดอกไม้หอมๆ แล้วก็จางหายไป
พอมาเช้าอีกวันซึ่งเป็นวันเผา ช่วงเช้าพวกญาติๆ เราก็นิมนต์หลวงพ่อมาทำพิธีบวชให้กับพี่จอม (ตามความปรารถนาก่อนตาย) เราก็เตรียมเครื่องบวชพร้อมทุกอย่าง ตอนที่หลวงพ่อกำลังจะเปลี่ยนผ้า เอาจีวรใหม่ที่เราเตรียมไว้ทำเครื่องบวชให้พี่จอมไปห่มแทน ช่างภาพที่เราจ้างมาในงานก็จับภาพอะไรได้บางอย่าง แต่ช่วยกันดูก็ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร? จนเผาเสร็จอะไรเสร็จเรียบร้อย พวกผู้ใหญ่ก็นิมนต์ให้หลวงพ่อไปเชิญดวงวิญญาณออกมาจากที่ที่พี่จอมเสีย เพื่อพาวิญญาณกลับบ้าน อันนี้เราไม่ได้ไปด้วยเพราะว่าตอนนั้นยังเด็ก แต่แม่เราไป แล้วแม่มาเล่าให้ฟังว่า ทางที่เข้าไปไร่มันลึกมาก ตอนนั้นก็เริ่มมืดแล้ว เข้าไปข้างในบ่อปลาก็มีหลายบ่อมากๆ แม่ว่าขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ว่าบ่อไหน ลุงที่ขับรถไปให้แกเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนโบกมืออยู่ที่บ่อทางด้านซ้ายข้างใน แกก็ขับเข้าไปจอด ขอบบ่อเห็นเป็นรอยดินโคลนสไลด์เป็นทาง ซึ่งเป็นบ่อที่พี่จอมเสียชีวิตจริงๆ แต่ที่แปลกคือ พอจอดรถลงมาก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นแล้ว? หาที่ไหนก็ไม่เจอ ทุกคนเลยลงความเห็นว่านั่นคือพี่จอมที่มาชี้จุดให้ พอทำพิธีเชิญวิญญานเสร็จก็พากันกลับ จากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก..
จนมาถึงวันที่พี่สาวไปเอารูปจากร้านถ่ายรูป พวกเราก็ไล่ๆ ดู แต่มันจะมีรูปอยู่ 4-5 รูป ที่เป็นช่วงตอนทำพิธีบวช ที่หลวงพ่อกำลังจะคลุมผ้าจีวรใหม่แทนพี่จอม ในรูปนั้น ด้านหน้าของหลวงพ่อคือเงาลางๆ ของผู้ชายคนหนึ่งนั่งพนมมืออยู่ ที่ตัวเหมือนมีสร้อยสังวาลย์พาด พอทุกคนได้เห็นรูปนั้นต่างพากันร้องไห้ ผู้ชายในรูปคือพี่จอมแน่ๆ และในวันที่พี่จอมเสีย อีกแค่ 5 วันพี่จอมก็จะอายุ 20 ปีเต็มพอดี และพี่จอมเคยพูดไว้ว่าจะบวชภายในปีที่อายุเต็ม 20 ปี เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไป 9 ปีแล้ว แต่น้องสาวคนนี้ก็ยังคงคิดถึงพี่จอมอยู่เสมอ ด้วยรักจากน้องสาวของพี่ค่ะ
Story by Napaporn Komsin