เรื่องนี้มาจากคุณ Kallayanee Sukpraw ครับ คุณ Kallayanee เล่าว่า.. จะบอกว่าเป็นเรื่องของตัวเองก็ไม่ถูก คือเพื่อนเราเป็นคนเจอค่ะ ส่วนเราก็อยู่กับนางบ้างเป็นบางครั้ง คือเพื่อนคนนี้เรารู้จักกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ แต่ไม่ได้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันนะคะ บังเอิญว่าเราสนิทกันผ่านโซเชียลมีเดีย และสนิทกันเร็วมาก ช่วงที่เราซิ่ว และยังไม่ได้เรียนต่อจริงจัง เราไปหานางบ่อยมาก บางครั้งก็ไปค้างหอนาง อยู่เป็นเพื่อนนางบ้าง เพราะนางอยู่คนเดียวค่ะ
ช่วงที่เกิดเรื่อง เป็นช่วงก่อนวันเกิดนางประมาณ 3-4 เดือน ช่วงนั้นนางมักจะทักแชท ไม่ก็โทรมาเล่าว่ารู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครอยู่ด้วยในห้อง นางเป็นคนจิตอ่อน คิดมาก เป็นคนที่ฟุ้งซ่านง่ายมากๆ ค่ะ เราก็บอกไปว่า ‘มึงอยู่คนเดียวในบรรยากาศเงียบๆ แบบนั้น มันก็ฟุ้งซ่านกันทั้งนั้นแหละ ยิ่งคนสติแตกง่ายแบบมึง มันก็ไม่แปลก..’ นับตั้งแต่นั้น เราก็ไปหานางบ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้นางคิดมากไปกว่านี้
ผ่านไปได้สัก 1 เดือน เหมือนอาการนางจะหนักขึ้นกว่าเดิมจนเรารู้สึกได้ โทรมาเล่าว่า มีผู้ชายอยู่ในห้องกับนางด้วย จากที่แค่เป็นรู้สึกว่ามีใครอยู่ในห้อง กลายเป็นเริ่มเห็นเงาดำๆ จนถึงขั้นรับรู้ว่านั่นเป็นวิญญาณของชายคนหนึ่ง.. เพื่อนเราจิตตกมาก เพราะกลางคืนนางจะระแวงจนแทบไม่ได้นอน บางครั้งนางบอกว่า ตื่นขึ้นมากลางดึก เห็นเขาก็มายืนอยู่ปลายเตียง หรือลุกมาเข้าห้องน้ำเดินผ่านหน้าต่าง ก็เห็นเขายืนอยู่นอกหน้าต่าง ทั้งๆ ที่ตรงหน้าต่างบานนั้นมันไม่มีระเบียง หรืออะไรที่จะยืนด้านนอนได้เลย..
