เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณหาญ ใจสิงห์ครับ คุณหาญเล่าว่า.. เรื่องราวนี้บอกเล่าจากรุ่นน้องของผมที่ชื่อว่า แจ็ค แต่เป็นเรื่องที่แฟนสาวของมันที่ชื่อว่า เอิง เล่าให้ฟังอีกที ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนั้นเอิงอายุได้ 17 ปี หลังจากเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เธอตัดสินใจเข้ามาเรียนในตัวจังหวัด ซึ่งเอิงเลือกที่จะเรียนวิทยาลัยครู วิชาเอกนาฏศิลป์ด้วย ระยะทางจากบ้านไปวิทยาลัยราวๆ 15 กิโลเมตร ช่วงแรกก็ขึ้นรถประจำทางไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเธอสงสารจึงไปออกรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมสีขาวให้ เพื่อที่จะขี่ไปกลับ แล้วเอิงเป็นคนที่ไม่เคยกลับบ้านดึกเลย เต็มที่คือทุ่มครึ่งก็ต้องถึงบ้านแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องน่ากลัวสำหรับเธอขึ้น
หลังจากเอิงเรียนเสร็จแล้วประมาณบ่าย 3 โมง เพื่อนๆ ได้ชวนเธอไปกินสุกี้หม้อรวมที่บ้าน ตอนแรกก็คิดจะปฏิเสธ แต่ทนเพื่อนๆ รบเร้าไม่ไหว เธอบอกว่าได้ แต่อย่าดึกนะ เดี๋ยวกลับดึกพ่อแม่จะเป็นห่วง จนเวลาล่วงเลยไป.. ดูนาฬิกาเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว เพื่อนก็ชวนให้เอิงนอนค้างที่บ้านเลย แต่เอิงบอกว่าพรุ่งนี้วันเสาร์ที่บ้านจะไปวัดแต่เช้า ยังไงก็คงต้องกลับบ้าน เอิงขี่รถออกจากบ้านเพื่อนมาตามทางเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็ปวดท้องเลยมองหาปั๊มแต่ก็ไม่มี ไปเจอป้อมตำรวจเล็กๆ และมีศูนย์อาสากู้ภัยติดกัน เธอจอดรถแล้วไปขอเข้าห้องน้ำ พอเสร็จธุระส่วนตัวแล้ว ออกมาเจอพี่กู้ภัยผู้หญิงกำลังนั่งคุยกับพี่ตำรวจตรงโต๊ะม้าหินอ่อนข้างหน้า พี่ผู้หญิงถามเธอว่าจะไปไหนดึกๆ แบบนี้? เอิงบอกจะกลับบ้านตรงนั้นๆ พี่ตำรวจเลยบอกว่า น้องมาทางไหนล่ะทุกวัน ถ้ามาทางเส้นหลักน่ะ เมื่อตอนบ่ายเขามาทำถนนใหม่นะ ไปลำบาก ต้องใช้ทางอ้อมอีกเส้นไป เอิงบอกเส้นที่มีป่าอ้อย ไร่ข้าวโพดใช่ไหม? ไม่เป็นไร เพิ่มอีก 2-3 กิโลก็ได้ค่ะ พี่กู้ภัยหญิงเลยบอกว่านี่ดึกมากแล้วนะ ให้พวกพี่ขับรถไปด้วยไหม? เอิงบอกไม่ต้องก็ได้ค่ะ แล้วเธอก็ขี่รถออกไป
พอถึงแยกเส้นหลักมีป้ายบอกว่า ‘ทางไม่สะดวก’ ตามที่บอกจริงๆ เอิงเลยเลือกเลี้ยวเข้าทางอ้อมแทน ซึ่งพอขี่รถมาสองข้างทางเป็นป่าอ้อยสูง อีกฝั่งเป็นไร่ข้าวโพด ท่ามกลางเดือนหงายแสงจันทร์กระจ่างส่องนำทางสัญจร มันเย็นยะเยือกหัวใจอย่างไรไม่รู้ เธอขี่ไปได้สักพัก เหมือนเห็นอะไรอยู่ในไร่ข้าวโพด หันไปมองดูไม่เจออะไร แต่พอหันกลับมาที่ถนนก็ต้องตกใจ กลายเป็นว่ามีงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยอยู่หน้ารถ เธอหักรถหลบจนตกข้างทาง แต่ว่ายังมีสติที่รถไม่ได้ล้ม เอิงเข็นรถขึ้นมาพลางมองหางูตัวนั้นกลับไม่มีแล้ว.. เธอขี่รถไปต่อแล้วก็มองไปข้างหน้า