เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณโจ้ครับ คุณโจ้เล่าว่า.. ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายครับ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อ อาร์ต เรา 2 คนสนิทกันมาก มีอยู่วันหนึ่งเรานัดกันว่าจะไปเที่ยวอ่างเก็บน้ำกันตอนหลังเลิกเรียน โดยนัดกันที่ลานจอดรถ ผมก็ตกลงครับ.. จนถึงเวลาเลิกเรียนผมก็เดินไปรอมันที่ลานจอดรถ ไม่นานไอ้อาร์ตมันก็เดินมา โดยที่บอกให้ผมรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวมันจะไปเอารถมา แล้วระหว่างที่ผมรอ แม่ผมก็โทรเข้ามาครับ บอกว่า ‘โจ้อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวแม่จะไปรับ แล้วจะพาไปหาพ่อที่ทำงาน..’ ผมก็ปฏิเสธแม่ไป แต่แม่กลับพูดเสียงดังกลับมาว่า ‘กูจะไปรับมึง อย่าไปไหน!’ ผมถึงกับตกใจในสิ่งที่แม่พูด เพราะเเม่ผมไม่เคยพูดคำหยาบใส่ผม ผมก็เลยต้องตอบกลับไปว่า ‘ได้ครับ งั้นผมจะรอที่หน้าโรงเรียน..’
พอวางสายจากแม่ไป ไอ้อาร์ตก็ออกพอดี ผมจึงบอกมันว่า ‘ไปไม่ได้แล้วว่ะ แม่กูกำลังจะมารับ มีธุระด่วนมั้ง..’ แล้วก็ขอโทษมันไปด้วย มันก็โอเคไม่เปนไร ไว้วันหลังแล้วกัน.. พอเวลาผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง แม่ผมก็มารับ ผมเลยบอกกับแม่ว่า ‘แม่ ผมกำลังจะไปเที่ยวกับไอ้อาร์ตมันเลย แม่จะโทรมาทำไมเนี่ย?’ แม่ผมก็รีบสวนกลับมาทันทีเลยว่า ‘จะไปทำไมไม่ไป แล้วจะโทรให้แม่มารับทำไม? ยังมาบอกว่าแม่โทรไปหาอีก..’ ตอนนั้นผมงงเลยครับ เลยถามแม่กลับไปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่า ‘แม่ไม่ได้โทรมาจริงๆ เหรอ?’ แม่ผมก็ยืนยันบอกว่า ไม่ ผมต่างหาก ที่เป็นคนโทรไป ผมก็บอกแม่ว่าผมไม่ได้โทร.. ผมกับแม่ถึงกับอึ้งเลยครับเงียบกันไปสักพัก จนแม่ผมบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปวัดก่อนเข้าบ้านแล้วกัน.. เวลาผ่านไปได้ไม่นาน เพื่อนผมอีกคนหนึ่งก็โทรเข้ามาบอกว่า ‘ไอ้โจ้ มึงทำใจดีๆ นะ ไอ้อาร์ตมันถูกรถชนตายแล้ว ตรงถนนแถวหน้าอ่างเก็บน้ำเมื่อกี้นี่เอง..’ เท่านั้นล่ะ ผมถึงกับหมดแรงทันทีเลยครับ..
พอถึงวันงานศพ ผมกับเพื่อนๆ ก็ไปช่วยงานกันทุกวัน พอเวลาผ่านไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง วันนั้นผมอยู่โรงเรียนเล่นบอลกับเพื่อนๆ จนดึก ประมาณ 3 ทุ่มกว่า ผมก็โทรบอกให้แม่มารับ กลับถึงบ้านผมก็อาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ ประมาณ 5 ทุ่มก็เข้าห้องนอนตามปกติ.. แต่คืนนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมสดุ้งตื่นขึ้นมา น่าจะตี 3 กว่าๆ ผมได้ยินเสียงหายใจ ‘ฟืดๆ’ 2-3 ที ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเสียงตัวเองกรนด้วยซ้ำ ผมก็นอนต่อกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ ก็รู้สึกเหมือนกับมีคนมานั่งอยู่ตรงปลายเตียงผม เพราะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่มันยวบลงไปชัดเจนครับ ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้ผมตะโกนออกไปว่า ‘ไอ้สัสอาร์ต กูรู้นะว่าเป็นมึง!’ ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใช่หรือเปล่า.. แล้วสักพักก็มาเลยครับ เป็นภาพขึ้นมาชัดเลย ผมถึงกับหน้าชา ขนตูดลุกเลยครับ เพราะสิ่งที่ผมเห็นคือไอ้อาร์ตครับ มันไม่ได้นั่ง แต่มันยืนร้องไห้อยู่ตรงปลายเตียง น้ำตามันไหลออกมา เสียงหายใจ ‘ฟืดๆ’ แบบที่ได้ยินก่อนหน้านี้เลย แล้วมันก็บอกว่า ‘กูขอโทษที่ทำแบบนี้ กูฝากดูแลแม่กูด้วยนะ แล้วบอกแม่กูด้วยว่ากูขอโทษ ชาติหน้ากูจะขอเกิดเป็นลูกแม่อีก และกูจะขอเป็นเพื่อนกับมึงทุกๆ ชาติไป..’ ทั้งหมดที่ผมได้ยิน มันเป็นเหมือนเสียงในหัว โดยที่มันไม่ได้อ้าปากพูดอะไรเลย แต่มันสื่อถึงกันได้อย่างประหลาดครับ.. แล้วมันก็หายไป
พอรุ่งเช้ามา ผมก็ได้ไปเล่าให้แม่ผม กับแม่ไอ้อาร์ตฟัง แม่อาร์ตถึงกับน้ำตาไหลเลยครับ.. วันนั้นทั้งผมทั้งแม่อาร์ตก็พากันไปทำบุญ และกรวดน้ำให้มัน จนทุกวันนี้ผ่านมาหลายปี ถ้าผมได้มีโอกาสไปทำบุญที่วัดไหน ผมก็จะเผื่อบุญให้ไอ้อาร์ตด้วยเสมอ.. แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจผมมาตลอดจนถึงทุกวันนี้คือ ใครเป็นคนโทรมาหาผมกับแม่วันที่ไอ้อาร์ตตาย? RIP แด่อาร์ตเพื่อนรัก
Story by คุณโจ้ โลลี่ป๊อบ