เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องสั้นๆ จากคุณหาญ ใจสิงห์ครับ คุณหาญเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พศ. 2540 ตอนที่ผมเรียนอยู่ ปวช.2 สอบกลางภาคเดือนตุลาคมเสร็จ ทางโรงเรียนก็ให้นักศึกษาไปฝึกงานกับศูนย์ราชการต่างๆ ในจังหวัด โดยทำการจับฉลากกันว่าใครจะได้ไปฝึกที่ไหน ปรากฏว่าผมกับเพื่อนอีก 2 คนได้ไปฝึกงานที่สาธารณสุขอำเภอเมือง ใกล้กับศาลากลางจังหวัดครับ ไปฝึกงานได้ 2 วัน พี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่เขาก็ชวนผมบอก ‘ลองไปทำอาสาไหม? ที่มูลนิธิ’ ผมถาม ‘เก็บศพเหรอพี่? ไม่ไหวมั้ง..’ แกหยอกผมว่าทำอย่างกับเห็นผี กลัวผีอย่างงั้นล่ะ ผมเลยไม่อยากขัด เลยบอกพี่เขา ‘ไปก็ได้ครับ..’
พอดีว่าวันนั้นมีเหตุจริงๆ เป็นผู้หญิงขี่รถชนกับสิบล้อตายคาที่ สมองกระจายเต็มถนน ผมนั่งรถไปกับพี่เขา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอีก 2 คน ไปถึงเห็นสภาพศพแบบดูไม่ได้เลยครับ นอนคว่ำเหลือแค่ตัวถึงคอ หัวเละ พี่บอกให้ผมไปเข็นรถคนตายไปไว้ข้างถนนเพื่อรอตำรวจ ผมเดินไปจับแฮนด์รถ ปรากฏว่ามันมีของเหลวบางอย่างติดอยู่ ผมเอามือขึ้นมาดูก็ตกใจ เห็นเป็นสีเหลืองๆ มีเส้นเลือดอยู่ สิ่งแรกที่คิดได้คือมันสมองแน่นอน! ผมรีบเอามือเช็ดกับพื้นถนนทันที ตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงพูดมาว่า ‘มึงเอาสมองกูไปถูพื้นทำไม!’ ผมเงยหน้ามา เห็นผู้หญิงที่ตายนั่งอยู่บนเบาะรถ กำลังมองมาทางผม ผมนิ่ง อึ้ง มองเธอตาต่อตาอยู่พักหนึ่ง จนพี่ที่มูลนิธิมาเรียกโดยการดึงเสื้อผม พี่แกบอกเรียกผมอยู่นานแล้ว แต่ผมเอาแต่นั่งนิ่งมองเบาะรถ แกแซวผมใหญ่ว่า ‘เอ็งเห็นผีเหรอไงวะ?’ แล้วก็ใช้ผมไปเอาศพขึ้นรถ โดยที่ผมต้องนั่งในแค็ปหลังกับศพ และพี่อีกคนหนึ่ง.. ก่อนที่ประตูแค็ปหลังจะปิด ภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนนั้นยืนไม่มีหัวอยู่กลางถนน! ผมก็ได้แต่กลัว และสงสารเธอในเวลาเดียวกัน แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมก็ยังไปช่วยที่มูลนิธิอีก 3-4 ครั้งครับ
Story by คุณหาญ ใจสิงห์