เห็นเหมือนคนกำลังเดินอยู่ริมถนน พอเข้าไปใกล้กลายเป็นผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษาเดินอยู่ เธอดูนาฬิกาบอกเวลาว่า 4 ทุ่มครึ่ง ก็นึกสงสัยว่าทำไมมาเดินตอนนี้คนเดียว? เธอบีบแตรเสียงดังใส่ ผู้หญิงคนนั้นหยุดเดิน ก่อนจะค่อยๆ หันมา เธอหน้าตาน่ารักทีเดียว แต่มีรอยฟกช้ำ ตาเขียว มุมปากมีเลือดออก เอิงตกใจจอดรถแล้วถามว่า ‘เป็นอะไรหรือเปล่าคะ แล้วจะไปไหนตอนนี้? กลับบ้านหรือเปล่า เราไปส่งได้นะ..’ สาวนักศึกษาคนนั้นบอกมาว่า ‘เรายังไปไหนไม่ได้ เราอยู่ที่นี่ เธอมาอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยสิ..’ เอิงมองไปรอบตัว ‘ไหนล่ะ? ไม่เห็นมีบ้านคนเลยนะแถวนี้..’ นักศึกษาคนนั้นตอบว่า ‘เราไม่ได้อยู่บ้านหรอก เราโดนข่มขืนแล้วฆ่าตายตรงป่าอ้อยนี่ล่ะ..’ เอิงได้ยินแบบนั้นก็ตกใจสุดขีด บอกไปว่า ‘เธออย่าพูดแบบนี้สิ เรากลัวนะ!’ ไม่มีคำตอบใดๆ จากเธอคนนั้น แต่สิ่งที่เอิงเห็นคือ จากชุดนักศึกษาที่ใส่เรียบร้อยตอนแรก กลับกลายเป็นชุดที่ขาดรุ่งริ่ง กระโปรงถูกฉีกไม่เป็นทรง ลูกตาทั้งสองถลนออกมา เอิงรีบขี่รถหนีไปด้วยความกลัวสุดชีวิต แต่ยังได้ยินเสียงวิ่งตามมา หันไปดูเห็นผีนักศึกษาคนนั้นกำลังวิ่งหรือลอยตามมาก็ไม่แน่ใจ มองกระจกข้างก็เห็นมือผีจะมาจับที่ไหล่เธอหลายครั้ง เธอกลัวมากบิดรถสุดแรงหวังเพียงจะให้พ้นจากผีตนนี้
จนมองดูกระจกแล้วไม่เห็น เอิงจึงหันกลับหลังไปดูปรากฏว่าหายไปแล้ว แต่พอหันกลับมา ภาพที่เธอเห็นคือผีสาวนั่นกำลังนั่งยองๆ อยู่ในตะกร้าหน้ารถ!! แขนวางเท้าที่หน้าปัดรถแล้วยื่นหน้าตาถลนมามอง เธอตกใจสุดขีดจนเป็นเหตุให้รถล้มทันที ไปรู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ได้รู้ทีหลังว่าคนที่มาช่วยเธอคือพี่ตำรวจ กับพี่กู้ภัยที่เอิงได้คุยด้วยก่อนหน้านั้น เพราะรู้สึกเป็นห่วงเลยขับรถตามมา แล้วก็เจอจริงๆ เอิงเล่าเหตุการณ์ที่เจอให้พี่ทั้งสองฟัง พี่กู้ภัยหญิงเลยบอกว่า ‘หะ นี่ยังอยู่อีกเหรอ!? หลายเดือนแล้วนะ’ เอิงจึงถามว่ามีอะไรคะ? พี่ตำรวจเลยเล่าว่า ‘เมื่อ 3 เดือนก่อน มีน้องนักศึกษาผู้หญิงถูกลวงมาฆ่าข่มขืนหมกป่าอ้อย กว่าจะมีคนมาพบศพก็แห้ง เหลือแค่ชุดนักศึกษานี่ล่ะ ตอนใหม่ๆ นี่เขาว่าเฮี้ยนมากเลยนะ ทั้งมายืนโบกรถงี้ วิ่งในป่าอ้อยงี้ ลอยตามรถงี้ คนเลยกลัวกัน ไม่กล้าวิ่งรถเส้นนั้นไปช่วงนึงเลย นี่เขาคงเห็นว่าน้องเป็นนักศึกษาเหมือนกันมั้ง เลยอยากมีเพื่อน.. แล้วพี่ก็ถามน้องแล้วว่าให้ไปส่งไหม น้องก็ไม่เอา’ เอิงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ถ้าเธอต้องเลือกใหม่อีกครั้ง เธอคงเลือกที่จะนอนอยู่ที่บ้านเพื่อนแต่แรกแล้วล่ะ จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้.. เรื่องก็มีเท่านี้ครับ
Story by คุณหาญ ใจสิงห์
Credit ภาพต้นฉบับจากภาพยนตร์ Shutter กดติดวิญญาณ