เรารู้สึกว่ามันเริ่มหนักข้อมากเกินไปละ งั้นก็ลากนางไปทำบุญสักหน่อย เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น นางจิตตกมาก ร้องไห้บ่อย ไม่มีกระจิตกระใจจะเรียน บางวันไม่กลับหอ ต้องไปนอนหอเพื่อน พอเช้าแล้วถึงจะกล้ากลับมาอาบน้ำ เปลี่ยนชุด แล้วก็ไปเรียน.. แต่พอหลังจากพาไปทำบุญก็ดูเหมือนว่านางจะสบายใจขึ้น และชีวิตดูสงบลงอยู่ช่วงระยะหนึ่ง
คืนหนึ่งเราไปนอนค้างหอนาง อยู่ดูหนัง นั่งเล่นกันจนดึก และพากันออกไปกินบะหมี่ใกล้ๆ หอ ขากลับเดินมาด้วยกัน นางเงยหน้าขึ้นไปมองตึกที่เป็นหอพักของนาง แล้วนางก็ยืนนิ่ง กำแขนเราแน่นจนเราเจ็บ เราถามว่าเป็นอะไร? นางก็พูดเสียงแบบจะร้องไห้ว่า ‘ผู้ชายคนนั้นกำลังยืนโบกมือให้ อยู่ตรงระเบียงห้องกู!’ เราก็บอก ‘มึงตาฝาดหรือเปล่า? นั่นอาจจะเป็นระเบียงของห้องที่ตรงกับมึง แต่อยู่คนละชั้นก็ได้..’ นางก็เถียงเสียงสั่นกลับมาว่า ‘มึงจำไม่ได้เหรอ ว่าระเบียงห้องกูมันมีไม้แขวนตากถุงเท้า!’ (ไอ้ที่เป็นกลมๆ มีไม้หนีบห้อยเยอะๆ) เราเลยบอกไปว่า ‘โอ๊ยอีนี่! มึงคิดว่าทั้งตึกมีมึงซื้อใช้ได้อยู่คนเดียวเหรอไง? อย่าไปคิดมาก’
นางขอทำใจอยู่ข้างล่างตึกประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นจึงขึ้นไปอาบน้ำเข้านอนกัน เราตะลอนๆ กับนางมาทั้งวัน กลางวันก็ไปเที่ยว ตกเย็นก็ดูหนัง แถมเดินออกไปจัดมื้อดึกมาอีก คืนนั้นเราเหนื่อย เลยหลับสนิทมาก หลับไปไม่รู้เรื่องเลย จนมาตอนเช้า ที่ออกมาหาข้าวกินกัน เราถามนางว่าได้นอนไหมเมื่อคืน? นางก็ส่ายหน้า นางบอกว่า เมื่อคืนรู้สึกร้อนๆ เลยจะลุกมาปิดพัดลมแล้วเปิดแอร์แทน บวกกับได้ยินเสียง ‘แต๊กๆๆ’ ในห้องตลอด นางขยับหัวขึ้นมา ก็เห็นผู้ชายคนนั้นนั่งหันหลังให้อยู่ตรงปลายเตียง! กำลังนั่งกดเบอร์พัดลมเล่นไปมา สลับเบอร์ 1 2 3 ไปเรื่อยๆ ทำเอานอนไม่หลับจนใกล้สว่าง ถึงได้น็อคหลับไปเอง..
ช่วงที่พีคสุดๆ คือ 1 เดือนก่อนวันเกิดนาง จากที่นางเห็นผู้ชายคนนั้นในห้องบ่อยๆ จนประสาทจะกิน มันเริ่มเปลี่ยนเป็นผู้ชายคนนั้นมาเข้าฝัน นางเล่าว่า ในฝันนางไปทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับชายคนนั้น เท่าที่เราจำได้ก็มีกิจกรรมคล้ายๆ กับจิตอาสาทำอะไรสักอย่าง ไปเดินห้าง กินข้าว เดินเล่นสวนสาธารณะ บางครั้งก็นั่งเล่นริมน้ำ ทุกครั้งที่นางฝันถึงผู้ชายคนนี้ เขามักจะถามนางเสมอว่า ‘ไปด้วยกันไหม?’ แต่นางก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง นางตื่นมาเล่าตอนเรามาค้างด้วย โทรมาเล่า หรือทักแชทมาเล่าตลอด ในรายละเอียดความฝันนั้น มันดูเป็นเรื่องโรแมนติกมากๆ แต่มันน่าขนลุกตรงที่เขาเป็นผีนี่ล่ะ.. ด้วยความอยากรู้ เราเลยถามไปว่า ‘แล้วมึงตอบเขาไปว่าอะไร?’ นางบอกว่า ‘ในฝันกูส่ายหัวรัวๆ แล้วบอกว่าไม่ไปอะ..’ แล้วหลังจากนั้นนางก็ตื่น นางถามกลับมาว่า ‘ตอบว่าไป หรือไม่ไป แล้วมันทำไมเหรอ?’ เราก็บอกว่า ‘กูเคยได้ยินเรื่องชวนไปอยู่ด้วย ใครตอบตกลงไปนี่คือตายจริงๆ เลยนะ มึงอย่าตอบตกลงเชียว..’ นางก็เออออ ตกลงกับเรา แต่ดูหน้าก็รู้ว่าไม่ได้เชื่อเราเท่าไหร่..
