เรื่องนี้ส่งมาจากคุณเนมครับ คุณเนมเล่าว่า.. เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 10 ปีมาแล้ว ผมเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิด แต่เรื่องราวไม่ได้เกิดที่หาดใหญ่หรอกนะครับ คือที่บ้านผมส่วนใหญ่จะรับราชการกันหมด ช่วงนั้นลุงของผมต้องเดินทางไปรับตำแหน่งบริหารใหม่บนเกาะแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล ค่อนข้างมีความเจริญ เพราะเป็นตำบลที่มีเกาะท่องเที่ยวอยู่มาก ซึ่งแน่นอนว่าลุงผมก็จะต้องหาบ้านพักครับ บ้านพักของสำนักงานก็เต็มหมดแล้ว เลยต้องเช่าบ้านข้างนอก ก็ไปเจอบ้านหลังหนึ่งสภาพใช้ได้ แต่ว่าอยู่ในสวนยางพารา ห่างไกลจากบ้านหลังอื่นพอสมควร แต่ที่น่าตกใจคือราคาเช่าเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ลุงเลยตกลงเช่าไปครับ
วันแรกที่ลุงย้ายไปอยู่ ก็ไปส่งกันหลายคนครับ นอนกันที่นั่นเลย เพียงแค่คืนแรกก็มีเหตุต้อนรับเลยล่ะครับ พอฟ้าเริ่มมืดไฟในบ้านก็ดับหมดเลย ลุงผมเลยออกไปดู (แกเป็น ผอ.กองช่างในสมัยนั้นครับ เลยมีความรู้เรื่องช่างพอตัว) ก็ปรากฏว่าทุกอย่างปกติดีไม่มีอะไรเสียแต่ไฟมันไม่ติดเอาดื้อๆ คืนนั้นก็เลยต้องจุดเทียนนอนกันครับ ที่แปลกคือ พอตื่นเช้ามาไฟก็ติด ทีวีก็เปิดตามปกติครับ เหตุการณ์มันก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยมา แต่ที่เป็นหนักๆ คือไฟห้องน้ำครับ มันจะติดๆ ดับๆ พอจะเปิดใช้ดันดับ พอจะปิดก็ดันติดขึ้นมา แต่ลุงผมก็ไม่อะไร ยังพอรับได้อยู่
ทีนี้พอช่วงปิดเทอม ผมก็ไปเที่ยวหาลุงครับ สัญญาณมือถือผมก็ปกติมาตลอด แต่พอถึงบ้านหลังนี้ สัญญาณก็หายไปดื้อๆ ครับ ผมก็ได้แต่ทำใจ ไม่มีมือถือเล่น (สมัยนั้นติดบีบีมาก) วันแรกผ่านไปก็ไม่มีอะไรครับ แต่พอวันที่ 2 นี่ล่ะ กลางวันแสกๆ เลยครับ ระหว่างที่ผมเปิดทีวีดู จำได้เลยตอน 9 โมงกว่า อยู่ๆ ก็มีคนเดินผ่านจอทีวีไปทางหลังบ้าน แต่งชุดขาวเหมือนชุดละหมาดผู้หญิงมุสลิม ผมตกใจมาก มันวูบเดียวเร็วมาก แต่ก็ชัดมาก ที่บ้านผมก็สอนมาบ้างครับ เจออะไรแบบนี้ให้เงียบๆ ไว้ ผมเลยปิดทีวี แล้วไปหายายที่หลังบ้าน คืนนั้นลุงก็ต้องไปลงพื้นที่อีก เลยไม่ได้กลับบ้าน ก็มีแค่ผมนอนกับยาย 2 คนเท่านั้น.. เวลาประมาณ 3 ทุ่มฝนก็ตกครับ ผมได้ยินเสียงคน 2 คนคุยกันที่หน้าประตูบ้าน คุยเป็นเรื่องราวเลย ยายก็ได้ยิน ยังบอกผมเลยว่า สงสัยเขามาหลบฝนกัน ผมกับยายก็นอนต่อ แต่ฝนหยุดแล้ว เสียงคุยก็ยังมีอยู่ ยายเลยไปเปิดผ้าม่านจากห้องนอนดู ปรากฏว่าหน้าบ้านไม่มีใครเลยครับ ว่างเปล่า.. เสียงรถก็ไม่มีผ่าน เสียงเดินหรือวิ่งก็ไม่มี หลอนเลยสิครับ กว่าจะหลับคืนนั้นได้ ล่อไปดึกเหมือนกัน อยู่บ้านหลังนี้มีเหตุแปลกๆ แบบนี้เสมอครับ แถมยังมีเรื่องให้เลือดออกเกือบทุกวัน อยู่ได้สักอาทิตย์ผมก็กลับบ้านละครับ
ช่วงหลังๆ นี้เริ่มหนักครับ ลุงกับยายเคยเล่าว่า มีคราบเลือดหยดมาตามฝาผนังบ้าง มีรอยเท้าคนเดินขึ้นไปที่เพดานบ้าง จนยายเริ่มทนไม่ได้ ก็คอยเผาพริกเผาเกลือแช่ง (ยายผมพอมีวิชาอยู่บ้าง แต่แกไม่สอนลูกหลานครับ แกบอกมันไม่ดี) พอเริ่มเผาไปสักพัก ไฟในบ้านนี่ดับหมด ไฟที่เผาก็ดับ หลังจากนั้นมานี่ยิ่งหนักเลยครับ ลุงก็เริ่มป่วย ทรุดโทรมเร็วมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ น้ำหนักลดลงไปเยอะเลย ยายก็เป็นห่วงลุงมาก ทำอะไรไม่ได้จนต้องไปหาหมอผีคนหนึ่ง หมอผีบอกว่า ‘บ้านหลังนี้ไปตั้งทับสุสานเก่า มีผีผู้หญิงตนหนึ่งเฮี้ยนมาก จะเอาลุงไปอยู่ด้วย..’ แล้วหมอผีแกก็ทำของแก้มาให้ครับ แล้วทำน้ำมนต์ให้ไว้รดรอบบ้าน และในบ้าน เชื่อไหมครับ ตอนน้ำหยดลงดินเนี่ย ลมพัดวูบมาเลย ประตูหน้าต่างเปิดๆ ปิดๆ เองเหมือนในหนังเลยครับ แล้วก็มีเสียงผู้หญิงร้องโหยหวนดังมาก
หลังจากนั้นนี่ลุงกับยายย้ายบ้านใหม่เลยครับ แต่ลุงเกิดลืมของเลยกลับเข้าไปในบ้าน ลุงถึงกับผงะ เพราะในบ้านมีแต่คราบเลือดครับ หนู แมลงสาบ ตายเกลื่อน เหม็นคละคลุ้งไปหมด ทั้งๆ ที่ลุงเพิ่งออกจากบ้านไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง.. พอไปถามชาวบ้านแถวนั้น เขาบอกว่าเป็นผีแม่หม้ายแขก ตายไปนานแล้ว แต่เฮี้ยนมาก เคยให้พระเชิญวิญญาณไปที่อื่น แต่ก็ไม่ยอมไป ใครที่เป็นผู้ชายจะอยู่บ้านนี้ไม่ได้ ถ้ามีภรรยาเป็นอันต้องเลิกกัน ถ้าโสดก็จะป่วยหนักเลย เพราะผีแม่หม้ายเนี่ยจะเอาไปอยู่ด้วย..
Story by คุณเนม