จนครั้งสุดท้ายที่นางเล่าเรื่องความฝัน คือ 3 วันก่อนวันเกิดนาง นางโทรมาเล่าให้ฟังว่า นางฝันถึงผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว (คือตั้งแต่ฝันถึง เขาก็ไม่มารบกวนตอนตื่นอีกเลย) นางเล่าว่า ในฝันนางไปเที่ยวสวนที่เป็นกึ่งอุทยานกับผู้ชายคนนี้ เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายที่นางมาบอกเราว่า ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมากๆ นางจำรอยยิ้มผู้ชายคนนั้นได้แม่นที่สุด ในสวนนั้นมันร่มรื่นมาก ต้นไม้ใบหญ้า และดอกไม้ คือมันสวยไปหมด มีแสงแดดส่องลงมารำไร บรรยากาศยังกะสวนสวรรค์ก็ไม่ปาน ผู้ชายคนนั้นจูงมือนางเดินมาจนถึงหน้าน้ำตกเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาถามนางว่าอีก 3 วันจะถึงวันเกิดเธอแล้ว เธออยากได้อะไรไหม? นางตอบไปว่านางชอบอะไรโรแมนติกๆ (ชีวิตจริงนางก็เป็นคนโรแมนติกมากๆ) ผู้ชายคนนั้นตอบว่า ‘ได้ งั้นวันเกิดเธอ เธอไปเดทกับเราไหม? นางตอบไปว่า ‘ตกลง’ ในฝันผู้ชายก็ตอบนางว่า ‘อีก 3 วันจะมารับ’ (วันเกิดนาง) ตอนที่เราฟัง เราก็ตกใจอยู่ คือนางตอบตกลงไปแล้ว เราใจหายมาก แต่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้มันจะจริงหรือไม่จริง.. วันนั้นนางชวนเราไปดูหนังเป็นเพื่อน ไปกินข้าวเป็นเพื่อน เพื่อฉลองวันเกิดล่วงหน้า (วันเกิดนางคือวันสอบไฟนอลวันแรก) หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีก เราเกรงใจที่นางต้องสอบ เลยไม่อยากจะรบกวนมาก
คืนก่อนวันเกิดนาง นางบอกว่านางตื่นเต้น พ่อจะมารับไปฉลองวันเกิด นางลุ้นมากว่าพ่อจะให้ของขวัญอะไรปีนี้.. พ่อนางนัดให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ตอนแรกพ่อจะมารับ แต่นางเลือกที่จะไปเอง ไม่อยากให้พ่อต้องวนรถไปมา และมันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากหออะไรมากมาย.. แต่แล้วระหว่างทาง นางประสบอุบัติเหตุรถพุ่งตกไหล่ทาง จากสภาพแผลมันไม่ควรจะต้องเป็นอะไรมาก แต่ผลคือนางตายคาที่!! พ่อแม่นางใจสลายเพราะเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ส่วนเราเองก็ทั้งช็อค ทั้งเสียใจ ทั้งตกใจ เพราะเราเป็นคนที่รู้เรื่องทุกอย่าง ทุกวันนี้เราก็ยังคิดถึงนาง และเศร้าทุกครั้งที่มานึกถึงเรื่องนี้ ถึงมันจะผ่านไปนานมากแล้ว แต่ก็แอบรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ว่าทำไมเราถึงไม่คอยย้ำนางบ่อยๆ เรื่องที่อย่าไปตอบตกลงกับผี วิญญาณ เพราะเราเตือนนางไปแค่ครั้งเดียว สุดท้ายนางก็จากทุกคนไปแล้วตลอดกาล RIP
Story by คุณ Kallayanee Sukpraw